‘โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม’ Pdogg • เบื้องหลังความสำเร็จของ BTS และ Big Hit

Pdogg กลายเป็นอีกหนึ่งโปรดิวเซอร์ของวงการเพลง K-Pop ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความสามารถ จากการได้รับรางวัล โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมในงาน 2017MAMA
Pdogg เริ่มสร้างผลงานด้วยการแต่งเพลงให้กับศิลปินในการดูแลของ Big Hit Entertainment ตั้งแต่ยุคแรกๆอย่าง 8Eight, 2AM, Glam ก่อนที่จะเพิ่มผลงานอีกมากกว่า 100 เพลง จากการร่วมงานกับ BTS ซึ่งส่งให้ชื่อของเค้ากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
สไตล์ และที่มาของ Pdogg
“สวัสดีครับ โปรดิวเซอร์หลักของ Big Hit Entertainment ‘Pdogg’ ครับ สไตล์เพลงของผมจะเน้นเพลงทันสมัย ที่อยู่บนพื้นฐานของฮิปฮอปครับ
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษที่มาของชื่อ Pdogg มาจากคำว่า Producer บวกกับแรปเปอร์ที่ผมชอบ SnoopDogg ครับ ซึ่งคำว่า Dogg เป็นแสลงที่หมายถึง เพื่อน หมายถึง มิตร ชื่อ Pdogg เลยมีความหมายว่า โปรดิวเซอร์ที่เป็นมิตร ครับ”
จุดเริ่มต้นที่ Big Hit
“ตอนผมอายุ 25 ผมได้ยินว่า PD บังชีฮยอก เค้าจะทำค่ายเพลงผมเลยส่งผลงานเข้ามา ซึ่งผมได้รับการตอบรับ โดย 2-3 เพลงที่ผมส่งเข้ามาในตอนนั้นกลายเป็นเพลงที่ได้ใช้ในอัลบั้มของวง 8Eight และ อิมจองอี ครับ แล้วมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นการทำงานของผมที่ Big Hit”
จุดแข็งที่ทำให้ Big Hit เติบโต
“ผมคิดว่าน่าจะเป็นความมุ่งมั่นของประธาน บังชีฮยอก ในการทำเพลงครับ เค้ามีความเชื่อว่าถ้าจะทำให้ผลงานเพลงเป็นที่ยอมรับ มันก็ต้องเป็นเพลงที่ดีจริงๆ เลยทำให้เค้าทุ่มเทให้กับการทำผลงานเพลงมากๆขนกว่าจะได้เพลงที่เค้าพอใจออกมา
อีกอย่างที่สำคัญคือพวกเราทุกคนที่ Big Hit รักเสียงเพลงครับ แม้แต่สมาชิกของ BTS เองยังกลับมานั่งทำงานกันในสตูดิโอจนถึงเช้าหลังจากที่พวกเค้าเสร็จตารางกิจกรรมระหว่างวันแล้ว
ผมเองก็เช่นกัน ผมชอบทำงานเพลงมากและการทำเพลงที่ดีออกมาคือการถ่ายทอดความรักของผม ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งที่ทำให้ Big Hit เติบโตมาถึงตรงนี้”
จุดเริ่มต้นของ BTS
“ในตอนแรกเลย เราวางแผนว่าจะทำกลุ่มของเด็กที่ชอบการแรป แต่หลังจากการประชุมแล้ว โปรเจคนี้กลายเป็นการสร้างฮิปฮอปไอดอลกรุ๊ป
โดยพื้นฐานการทำงานยืนอยู่บนแนวทางฮิปฮอปครับ และเป้าหมายของเราคือการทำวงนี้ให้ออกมาเป็นวงที่แสดงสดได้ยอดเยี่ยม และที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือคอนเซปที่จะให้ทีมทีมนี้เล่าเรื่องราวแทนวัยรุ่นในวัย 10-20 ปี”
การเตรียมตัวก่อนเดบิวต์ของ BTS
“สมาชิกในทีมมีทั้งคนที่เข้าใจในฮิปฮอปอยู่แล้ว และมีคนที่ยังใหม่กับฮิปฮอป ทำให้เราต้องเริ่มต้นด้วยการปลูกฝังพื้นฐานของฮิปฮอปให้กับทีม
มีช่วงเวลาที่พวกเรานั่งฟังเพลงฮิปฮอปตั้งแต่ยุคเก่าๆจนถึงปัจจุบันด้วยกัน แล้วพูดคุยกันถึงสไตล์เพลงต่างๆเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน”
การทำงานร่วมกับสมาชิกของ BTS
“ในการทำงานก็จะแตกต่างออกไปในแต่ละเพลงครับ แต่ผมจะเริ่มจากการพูดคุยกับทุกคนก่อนว่าแต่ละคนอยากทำอะไร มีความชอบอะไรในตอนนั้น แล้วก็ค่อยๆเอาความต้องการเหล่านั้นมาสร้างงานขึ้น
ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นว่า แต่ละเพลงของ BTS เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ 1 ชิ้น และเมื่อเอาแต่ละชิ้นมารวมกันมันจะทำให้คุณมองเห็นภาพใหญ่ในผลงานเพลงของ BTS”
ความแตกต่างของ BTS
“อย่างที่บอกไปแล้วคือสมาชิกทุกคนรักเสียงเพลง และทุ่มเทเพื่อให้งานเพลงออกมาดีที่สุด และสเน่ห์สำคัญของ BTS คือเพลงของพวกเค้าไม่ใช่เรื่องโกหก เพราะว่าพวกเค้าถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองลงไปในเพลง”
จุดเปลี่ยนสำคัญในการร่วมงานกับ BTS
“ช่วงที่ทำเพลง I Need U คือช่วงที่ทำงานยากที่สุดครับ
หลังจากที่ทำเพลง Danger และอัลบั้มเต็มชุดแรกของ BTS ออกมาแล้ว ผมรู้สึกกังวลมากว่าทิศทางเพลงต่อไปของวงควรจะออกมาเป็นยังไง ผมกังวลจนรู้สึกท้อ แต่ประธาน บังชีฮยอก ก็ยังคงมั่นใจและรอผมอยู่
เหมือนยังมีโชคอยู่ที่ทำให้ผมสามารถแต่งเพลง I Need U ออกมาได้ ซึ่งเพลงนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ BTS ที่ส่งให้วงมาถึงจุดนี้ในปัจจุบัน”
อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BTS ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ
“มันมีหลายปัจจัยมากครับ ด้วยตัวเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็น K-Pop มากกว่าเพลงจากต่างประเทศทั่วไป การผสมผสานเพลงที่มีคุณภาพ กับการแสดงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันคือความแตกต่างจากเพลงป๊อปทั่วๆไป”