Squid Game→Dr. Brain เมื่อซีรีส์เกาหลีแนวทริลเลอร์ถูกจับตามองจากทั่วโลก
กระแสความนิยมของซีรีส์แนวทริลเลอร์ของเกาหลีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา และฟีเวอร์ไปทั่วโลกด้วยการมาของซีรีส์ Squid Game ที่กลายเป็นปรากฎการณ์สำคัญ ส่งผลบวกอย่างมากต่ออุตสาหกรรมบันเทิง และคอนเทนต์ทางวัฒนธรรมของเกาหลี
ล่าสุด Dr. Brain ซีรีส์แนวทริลเลอร์เรื่องใหม่ที่เป็นผลงานออริจินัลซีรีส์จากฝั่งเกาหลีเรื่องแรกของ Apple TV+ ก็ได้ลงแพลตฟอร์มให้ผู้ชมทั่วโลกได้ชมกันแล้ว กับเรื่องราวของ ‘เซวอน’ (แสดง: อีซอนกยุน) นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบประสาทสมอง และได้พัฒนาการ ‘ซิงค์สมองคนตาย’ กับคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการไขคดีลึกลับที่ไม่สามารถหาเบาะแสจากที่อื่นได้
Dr. Brain
Dr. 브레인
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าซีรีส์สุดฮิตอย่าง Squid Game ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้ชมทั่วโลกยอมรับถึงคุณภาพของคอนเทนต์จากเกาหลีที่มาพร้อมกับเสน่ห์ และเอกลักษณ์ที่มีความเฉพาะตัวในการเล่าเรื่องและผูกองค์ประกอบต่างๆ ให้ซีรีส์แนวทริลเลอร์กลายเป็นความแปลกใหม่ที่ได้สัมผัสกันในปี 2021 จนทำให้ทั่วโลกต่างจับตามองว่าก้าวต่อไปของซีรีส์แนวทริลเลอร์จากเกาหลี ที่วางกลุ่มเป้าหมายเอาไว้เป็นผู้ชมในระดับโกลบอลจะถูกนำเสนอออกมาอย่างไร
และด้วยกระแสจากทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ก็ทำให้การเปิดตัวของ Dr. Brain ที่ปักธงเป็นผลงานออริจินัลฝั่งเกาหลีเรื่องแรกของทาง Apple TV+ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เป็นการดัดแปลงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน และเป็นหนึ่งในเว็บตูนที่มีผู้ชมอ่านกันทั่วโลก นำทีมด้วยผู้กำกับภาพยนตร์เบอร์ท๊อปของเกาหลีอย่าง คิมจีอุน และแสดงนำโดย อีซอนกยุน ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากบทบาทในภาพยนตร์รางวัลออสการ์อย่าง Parasite ร่วมด้วย อียองยู, พัคฮีซุน, ซอจีฮเย และ อีแจวอน
Dr. Brain ซีรีส์ทริลเลอร์เกาหลีเรื่องใหม่ที่เปิดตัวท่ามกลางความคาดหวังจากผู้ชมทั่วโลก
ในงานแถลงข่าวของ Dr. Brain ที่จัดขึ้นแบบออนไลน์และมีสื่อจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน ผู้กำกับคิมจีอุน หนึ่งในผู้กำกับแนวหน้าของวงการภาพยนตร์เกาหลีที่ถูกยกให้เป็นระดับมาสเตอร์ของภาพยนตร์แนวทริลเลอร์จากผลงานในเรื่อง The Tale of Two Sisters, A Bittersweet Life, I Saw The Devil และ The Age of Shadows ที่มารับหน้าที่กำกับการถ่ายทำของ Dr. Brain ก็ได้พูดถึงกระแสความคาดหวังจากผู้ชมที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมกับมุมมองต่อกระแสความนิยมที่มีต่อคอนเทนต์จากเกาหลีว่า
คิมจีอุน “ผมทราบมาว่าต้นฉบับเว็บตูนของเรื่องนี้ก็เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากครับ สำหรับคนที่เคยอ่านเว็บตูนมาแล้ว ในเวอร์ชันซีรีส์คุณจะได้เห็นมิติของตัวละครที่มากยิ่งขึ้น และมีรายละเอียดที่เพิ่มเรื่องราวให้กับทุกตัวละคร มีการเล่าเรื่องที่เร็วขึ้น มีการตีความความหมายใส่เข้าไป รวมถึงความรู้สึกในด้านของความประทับใจที่จะถูกสอดแทรกเพิ่มเข้ามาครับ
ในส่วนของกระแสความนิยมในคอนเทนต์ด้านวัฒนธรรมของเกาหลี ผมคิดว่าส่วนสำคัญมาจากเรื่องของไดนามิคในตัวคอนเทนต์ที่สนับสนุนกันครับ รวมถึงการที่ผลงานต่างๆ ถูกทำออกมาด้วยคุณภาพที่สูง และด้วยศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ในเกาหลีรู้ดีครับ ว่าผลงานแบบไหนที่ที่จะสามารถไปสู่ระดับโกลบอลได้ และผมเชื่อว่าความสามารถของพวกเราเป็นมาตรฐานในระดับโกลบอล
อย่างในเรื่อง Dr. Brain ที่เรื่องราวทั้งหมดใน 6 ตอนมีความเกี่ยวข้อง ผูกกันโยงไปมา มีการพลิกของเรื่องราวที่มันน่าติดตามด้วยจังหวะของเรื่องที่เรานำเสนออกมา ซึ่งผมคิดว่านี่ก็เป็นไดนามิคแบบหนึ่งที่เป็นสไตล์ของคอนเทนต์เกาหลีครับ”
ความต่างของ Dr. Brain
เมื่อถามถึงจุดเด่นสำคัญของเรื่อง Dr. Brain ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความแตกต่างจากซีรีส์แนวทริลเลอร์เรื่องอื่นๆ ของเกาหลี ผู้กำกับ คิมจีอุน ก็ได้อธิบายว่า
คิมจีอุน “ซีรีส์เรื่องนี้มีส่วนผสมของเรื่องแนวฆาตกรรม ที่มีความลึกลับ และเหตุการณ์ที่ทำให้คนดูลุ้นระทึกไปด้วย แล้วยังมีเรื่องราวแบบแนวไซไฟที่นำคอนเซปต์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสมองเข้ามาเป็นไฮไลต์ มีการต่อเชื่อมโยงสมองเพื่อถ่ายทอดข้อมูลของตัวละคร เซวอน ในหลายๆ เหตุการณ์ และมันส่งผลกระทบอะไรบางอย่างกับเขา ในขณะที่ตัวเขาเองก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการซิงค์สมองด้วยเช่นกัน
ภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเป็นละครที่เต็มไปด้วยอารมณ์ครับ บวกกับเรื่องด้านข้างอย่างธีมของประเด็นครอบครัว มีการผสมผสานของเรื่องชีวิตมนุษย์กับวิทยาศาสตร์ที่ดูแล้วน่าหลงใหลครับ”
สำหรับการทำงานในซีรีส์เรื่อง Dr. Brain ผู้กำกับคิมจีอุน ได้คำแนะนำในหลายๆ ด้านจาก โปรเฟรสเซอร์ จองแจซอง ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย KAIST โดยเฉพาะในเรื่องของไอเดียในการสร้างอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ และการทำงานในห้องทดลองที่ถูกจินตนาการเอาไว้ให้ออกมาดูสมจริง
เรื่องราวของ Dr. Brain จะมีให้ได้ชมกันต่อเนื่อง 6 ตอน 6 สัปดาห์ เริ่มจากตอนแรกในวันที่ 4 พฤศจิกายน รับชมพร้อมซับไทยกันได้ทาง Apple TV+
