ไอยู อ่านหนังสืออะไรในฉากนี้? เปิดอีสเตอร์เอกที่ซ่อนใน When Life Gives You Tangerines
When Life Gives You Tangerines (폭싹 속았수다) ซีรีส์จาก Netflix ที่เล่าเรื่องราวความรัก และชีวิตที่เริ่มต้นขึ้นบนเกาะเชจูในยุค 1960-70s กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก นอกจากความสวยงามของภาพและเสน่ห์ของตัวละครแล้ว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในฉากก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ โดยเฉพาะหนังสือที่ตัวละครของไอยูถืออยู่ในฉากหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่พร็อพธรรมดา แต่ซ่อนความหมายบางอย่างเอาไว้
หนังสือที่ไอยูถือ – สะท้อนแนวคิดของตัวละคร
ในฉากที่ไอยู หรือ “แอซุน” กำลังขายกะหล่ำปลี เธอถือหนังสือชื่อ 창작과비평 (Changjakgwa Bipyung) ซึ่งเป็นวารสารวรรณกรรมและบทวิจารณ์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1966 โดยสำนักพิมพ์ Changjak & Bipyong วารสารนี้มีบทบาทสำคัญในวงการวรรณกรรมและการเมืองของเกาหลีใต้ในยุคที่เสรีภาพทางความคิดยังถูกจำกัด สะท้อนถึงบุคลิกของแอซุนที่เป็นหญิงสาวที่รักการอ่าน สนใจแนวคิดก้าวหน้า และต้องการออกจากกรอบเดิม ๆ ของชีวิตบนเกาะ
‘청마시초’ และ ‘โนสแทลเจีย’ – ตัวตนของแอซุน
อีกหนึ่งหนังสือที่ปรากฏในซีรีส์คือ 청마시초 (Cheongma Sicho) ผลงานที่ตีพิมพ์ในปี 1939 ของกวี ยูชิฮวาน (Yoo Chi-Hwan) ซึ่งเป็นหนึ่งในกวียุคคลาสสิกของเกาหลี บนหน้าปกมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า “영원한 노스탤지어의 손수건” แปลว่า “ผ้าเช็ดหน้าของโนสแทลเจียที่เป็นนิรันดร์”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษคำว่า “โนสแทลเจีย” (Nostalgia) มีความหมายลึกซึ้งในเรื่อง เพราะตัวละครแอซุนเองมีความใฝ่ฝันที่จะออกจากเกาะเชจูไปใช้ชีวิตที่โซล เธอถึงกับบอกกับ กวานชิก (รับบทโดย พัคโบกอม) ว่า “ฉันจะต้องแต่งงานกับผู้ชายจากโซลเท่านั้น! คนบนเกาะไม่มีวันเข้าใจความฝันของฉัน!” คำพูดนี้สะท้อนถึงความหวังของเธอ และการเลือกหนังสือเล่มนี้มาเป็นพร็อพก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดของตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นอย่างตั้งใจ
รายละเอียดเล็ก ๆ ที่เติมเต็มความสมจริง
ผู้กำกับคิมวอนซอก และทีมงานฝ่ายศิลป์ให้ความสำคัญกับดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ในซีรีส์ โดยมีการทำงานร่วมกับทีมออกแบบพร็อพเพื่อสร้างฉากให้สมจริงที่สุด หนังสือที่เลือกใช้ไม่ใช่แค่ของประกอบฉาก แต่มีความหมายลึกซึ้ง สะท้อนยุคสมัยและตัวตนของตัวละครได้เป็นอย่างดี
อีสเตอร์เอกที่ซ่อนอยู่ในซีรีส์
หนังสือที่ไอยูถือในฉากของ When Life Gives You Tangerines ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉาก แต่สะท้อนถึงแนวคิดของตัวละครแอซุนที่มีความใฝ่ฝัน อยากก้าวข้ามขีดจำกัดของชีวิตในเกาะเชจู และเชื่อมโยงไปถึงธีมหลักของเรื่องที่พูดถึงความฝัน การดิ้นรน และความหวังในโลกที่ยังไม่เปิดกว้างสำหรับผู้หญิงในยุคนั้น
