ความรัก ความรู้สึก ความทรงจำ .. กาลเวลา

When My Love Blooms
화양연화 – 삶이 꽃이 되는 순간

ปี 1993
ยุนจีซู (รับบทโดย จอนโซนี ผลงาน : Encounter / ภาพยนตร์ Jo Pil-ho: The Dawning Rage) นักศึกษาสาวเอกเปียโน ที่นอกจากจะสวยจนเป็นที่เลื่องลือ เธอยังเต็มไปด้วยความสดใส และร่าเริงอยู่เสมอ วันหนึ่งระหว่างเหตุการณ์ชุลมุนของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาชน เธอได้พบกับ ฮันแจฮยอน (รับบทโดย พัคจินยอง ผลงาน : He Is Psychometric / Legend of The Blue Sea) แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหว เขาช่วยเธอไว้ และทิ้งรอยประทับไว้ในใจเธอ

หลังจากที่ จีซู ได้ใกล้ชิดกับ แจฮยอน ที่เป็นแกนนำผู้เปี่ยมด้วยอุดมการณ์ เธอก็ค่อยๆซึมซับ และเรียนรู้ในสิ่งที่แจฮยอนเชื่อ และเข้าใจโลกของแจฮยอนมากขึ้น จากหญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องของโลกกว้าง เธอเปลี่ยนไปเพราะเขา

ปี 2020
หลังการหย่าร้าง ยุนจีซู (รับบทโดย อีโบยอง ผลงาน : Mother / God’s Gift – 14 Days / I Hear Your Voice) กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องดูแลลูกชายคนเดียว ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเรื่องราวในอดีตทำให้เธอไม่สามารถมีการงานที่มั่นคงได้ อีกทั้งหน้าที่การดูแลบิดาที่ป่วยหนัก ตกเป็นของเธอ ลูกที่พ่อไม่ต้องการ แต่แล้วโชคชะตาก็พัดพาให้เธอได้พบกับแจฮยอนอีกครั้ง

ตอนนี้ แจฮยอน (รับบทโดย ยูจีแท ผลงาน : The Good Wife / Healer / Mad Dog) เป็นลูกเขยของบริษัทใหญ่ เขาเปลี่ยนไปจากที่เธอเคยรู้จัก ความเชื่อ และโลกที่เขาเคยสอนเธอ ไม่ใช่สิ่งที่เขายึดมั่นอีกต่อไป

เขาผู้เป็น ความศรัทธาและโลก ของเธอ ที่เปลี่ยนไป
เธอผู้เป็น ดั่งความฝันของเขา ที่สูญหาย

เมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยเลือนหาย ก็ยิ่งชัดเจน ความรู้สึกที่ไม่เคยจางไป แจ่มชัดเช่นวันวาน การพบกันหลังล่วงเลยมาเนิ่นนาน จะพาพวกเขากลับสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขอีกครั้งได้หรือไม่ ติดตามเรื่องราวความรักอันเปี่ยมด้วยความโหยหา ได้ใน When My Love Blooms รับชมพร้อมซับไทย ตอนใหม่ทุกวันอาทิตย์ – จันทร์ที่ VIU

author ToiTing | KR SERIES LOVER

รีวิว – review

ละครที่ดำเนินเรื่องใน 2 ช่วงเวลา อาจไม่ใช่รูปแบบการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ แต่ก็ไม่ง่ายที่จะทำได้อย่างลงตัว ไม่มากไม่น้อย และสามารถเชื่อมโยงเรื่องราว สร้างความชัดเจนของตัวละคร ทำให้เรื่องราวค่อยๆคลายออก และกระจ่างจากการเล่าเรื่องในสองช่วงเวลาที่ขนานกันไป ชี้ให้เห็น เหตุผล และตัวตนที่ค่อยๆมีพัฒนาการ ทั้งสองยุคสมัย

เรื่องราวถูกเล่าผ่านนักแสดง 2 รุ่น ที่แม้ชีวิตของตัวละครจะทำให้บางอย่างเปลี่ยนไป แต่นักแสดงทั้ง 4 คน ต่างถ่ายทอดตัวตนของตัวละครนั้นๆ ออกมาได้อย่างชัดเจนและมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักแสดงรุ่นใหญ่ ที่ถือว่าระดับฝีมือไม่ธรรมดา สามารถถ่ายทอด หนุ่มสาวสองคนเมื่อตอนนั้น ในวันที่ผ่านประสบการณ์ กลายเป็นคนใหม่ ออกมาได้อย่างละเอียด ลึกซึ้ง ทำให้เรื่องที่แม้จะไม่ได้พยายามรีดน้ำตา แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ด้วยการแสดง สีหน้า แววตา หรือกระทั่งน้ำเสียง ก็พาให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

โทนอารมณ์ของเรื่องแม้จะออกไปทางอบอุ่น อวลไปด้วยความรัก(และสดใส หวาน+ฟินมาก ในยุคอดีต) แต่ก็มีความหน่วงแทรกอยู่ ด้วยเราได้เห็นความเศร้าในตัวนางเอก และความเคร่งเครียดของพระเอก(ปัจจุบัน)อยู่เสมอ ชวนให้เราอยากรู้ว่า มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง ระหว่างที่สองพระ-นาง ต้องห่างหายไปจากกัน แต่ละฉากแม้จะไม่ได้บีบคั้นหัวใจมาก แต่ก็ทำให้รู้สึกร่วม เห็นใจตัวละคร และเอาใจช่วย โดยเฉพาะในส่วนของความสัมพันธ์ที่ว่าไปก็ออกจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากพระเอกเองก็ยังมีภรรยาอยู่ แต่เราก็อดเอาใจช่วย ให้ความรักในวัยหนุ่มสาว ช่วยเยียวยา ความทุกข์ในใจทั้งสองคนลงได้บ้าง (ชีวิตยากเหลือเกิน ฮือออ)

เรื่องราวในอดีตนอกจากจะได้รับการถ่ายทอดในฉากที่มีความย้อนอดีต ทำให้เกิดความงดงามแบบย้อนยุค มีความ retro รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ยังเล่าเรื่องผ่านช่วงเวลาในฤดูกาลต่างๆ เราจะได้เห็นช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิดอกสวยงาม เวลาฝนตก แสงแดดของหน้าร้อน หรือกระทั่งหิมะขาวโพลน ภาพธรรมชาติที่งดงาม เป็นพื้นหลังเรื่องราวความรักละมุน อบอุ่นเรื่องนี้

สิ่งที่เด่นที่สุดของละครแนวดราม่าความรักเรื่องนี้ คงเป็นการที่ได้นักแสดงระดับตัวพ่อตัวแม่ของวงการ มาถ่ายทอดความละเอียดอ่อนของอารมณ์ รัก ห่วงหา อาวรณ์ หรือกระทั่งความเจ็บปวด ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ความรักที่สื่อสารออกมาอ่อนโยน และเปี่ยมล้นมาจากภายใน ฉากที่มี คุณยูจีแท กับคุณอีโบยอง บางฉากแทบไม่ต้องพูดอะไรมาก ก็เต็มไปด้วยความหมายมากมาย

ถือเป็นแนวดราม่าความรักแบบรุ่นใหญ่ ที่ผ่อนคลายด้วยเรื่องราวในอดีต จะว่าเครียดก็ได้ (และออกจะหน่วงๆซะด้วย) แต่ก็ยังอวลไปด้วยความอบอุ่น อาจไม่ใช่แนวรักลั้นลา แต่มีความน่าสนใจ เกี่ยวกับที่มาที่ไป และพัฒนาการตัวตนของตัวละครแต่ละคน

ใครอ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ตามมาได้เลยนะคะ ตอนนี้ออกอากาศไป 4 ตอนแล้ว กำลังเข้มข้นเลย