รายการ Show Me The Money ซีซัน 10 ‘SMTM10’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วกับรอบออดิชันที่เป็นเอกลักษณ์ของรายการ ซึ่งในซีซันนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากที่มีฝีมือไม่ธรรมดา และเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากจากเหล่าคนดูและกรรมการ
ความดุเดือดของเหล่าแร็ปเปอร์ในซีซันนี้ สร้างความตื่นเต้นจากความสามารถที่คาดเดาไม่ได้ว่าใครจะได้ครองแชมป์เป็นที่หนึ่งในรายการ Friday Special สัปดาห์นี้เราได้เลือก 6 แร็ปเปอร์ฝีมือดีจากรอบออดิชันที่อาจจะเป็นตัวเต็งของซีซั่นนี้มาให้เพื่อนๆ ได้ดูความสามารถของพวกเขากัน มาลุ้นกันว่าหนึ่งในพวกเขาจะได้เป็นแชมป์ไหม
เริ่มต้นจากผู้เข้าแข่งขันที่ขึ้นสังเวียนเพลิงในรอบ 60 วินาทีไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และสามารถเรียกคะแนนจากทีมโปรดิวเซอร์แบบ ALL PASS ได้
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
Koonta
Koonta แร็ปเปอร์รุ่นเก๋า อายุ 38 ปี ที่รู้จักและมีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับ YUMDDA หนึ่งในโปรดิวเซอร์ของซีซันนี้ ซึ่งเมื่อก่อนนั้น YUMDDA จะคอยตาม Koonta อยู่ตลอด แต่เมื่อ YUMDDA เริ่มมีชื่อเสียงเขาก็เริ่มให้คำแนะนำ แต่ Koonta ก็ไม่รับฟังความเห็นพวกนั้น จนกระทั่งทั้งคู่ได้มาเจอกันในรอบ Face to Face และด้วยการแร็ปที่ดุเดือดมากต่อหน้ากรรมการทั้งหมด ทำให้เขาได้ All Pass ผ่านเข้ารอบพร้อมกับความดีใจจนเขาล้มลงไปนอนกับพื้น และทำให้ YUMDDA ถึงกับน้ำตาไหลออกมา
Northfacegawd
แร็ปเปอร์จากกลุ่มฮิปฮอป ‘Starex’ ที่ก่อตั้งในปี 2018 และเดบิวต์ในสังกัดของ Whip เมื่อปี 2019 ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขาได้ปล่อยเพลง ‘복덕방’ ออกมาและเกิดกระแสพูดถึงอย่างรวดเร็วด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มียอดวิวมากถึงหลักล้าน ซึ่งการออดิชั่น ของเขาทำให้ผู้เข้าแข่งขันหลายๆ คนรู้สึกสนุกสนานไปด้วยจนถึงกับอยู่นิ่งไม่ได้ และต้องโยกย้ายตามไปกับบีท และทำให้กรรมการต่างชมว่าเขามีฝีมือการแร็ปที่โดดเด่นเลยทีเดียว
และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องในสัปดาห์นี้ Mnet ก็ได้ปล่อยพรีวิวสั้นๆของผู้แข่งขันออกมาหลายคน เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชม จนบางคลิปมียอดวิวถึงหลักล้าน เพราะมีแร็ปเปอร์ฝีมือดีที่หลายคนรอคอย ทำให้คนดูต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยรอดูรายการเต็มๆ ในสัปดาห์นี้ ว่าพวกเค้าจะผ่านเข้ารอบไหม? แต่จากการฟังสั้นๆและดูสีหน้าของกรรมการแล้ว เป็นไปได้สูงมากที่จะได้ All Pass กันเลยทีเดียว
Be’O
บีโอ ผู้เข้าแข่งขันอายุ 21ปี ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยสร้อยจาก MINO ที่เป็นคนตัดสินการออดิชันของเขาในรอบแรก ด้วยโทนเสียงในการแร็ปที่มีเอกลักษณ์ของเขา บีโอ ยังได้รับความสนใจและได้คำชมจากคนดูเป็นอย่างมากจากคลิปสปอย์ของสเตจที่สองที่ปล่อยออกมา บีโอ เป็นแร็ปเปอร์หน้าใหม่ ทำให้เค้าค่อนข้างตื่นเต้นและกระสับกระส่าย แต่เขาก็ยังสามารถโชว์ฝีมือในการร้องและแร็ปได้เป็นอย่างดี แถมเนื้อเพลงและทำนองยังทำให้คนฟังติดหูอีกด้วย เป็นหนึ่งในผู้แข่งขันที่ทำให้เหล่ากรรมการประทับใจเป็นอย่างมาก
Jo Gwang-il
มาถึงผู้เข้าแข่งขันอย่าง ‘โจกวางอิล’ หลายๆ คนต่างรู้ว่าเค้าเป็นแรปเปอร์ที่มีฝีมือดี ไม่ธรรมดา เลยตั้งตารอดูเค้าแร็ปในรอบ face to face แบบไม่มีบีทว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โจกวางอิลเป็นแร็ปเปอร์ที่เดบิวต์ภายใต้สังกัด Pinto Sound ในปี 2019 และตอนนี้เค้าอยู่กับค่าย Dippin’ Carls Records มีผลงานเพลง ‘Arcobat’ ที่โชว์สกิลแร็ปพ่นไฟจนมียอดวิวถึง 8 ล้านกว่า! โดย Gaeko เป็นผู้มอบสร้อยคอให้กับโจกวางอิล ส่วนในรอบสังเวียนเพลิง เค้ายังได้สวมเสื้อตัวเดียวกับในมิวสิควีดีโอ Arcobat อีกด้วย และแร็ปออกมารัวๆอย่างมีพลัง จนทำให้ผู้แข่งขันต่างร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันด้วยความเซอร์ไพรส์
Mudd the student
แร็ปเปอร์จากปูซานที่มีลุคแตกต่างจากภาพของแร็ปเปอร์ที่ทุกคนคุ้นเคย เขาสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ แบบสไตล์ของเขา และด้วยลุคของเขา ทำให้ผู้แข่งขันคนอื่นๆ สงสัยว่าเขาจะเป็นแร็ปเปอร์แบบไหน ซึ่ง Mudd the student อยากจะทำลายกรอบ ว่าอะไรคือฮิปฮอป และ ทำในแบบของเขา ซื่อตรงกับสัญชาตญาน โดยเขาส่งคลิปออดิชั่นเข้ามาด้วยการแร็ปกับเครื่องเคาะจังหวะ ทำให้มีคอมเม้นว่า “อย่าบอกนะว่า บีทมาจากเครื่องเคาะจังหวะ? อัจฉริยะหรือบ้ากันแน่” อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เข้ารอบมาโชว์ฝีมือในรอบ face to face เค้าได้สร้อยคอไปพร้อมกับเสียงปรบมือจาก MINO และมากไปกว่านั้นเขายังทำให้ผู้แข่งขันและกรรมการคนอื่นๆถึงกับอึ้ง เพราะเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นและต่างจากคนอื่นมากๆ
Don Mills
แร็ปเปอร์ชื่อดังของวงการที่การมาสมัครแข่งขันในซีซันนี้เป็นเซอร์ไพรส์ชิ้นโตในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด เขาเดบิวต์ในสังกัดของ Beyond Records ในปี 2013 และมีเพลงฮิตอย่าง “G G Pow” และ “Mr. Trap” นอกจากนี้ยังเคยทำหน้าที่แร็ปเทรนเนอร์ให้กับรายการ Produce 101 ซีซั่น 2 รวมถึงการทำหน้าที่เมนทอร์ในรายการ School Rapper มาแล้ว ในรอบ face to face เค้าได้แร็ปต่อหน้า Gaeko และได้สร้อยคอไป Gaeko ถึงกับกล่าวชมว่า เค้ารู้สึกเหมือนได้ดูฮิปฮอปที่แท้จริง และในพรีวิวของรอบสังเวียนเพลิง เค้าได้กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2018 เค้าไม่มีโอกาสที่จะยืนอยู่บนเวที ได้แต่ปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ เค้าจึงใช้โอกาสนี้โชว์ดนตรีของเค้าให้โลกเห็น เค้าโชว์ความสามารถของเค้าออกมาอย่างสบายๆ มีพลัง และมีโฟลว์ที่น่าดึงดูด จนทำให้เหล่ากรรมการและผู้แข่งขันต่างยิ้มและโยกย้ายตามไปกับจังหวะ
https://www.youtube.com/watch?v=pMgGw41iBvY
การแข่งขันใน SMTM10 จะมันส์ ดุเดือดแค่ไหน สามารถติดตามได้ทุกคืนวันศุกร์ เวลา 23:00 น. (เกาหลี) ทาง Mnet
