ฮอตซีรีส์ | PRIEST (2018) : คณะปราบผีในโรงพยาบาล !?!?
เรื่องย่อ PRIEST
ฮัมอึนโฮ (รับบทโดย จองยูมี ผลงาน : Investigation Couple / Six Flying Dragons) แพทย์แผนกฉุกเฉิน ที่แม้จะไม่เคยเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เมื่อต้องมาเจอกับเรื่องราวที่ไม่สามารถหาคำอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้ด้วยตาตนเอง ก็ไม่สามารถค้านได้เลยว่าเรื่อง “การเข้าสิง” ของวิญญาณชั่วร้ายนั้นมีอยู่จริง
เธอได้พบกับบาทหลวงมุนกีซอน (รับบทโดย พัคยองอู) และผู้ช่วยของท่าน บาทหลวงโอซูมิน (รับบทโดย ยอนอูจิน ผลงาน : Introverted Boss / Nothing To Lose / Queen For Seven Days) ที่กระทำการอุกอาจโดยการชิงตัวคนไข้ของเธอไป สิ่งที่เธอได้เห็นจาก “พิธีการไล่ผี” นอกจากจะเหลือเชื่อแล้ว ยังรุนแรงและอาจเป็นเหตุให้อาการของผู้ป่วยของเธอหนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อห้ามไม่ได้ และปฏิเสธเรื่องเหลือเชื่อเหล่านี้ไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเข้าช่วย
เรื่องราวการเข้าสิงกลับไม่จบที่การไล่ผีออกจากเด็กชาย แต่กลับนำไปสู่การเข้าสิงครั้งใหม่ ซึ่งที่น่าประหลาดใจคือ ผู้คนที่ถูกสิง ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลแห่งนี้ หรือถ้าจะเจาะจงลงไปมากกว่านั้นก็คือ เกี่ยวข้องกับเธอ
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ
เมื่อดูเหมือนว่าเป้าหมายของปีศาจร้ายอาจเป็นเธอ และคณะ 634 (กลุ่มสมาชิกลับที่ทำหน้าที่ไล่ผี) เธอจึงต้องเข้ามาอยู่ในการดูแลของคณะ 634 อย่างเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งที่เธอไม่รู้คือ ภาพความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเธอกับบาทหลวงโอ ที่ปรากฏขึ้นอย่างลึกลับระหว่างที่บาทหลวงโออยู่ในภาวะถูกสะกดจิต โดยไม่รู้ที่มา กำลังก่อให้เกิดความปั่นป่วน และสงสัยในใจของบาทหลวงหนุ่ม ซึ่งนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่บาทหลวงมุนปกปิดไว้ เรื่องราวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเขาเมื่อ 8 ปีก่อน
ติดตามเรื่องราวการปราบปีศาจร้าย และค้นหาความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตที่สูญหายไปจากความทรงจำของเขาและเธอได้ใน Priest รับชมพร้อมซับไทยที่ VIU ทุกวันอาทิตย์ – จันทร์
 | author ToiTing | KR SERIES LOVER |
รีวิว PRIEST
ปราบผีอีกละ
ตอนเห็นข่าวเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ครั้งแรก ความคิดที่เข้ามาในหัวก็คือ “ปราบผีอีกละ” ก็นะ (ตอนนั้น) The Guest กำลังออกอากาศก็มีข่าวว่าจะทำเรื่องแนวปราบผีออกมาอีกเรื่องติดๆ แม้จะไม่ได้ต่อเนื่องในล็อตเวลาเดียวกัน แต่ก็ใช้คำว่าไม่ได้ว่างเว้นจากแนวนี้เลย แต่พอได้ดูก็พบว่า 2 เรื่องค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เล่าเกี่ยวกับการปราบผีอย่างชัดเจน แต่รูปแบบการดำเนินเรื่อง และจุดเน้นต่างออกไป (การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างซีรีส์ 2 เรื่องนี้ มีเจตนาเพื่อใช้ช่วยในการตัดสินใจรับชม ไม่ได้เป็นการบอกว่าเรื่องไหนดี หรือแย่กว่า เพราะปัจจับความชอบของแต่ละคนเป็นความคิดเห็นส่วนตัว เพียงแต่การนำไปเปรียบเทียบกับเรื่องที่เคยดูมาก่อน อาจทำให้การอธิบายง่ายขึ้น)
จุดแรกที่ต่าง คือการดึงเอาเรื่องทางการแพทย์เข้ามาเกี่ยวด้วย แม้ว่าจะไม่มากเท่าที่คาดไว้ แต่ตัวละครหลักนอกจาทีมงานปราบผี ก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ซะหลายคน เรื่องราวหลายส่วน(ของครึ่งแรก) ก็เกิดขึ้นในโรงพยาบาล มีฉากการผ่าตัด / ห้องฉุกเฉิน / การทำการรักษา ประปราย แม้จะไม่มากและเป็นการผ่าที่ไม่ได้เน้นข้อมูลการแพทย์จริงจัง แต่ก็ทำให้เรื่องนี้มีส่วนผสมของการแพทย์ที่ดูไม่น่าเข้ากันได้กับการไล่ผี แต่กลับเข้ากันเป็นอย่างดี และเพิ่มความสยอง ด้วยความลึกลับของทางเดินมืดๆในโรงพยาบาล และห้องต่างๆ (ความจริงแนวคิดว่าโรงพยาบาลจะมีเรื่องลึกลับก็ไม่ได้แปลกใหม่เพียงแต่อาจจะไม่เคยมีการเอามาเล่าแบบนี้)
จุดต่อไปที่แตกต่าง คือ การปราบผี และตัวผี จาก The Guest ที่ปราบกันไปตามสภาพ ไล่ล่าตามหาบอส มีคุณบาทหลวงคนเดียวที่มีความรู้เรื่องการปราบผี มาเรื่องนี้ นอกจากจะมีบาทหลวงถึง 2 คน ยังมีทีมงานคอยช่วยเรื่องอื่นๆอีก ทั้งลุงตำรวจ ที่ช่วยจัดการความเรียบร้อย เรื่องทางกฏหมายที่อาจจะตามมา คุณเจ๊เจ้าของสตูดิโอ ที่คอยดูแลเรื่องข้อมูล และช่วยเหลือจิปาถะ และน้องหนุ่มน้อยฝ่ายเทคนิค ที่ทำได้ทุกสิ่งตั้งแต่หาข้อมูล ถ่ายคลิป ขับรถ หรือกระทั่งสะเดาะกลอนประตู พูดง่ายๆคือ เรื่องนี้มีลักษณะของการทำงานเป็นทีม ซึ่งถ้าใครเคยดูแนวๆนี้ก็จะทราบว่า การที่มีตัวละครหลายตัวทำงานเป็นทีม จะทำให้โทนเรื่องผ่อนคลายขึ้น เพราะมักจะมีซีนหยอกล้อ แสดงความสนิทสนม มุกตลกนิดๆหน่อยๆ ทำให้ไม่เครียดมาก (แต่ด้วยความที่มีความผูกพันธ์ของคนในทีม มันก็จะมีเรื่องดราม่าความรู้สึกตามมาด้วย) ในส่วนของตัวผีเรื่องนี้จะออกไปทางผีฝรั่งเหมือนที่เราเห็นตามหนังฝรั่งเลย ตาเหลือก ผีงึกงัก ผีพลังงานสูง ปราบไปปลิวไป เลื่อนของได้ พวกแสงเสียง ไม่บิ้วท์เท่า The Guest
ถ้าเอาตามจริตส่วนตัว ติ่งว่าเรื่องนี้ความน่ากลัว สยองขวัญน้อยกว่า The Guest แต่มีอารมณ์ลุ้น สนุก มันๆ มากกว่า
เลิฟไลน์แบบไม่คาดคิด
และจุดที่ไม่คาดหวังเลยจากเรื่องนี้ แต่กลายเป็นว่าบทจัดให้แบบเน้นๆเลยก็คือ เลิฟไลน์ !!! แหม… ดูชื่อเรื่องสิ ใครจะมาหวังเลิฟไลน์อะเนอะ แต่กลายเป็นว่า พระ-นาง ดันเคยมีอดีตต่อกันซะอย่างงั้น (ไปติดตามเองนะว่าอดีตยังไง) ก็เลยมีเลิฟไลน์แบบไม่ต้องจิ้นลมจิ้นฟ้า เพราะมันมีมาในบทจริงๆ
ในส่วนของนักแสดงเรื่องนี้ บอกตามตรงว่าไม่คุ้นหน้าคุณพัคยองอู ที่มารับบทเป็นบาทหลวงมุนเลย แต่ดูจากบทเรื่องนี้แล้ว ชอบมาก มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ มีความสุขุม แต่เวลายิ้มก็มีความขี้เล่นน่ารัก (ไม่น่าเชื่อเลยว่าอายุ 47 ปีแล้ว) เวลาเข้าฉากกับพี่ยอนอูจินก็เข้ากันดี โดยเรื่องนี้เปิดเรื่องมาพี่อูจินจะมีความอ๊องๆหน่อย เพราะยังเป็นเด็กใหม่ด้านนี้ (แอบคิดว่าบทพี่อูจินจะเท่ คล้ายๆบาทหลวงชเวยุนใน The Guest แต่กลายเป็นบทบาทหลวงใหญ่ที่เท่กว่า พี่อูจินเลยมุ้งมิ้ง ตะมุตะมิเหมือนเดิม555) แต่ครึ่งหลังของเรื่องน่าจะเริ่มมีอารมณ์ดราม่าในตัวละครมากขึ้น เพราะกำลังจะเฉลยเรื่องราวในอดีต ที่น่าจะเน้นไปที่อารมณ์ ความรู้สึก ความสัมพันธ์
โดยรวมเท่าที่ดูถึงตอนปัจจุบัน (ครึ่งเรื่องพอดี) ถือเป็นซีรีส์แนวปราบผีที่เล่าเรื่องได้น่าติดตาม มีปมเบื้องหลังน่าสนใจ มีความสนุกแบบลุ้นไปตามสถานการณ์ มีลักษณะของการทำงานเป็นทีม ผีไม่น่ากลัวมาก มีเลิฟไลน์แต่ไม่เน้นจนเลี่ยนไป(ครึ่งหลังน่าจะเล่ามากขึ้น) เป็นอีกเรื่องที่สนุก และแนะนำค่ะ
