BTS กับข้อความที่ส่งต่อถึงทุกคนผ่านการประชุมของ UN – “What’s your name? Speak yourself.”

BTS วงบอยกรุ็ป KPOP ที่กลายเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวสำคัญทางความคิดของเยาวชนรุ่นใหม่ทั่วโลก ได้ขึ้นพูดในที่ประชุมของ UN ในบทบาทกูดวิลล์แอมบาสเดอร์ของ UNICEF
ช่วงปีที่ผ่านมา BTS ได้ตั้งแคมเปญ Love Myself ร่วมกับ UNICEF และเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ END Violence ที่รณรงค์การงดใช้ความรุนแรงในเด็กและเยาวชน ซึ่งพวกเค้าสามารถระดมเงินสนับสนุนได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้พวกเค้าได้เป็นตัวแทนจาก UNICEF ขึ้นพูดเกี่ยวกับโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Generation Unlimited ในที่ประชุมทั่วไปครั้งที่ 73 ของ UN
"I want to hear your voice… No matter who you are, where you’re from, your skin colour, gender identity: speak yourself.”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษWe ? @BTS_twt's inspiring message to young people around the world at the UN General Assembly. #GenUnlimited #UNGA #ENDviolence #Youth2030 pic.twitter.com/kWOoSfLkiq
— UNICEF (@UNICEF) September 24, 2018
RM ที่เป็นตัวแทนของ BTS ได้พูดถึงที่มาของการร่วมมือกับ UNICEF ด้วยการเล่าผ่านเรื่องราวของตัวเค้าเอง
“ผมเกิดที่อิลซาน เมืองใกล้ๆกับโซล ในเกาหลีใต้ เป็นเมืองที่งดงามไปด้วยลำธารและเนินเขา รวมไปถึงงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีที่จัดขึ้นที่นี่ ผมใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างมีความสุขที่นี่และเป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง
ผมเคยมองขึ้นไปบนท้องฟ้าตอนกลางคืนด้วยความสงสัย และเคยมีความฝันแบบเด็กผู้ชายทั่วไป ผมเคยจินตนาการว่าผมเป็นซุปเปอร์ฮีโรที่สามารถช่วยเหลือโลกได้
หนึ่งในอินโทรอัลบัมของพวกเราก่อนหน้านี้มีประโยคที่บอกว่า ‘หัวใจของผมหยุดเต้นลง เมื่ออายุ 9 หรือ 10 ขวบ’ มองย้อนกลับไปตอนนั้น ผมคิดว่ามันเป็นช่วงที่ผมเริ่มกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับผมและเริ่มเห็นตัวผมเองในแววตาของพวกเค้า
ผมหยุดแหงนหน้ามองทองฟ้าและดวงดาวเวลากลางคืนผมหยุดฝันกลางวันแล้วพยายามทำตัวของผมให้เหมาะกับแม่พิมพ์ต้นแบบต่างๆที่คนอื่นสร้างขึ้น หลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มเงียบเสียงของตัวเองลงและเริ่มฟังเสียงของคนอื่น
ไม่มีใครที่เรียกชื่อผมแม้แต่ตัวผมเอง
หัวใจของผมหยุดเต้นและดวงตาของผมปิดลง
และด้วยเช่นนี้ ผม, พวกเรา ต่างสูญเสียชื่อของตัวเองไป พวกเรากลายเป็นเหมือนวิญญานที่ไร้ตัวตน
แต่ผมเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผมเอง และนั่นคือเสียงเพลง เสียงเล็กๆในตัวผมที่บอกว่า ‘ตื่นขึ้นมาเถอะ และฟังเสียงของตัวเอง’ แต่ก็เป็นเวลานานกว่าที่ผมจะได้ยินเสียงเพลงเรียกชื่อของผม เพราะถึงแม้ผมจะตัดสินใจร่วมทีมกับ BTS แล้วก็ยังคงมีอุปสรรคขวางทางเรามากมาย หลายคนอาจไม่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเราไม่มีหวัง และบางครั้งผมเองก็อยากจะเลิกในสิ่งที่ทำอยู่
แต่ผมคิดว่าผมโชคดีที่ผมไม่เลิกสิ่งต่างๆทั้งหมด และผมมั่นใจว่าเราจะยังคงล้มลุกแบบนี้ต่อไป
BTS กลายเป็นศิลปินที่ได้แสดงในสเตเดียมใหญ่ๆและมียอดขายอัลบัมหลักล้านในตอนนี้ แต่ตัวผมยังคงเป็นคนหนุ่มวัย 24 ปีธรรมดาๆคนหนึ่ง ถ้ามีสิ่งใดที่เป็นความสำเร็จเกิดขึ้นมันเป็นเพราะผมมีสมาชิกของ BTS อยู่เคียงข้าง และเพราะความรัก การสนับสนุนจาก ARMY แฟนๆของเราทั่วโลกที่มอบให้
และถึงแม้ผมจะทำผิดพลาดในเมื่อวาน แต่ตัวผมในเมื่อวานก็ยังคงเป็นตัวผม ในวันนี้ผมคือตัวของผมที่เต็มไปด้วยความผิดพลาดของตัวเอง พรุ่งนี้ผมอาจจะฉลาดขึ้นอีกนิดและนั่นก็คือตัวผมเช่นกัน
ความผิดพลาดทั้งหลายคือสิ่งที่ผมเป็น ก่อให้เกิดดวงดาวส่องสว่างในระบบสุริยะของชีวิตผม
ผมเริ่มรักตัวของผมใน คนที่ผมเป็น คนที่ผมเคยเป็น และคนที่ผมหวังว่าจะเป็น”
RM ได้ทิ้งท้ายด้วยการส่งข้อความถึงทั่วโลกว่า
“หลังจากที่เราได้ปล่อยอัลบัม Love Yourself และเริ่มแคมเปญ Love Myself เราได้ยินเรื่องราวต่างๆจากแฟนๆทั่วโลกเกี่ยวกับข้อความของพวกเราที่ช่วยพวกเค้าให้ผ่านความยากลำบากในชีวิต และเริ่มต้นการรักตัวเอง เรื่องราวเหล่านั้นเตือนให้พวกเรานึกถึงความรับผิดชอบของเราเอง
และอีกหนึ่งก้าวต่อจากนี้ เราได้เรียนรู้ในการรักตัวเองแล้ว ในตอนนี้ผมขอให้คุณ ‘speak yourself’ พูดในสิ่งที่ตัวคุณเป็นออกมา
ผมอยากถามทุกคนว่า ‘what is your name?’ อะไรที่ทำให้คุณตื่นเต้นและทำให้หัวใจคุณเต้น เล่าเรื่องของคุณให้ผมฟัง
ผมอยากได้ยินเสียงของคุณ ผมอยากได้ยินความเชื่อมั่นของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน ผิวสีอะไร มีเพศสภาพอย่างไร แค่พูดในสิ่งที่เป็นตัวคุณออกมา
หาชื่อของคุณ และเสียงของคุณให้พบ ด้วยการพูดในสิ่งที่เป็นตัวคุณออกมา
ผม คิมนัมจุน หรือ RM ใน BTS ผมเป็นไอดอลและศิลปิน จากเมืองเล็กๆในเกาหลี และเหมือนกับคนอื่นๆผมได้ทำอะไรผิดมากมายในชีวิต ผมมีสิ่งผิดพลาด ผมมีความกลัว แต่ผมจะโอบกอดตัวเองให้แน่นที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ และผมจะค่อยๆเริ่มรักตัวเองขึ้นทีละนิดทีละนิด
What’s your name? Speak yourself.”
BTS จะเดินหน้าต้อไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเยาวชนทั่วโลกโดย UNICEF และยังคงเป็นปรากฎการณ์ระดับโลกที่ถูกจับต่อมองในก้าวต่อไปของพวกเค้าที่เป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญทางความคิดของเยาวชนทั่วโลก