เมื่อเรื่องราวฮีลลิงเยียวยาจิตใจที่เหมือนสายลมของฤดูใบไม้ผลิถูกรวมเข้ากับเรื่องราวของปริศนาการฆาตกรรม ความลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ในอดีต กลายเป็นรสชาติใหม่ของซีรีส์ที่ทำให้คุณหยุดดูไม่ได้

You Are My Spring
너는 나의 봄

เรื่องย่อ – synopsis

คังดาจอง (รับบทโดย ซอฮยอนจิน ผลงาน : Another Miss Oh / The Beauty Inside) อาศัยบนชั้นดาดฟ้าของ ‘ตึก 99’ เธอทำงานเป็นพนักงานโรงแรมที่คอยดูแลความสะดวกให้กับแขกในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเธอต้องพบเจอแต่ความสัมพันธ์แย่ๆ ตั้งแต่พ่อผู้ให้กำเนิด จนถึงหนุ่มๆ ที่เข้ามาในชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งเธอตัดสินใจเปิดใจให้กับ แชจุน ชายหนุ่มที่คอยตามเธอ (รับบทโดย ยุนพัค ผลงาน : Radio Romance / Birthcare Center) แม้ว่าจะมีคำเตือนด้วยความหวังดีจาก จูยองโด (รับบทโดย คิมดงอุค ผลงาน : The Guest / Find Me In Your Memory) จิตแพทย์ที่เปิดคลินิกใน ตึก99 ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้

แต่ความสัมพันธ์ครั้้งใหม่ก็จบลงด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มที่ ดาจอง เพิ่งคบหาได้ไม่นาน เลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง พร้อมจดหมายลาตายที่บอกว่าเขาคือฆาตกร และการสืบสวนของตำรวจทำให้ ดาจอง พบว่า สิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับชายคนนี้ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง

ในช่วงเวลาที่ความหวาดกลัวยังไม่คลายจากใจ เอียน เชส แพทย์หนุ่มเชื้อสายเกาหลี ที่หน้าเหมือนกับชายคนนั้น คนที่บอกว่าตัวเองเป็นฆาตกร ก็ปรากฎตัวขึ้นในฐานะแขกของโรงแรม เขาคือใคร เกี่ยวข้องกับฆาตกรอย่างไร ร่วมหาคำตอบใน You Are My Spring รับชมพร้อมซับไทยที่ Netflix

TW : เรื่องนี้มีฉากการจบชีวิตที่น่าสะเทือนใจ และถูกนำเสนอซ้ำในหลายตอน

รีวิว – review

หลังจากที่โดนตกเพราะตัวอย่างแรกที่โปรยว่า ซีรีส์เรื่องนี้คือ “Healing Romance” tvN ก็ส่งตัวอย่างอีกตัวที่มีอารมณ์ทริลเลอร์ ออกมาให้คนดูอย่างเราได้มึนงงว่า “จะเอายังไงกันแน่” แต่พอรู้ว่าคนเขียนบทของเรื่องนี้คือเจ้าของผลงาน Bubble Gum (2015) ก็คิดว่าน่าจะมาทางเยียวยาจิตใจมากกว่า พอได้รับชม ก็ถือว่าไม่ต่างจากที่คาดเดามาก แต่ก็มีความน่าสนใจมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากเส้นเรื่องที่สามารถค่อยๆ ดูได้อย่างสบายใจ เรื่องราวการเยียวยากันละกัน ในความสัมพันธ์ของคนที่มีอดีต เล่าควบไปกับส่วนของการสืบสวนคดีฆาตกรรม ที่แม้จะตึงเครียด แต่ก็ไม่ได้มีอัตราส่วนในการเล่าเรื่องมากนัก (เรียกว่าแต่ละตอนมีฉากเครียดไม่น่าเกิน 15 นาที) ซึ่งพอดูแล้วก็ไม่ถึงกับทำให้เครียด แต่กลับทำให้เรื่องมีจังหวะที่เปลี่ยนไปในบางช่วงของตอนทำให้เรื่องไม่เรียบจนเกินไป

ใจความหลักของ You Are My Spring เล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย ดีต่อใจ เพราะแม้พระนางจะมีปมในใจ แต่ปมที่มีค่อยๆได้รับเยียวยาอย่างอบอุ่น เหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ที่ค่อยๆทำให้ใบไม้ และดอกไม้ เริ่มผลิดอก ออกใบ หลังฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยอารมณ์มึนทึม เนื่องจากพระเอกของเราทำงานเป็นจิตแพทย์ แม้จะรู้จักและสนิทสนมกับนางเอกในฐานะเพื่อน แต่ด้วยนิสัยช่วงสังเกตและใส่ใจ แม้จะไม่ใช่การรักษาโดยตรง แต่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้บาดแผลได้รับการเยียวยา

นอกจากงานเขียนบท นักเขียนของเรื่องนี้ ยังเป็นนักแต่งเนื้อเพลงที่อยู่เบื้องหลังเพลงประกอบละครดังอย่าง Goblin และ Secret Garden รวมกับประสบการณ์การเป็นนักเขียนบทรายการวิทยุ จึงทำให้บทสนทนาและข้อความที่อยู่ในเรื่องนี้เต็มไปด้วยความหมาย ชวนให้หยิบสมุดบันทึกมาจดข้อความเก็บไว้ปลอบโยนตัวเองในวันที่เหนื่อยล้า

ในส่วนของนักแสดง นอกจากการสื่อสารออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนอารมณ์ของคนทั่วไปที่พบได้รอบตัว เคมีของของทั้งคู่ ยังเข้ากันอย่างมาก ซีนตลก หรือ ซีนเขิน เล่นออกมาได้อย่างน่ารัก ดูแล้วนุบนิบในใจ โดยเฉพาะพระเอกของเรา ที่ปล่อยกระแสความอบอุ่นออกมาราวกับไมโครเวฟ เล่นเอาใจละลาย

พี่ยุนพัค ที่มารับบทพระรองในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นบทที่เครียดที่สุด ต้องทำหน้าเครียดตลอดเวลา สื่อสารความเจ็บปวด โดดเดี่ยว ทางสายตาออกมาได้น่าสงสารจนใจเจ็บ นอกจากนั้นยังมีตัวละครรองๆลงมาอีกหลายคน ที่มีเรื่องราวของตัวเอง และเป็นสีสันให้กับเรื่อง

เรื่องราวประทับใจ ส่งท้ายตอนจบของเรื่องนี้ ที่ทำให้ต้องบวกคะแนนให้ ก็คือ การขมวดจบ ด้วยการให้กำลังใจผู้ที่มีบาดแผลทางจิตใจให้ตามหาจิตแพทย์ที่เหมาะกับตัวเอง หลังจากที่แทรกเรื่องราวการรักษาเล็กๆน้อยๆมาตลอดเรื่อง นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงผลของ ความใส่ใจ ที่อาจเปลี่ยนวันแย่ๆของใครบางคน ด้วยความอบอุ่นที่ช่วยให้เขาผ่านไปได้อีกวัน

คลิกนิกจิตแพทย์ก็เหมือนร้านบะหมี่
ที่แต่ละคนก็ชอบต่างกันไป

บางท่านวินิจฉัยเก่ง
บางท่านคิดว่าการสั่งยาเป็นเรื่องสำคัญ
และบางท่านก็ให้คำปรึกษาได้ดี

แม้ว่าคลินิกแรกที่ไปจะไม่เหมาะกับตัวเรา
ก็อย่าเพิ่งผิดหวังมากนัก
ผมอยากจะบอกว่าให้แวะไปหลายๆที่ดูนะครับ#YouAreMySpring

— ติ่ง KrSeriesLover ชื่อติ่งจริงๆนะ (@TingKrSeriesLv) August 24, 2021

ถ้าใครที่กำลังมองหาซีรีส์ที่ดูแล้วสบายใจ เยียวยาใจที่เหนื่อยล้า อยากแนะนำให้ลองเปิดซีรีส์เรื่องนี้ เพราะนอกจาก ประโยคสวยๆ เนื้อหาโดนๆ บทสนทนาชวนคิด ความตลกโบ๊ะบ๊ะเบาๆ และความธรรมดาที่ชวนยิ้ม ยังมีภาพสวยสบายตา กับเพลงเพราะๆ ด้วย