จดหมายเปิดผนึกจากคุณพ่อของ Tao EXO ทำให้เกิดกระแสข่าวการออกจากวงอีกครั้ง
ในวันที่นี้ 22 เมษายน มีการเปิดเผยจดหมายที่ผู้เขียนอ้างว่าเป็นพ่อของ เทา บรรยายถึงเหตุผลของการพา เทา กลับมาบ้าน โดยใจความจดหมายเปิดผนึก มีดังนี้
“สวัสดีผู้ติดตามของ หวงจื่อเทา ทุกคน ผมคือพ่อของเค้า”
“ความรู้สึกของผมในตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อนในขณะที่กำลังเขียนจดหมายอยู่นี้ ผมก็รู้ดีว่ามันอาจจะทำให้ใครหลายๆคนต้องเจ็บปวด รวมถึง หวงจื่อเทา ลูกชายของผม ถึงแม้ผมจะได้คิดทบทวนเรื่องนี้หลายรอบแล้ว แต่เค้าก็อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกเห็นแก่ตัวของผม จากการเดินทางที่ผ่านมาของเค้า ผมรู้ว่าเค้ารักวงและงานของเค้ามากแค่ไหน ดังนั้นการพาเค้าออกมาจากเกาหลีจึงเป็นเรื่องยากและเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่ในฐานะพ่อ ผมมีความรับผิดชอบที่จะต้องมั่นใจว่าเค้าจะเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขและสุขภาพดี และผมทนที่จะเห็นสุขภาพของเค้าแย่ลงแบบนี้ไม่ได้ ระหว่างการที่เค้าได้เป็นไอดอลที่เกาหลี กับการที่เค้ามีสุขภาพดี ผมต้องเลือกสุขภาพของเค้าอย่างไม่ลังเล”
GOT7 ทัก! ส่งคลิปทักทายอากาเซ่ไทย
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ“ในสายตาของผม ความแข็งแกร่ง ความหนักแน่น การแก้ปัญหา และความตั้งใจ เป็นสิ่งที่จำเป็นของลูกผู้ชาย เราจึงให้เค้าฝึกศิลปะป้องกันตัว สอนเค้าให้ผ่านช่วงเวลายากลำบาก พัฒนาให้เค้าเป็นคนทำงานหนัก ให้เค้าหาเงินเพื่อไปเรียนเต้น เรียนดนตรี เพื่อให้เค้าสามารถพึ่งตัวเองได้ เพราะการเป็นนักร้องคือความฝันและเป็นสิ่งที่เค้าเลือก เค้าต้องทำงานหนักเพื่อฝันของเค้า และเสียสละทุกอย่างเพื่อทำสิ่งที่เค้าได้เลือก”
“หวงจื่อเทา ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง เค้ามาได้ไกลขนาดนี้ ย่อมเป็นความภูมิใจของครอบครัว แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมอยากหยุดมัน, 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เค้าเดบิวท์ เค้าได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ทั้งหนักและเบา อาการบาดเจ็บที่หลัง ลำตัว ขา หลายครั้งระหว่างการแสดง ไม่ว่าผมจะได้อยู่ตรงนั้นหรือดูอยู่ที่บ้าน ทุกครั้งที่เค้าตีลังกา ความกังวลจะต้องเกิดทุกครั้ง กลัวว่าอาการบาดเจ็บของเค้าจะแย่ลงไปอีก โดยเฉพาะเวลาไปแสดงต่างประเทศ บางครั้งพื้นเวทีลื่น บางครั้งฝนตก ทุกครั้งก่อนการแสดงผมจะบอกเค้าว่า ถ้าฝนตก หรือเวทีเปียก หรือดูไม่ปลอดภัย อย่าตีลังกานะ แต่ทุกครั้งเค้าจะบอกว่าเค้าไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวัง แล้วบอกกับผมว่าเค้าจะระวังอย่างดี, ท้ายที่สุด ผมก็ทำได้แค่อ่านใน Weibo แล้วเจอว่าเค้าบาดเจ็บอีกครั้ง มันทำให้ผมเจ็บปวด ผมไม่สามารถดูแลเค้าได้ บางครั้งที่ไม่สามารถติดต่อหรือไปดูเค้าแสดงได้ ความเจ็บปวดนี้มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด นั่งอยู่ที่บ้าน มือถือโทรศัพท์รอว่าจะมีข่าวอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครเคยรู้เรื่องนี้”
“ในสายตาของคนอื่น ผมควรจะมีความสุขมาก ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า มีลูกชายเป็นไอดอล แต่จะมีใครรู่บ้างว่ากี่คืนที่นอนไม่หลับ เพราะความเป็นห่วงที่มีต่อลูกชาย ครั้งนี้ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อพา จื่อเทา กลับมารักษาอาการบาดเจ็บของเค้า คืนที่ผมไปเกาหลี บริษัทคุยกับผมเรื่องอนาคตของ จื่อเทา บริษัทบอกว่าเหมือนคำสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่ต้นว่าเค้าจะสร้างทีมพิเศษเพื่อช่วยส่งเสริมการแสดงของเค้า แน่นอนผมมีความสุขที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ แล้วบริษัทก็บอกว่า หลังจากที่จื่อเทา เซ็นสัญญา เค้าจะประกาศเรื่องนี้พร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ แต่ว่า ยังขาดขั้นตอนสุดท้ายนี้ และผมก็มาที่เกาหลี บริษัทได้คุยแผนการในอนาคตของสมาชิกคนอื่นให้ฟัง … ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าผมไม่เซ็น”
“จื่อเทา ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท มากไปกว่าอาการบาดเจ็บที่เค้าได้รับ ในกรณีนี้ สิ่งที่เราพยายามมาแต่ต้นเท่ากับไม่มีค่างั้นเหรอ ผมตัดสินใจที่จะพา จื่อเทา กลับบ้าน เพื่อการรักษา เพื่อจะทราบว่าเราพลาดอะไรในการรักษาที่ถูกต้องไปบ้าง ถ้าการบาดเจ็บนี้ได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสมและทำให้ร่างกายเค้าทรุดโทรม มันคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมตัดสินใจพาเค้ากลับบ้าน ในฐานะพ่อ มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความเป็นอยู่ที่ดีของลูก เทียบกับ ดอกไม้ เสียงปรบมือ และไฟเวที สุขภาพและความเป็นอยู่ของเค้า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราคิดถึง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ และขอโทษบริษัทและสมาชิกทุกคน ขอบคุณสำหรับ 3 ปี ที่ดูแล จื่อเทา และสมาชิกทุกคน ทั้งสนับสนุนและคอยดูแลในเวลาเดียวกัน และต้องขอโทษแฟนๆของ หวงจื่อเทา และ EXO ผมรู้ว่าการตัดสินใจของผมทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่ได้โปรดเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่พ่อควรทำ ผมขอโทษครับ”
จดหมายฉบับนี้ถูกเผยแพร่ใน Weibo และสื่อต่างๆในจีน ทำให้หลายคนคิดว่าอาจมีการยื่นเรื่องทางกฎหมายระหว่าง เทา และ SM Entertainment เร็วๆนี้ ถ้านี่คือเรื่องจริง เทา จะเป็นสมาชิกคนที่ 3จากจีนใน EXO ที่ยื่นเรื่องทางกฎหมายต่อจากกรณีของ คริส และ ลู่หาน
แอคเคาท์ที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของเทา เป็นแอคเคาท์ที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อโพสจดหมายฉบับนี้ แฟนๆต่างตั้งประเด็นต่างๆนาๆ แต่ก็ปรากฎว่า เทา ได้ติดตามแอคเคาท์นี้ใน Weibo ส่วนตัวของ เทา ด้วย จึงทำให้จดหมายนี้มีความน่าเชื่อถือ