เมื่อสื่อเกาหลีมองว่า YG ไม่ใช่หนึ่งใน BIG4 ของวงการ KPOP ?

สำหรับแฟนๆวงการ KPOP แล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงบริษัทใหญ่ระดับท็อปของวงการหลายๆคนคงนึกถึง ‘BIG3’ อย่าง SM, YG และ JYP แต่ล่าสุดสื่อในเกาหลีได้มองภาพวงการ KPOP ในปัจจุบันใหม่ พร้อมกับระบุว่าต่อจากนี้จะเป็นยุคที่วงการ KPOP ถูกนำโดยกลุ่ม ‘BIG4’ จากการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม KPOP

ทีมผู้สื่อข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์ Sport Seoul ได้พูดถึงยุคใหม่ของวงการ KPOP ที่นำโดย 4 บริษัทใหญ่ที่ถูกเรียกรวมกันว่า BIG4 อย่าง SM Entertainment, JYP Entertainment, BigHit Entertainment และ CJ ENM ซึ่งไม่มี YG Entertainment ที่เคยอยู่ในกลุ่ม BIG3 มาก่อน

การขาดหายไปของ YG ในกลุ่มผู้นำวงการ KPOP

YG Entertainment เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกมองว่าเป็นผู้นำในวงการ KPOP มาโดยตลอดและถูกจัดอยู่ในกลุ่ม BIG3 เดิม แต่ในช่วงปีที่ผ่านมากลับมีข่าวที่ไม่สู้ดีนัก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ก่อนหน้านี้รายได้ของ YG เติบโตมากระหว่างช่วงปี 2015-2017 ซึ่งมาจากการทัวร์คอนเสิร์ตของ BIGBANG และกิจกรรมต่างๆของวง แต่ด้วยการขาดหายไปของวงตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาทำให้การเติบโตของรายได้ลดลง

ในขณะที่ปัจจุบันข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับ YG ก็ส่งผลอย่างมากต่อราคาหุ้นของ YG ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านี้ทำให้ YG ต้องประสบปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงศิลปินบอยกรุ็ปในค่ายที่เป็นกำลังหลักอย่าง WINNER และ iKON ซึ่งถึงแม้ว่าความนิยมจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่รายได้ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง BIGBANG ที่ได้ทำไว้ จากการทัวร์คอนเสิร์ตในสเกลใหญ่ทั่วโลก

ส่วนทางด้านของ BLACKPINK ที่มีกระแสให้ความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่เมื่อพูดถึงยอดขายในช่วงปีที่ผ่านมาแล้วก็ยังเป็นคำถามสำคัญว่าหลังจากนี้ BLACKPINK จะสามารถสร้างความเติบโตทางรายได้ให้กับ YG ได้มากขึ้นในระดับใด

ทางด้านของ BIGBANG ที่สมาชิกที่กำลังเกณฑ์ทหารอยู่และใกล้กำหนดปลดประจำการณ์เข้าไปเรื่อยๆก็ยังคงเป็นที่สงสัยว่า จากการขาดหายไปของ ซึงรี และเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมของพวกเค้าในอนาคตมากแค่ไหน

CJ ENM ยักษ์ใหญ่ที่กุมทิศทางของอุตสาหกรรม KPOP

CJ ENM บริษัทในเครือของ CJ ที่ทำธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมบันเทิงคือหนึ่งในผู้นำใหม่ของวงการ KPOP ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีศิลปินของตัวเองโดยตรง แต่การลงทุนในค่ายเพลงขนาดเล็กและขนาดกลางของวงการ KPOP จำนวนมาก ทำให้ CJ ENM เป็นบริษัทที่กุมทิศทางของวงการ KPOP ต่อจากนี้เอาไว้

Stone Music / Jellyfish / Music Works / Off The Record / AOMG / Hi-Lite / MMO / Amoeba Culture  / Swing นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของค่ายเพลงที่อยู่ภายใต้การลงทุนของ CJ ENM ซึ่งหลังจากนี้จะยังคงขยายการลงทุนออกไปเรื่อยๆ รวมถึงการจับมือร่วมงานกันกับบริษัทอื่นๆ

และหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือช่องทางสื่ออย่าง Mnet ที่เหมือนเป็นตัวกลางสำคัญในการสื่อสารคอนเทนต์ของวงการ KPOP ออกไปสู่กลุ่มตลาดทั่วโลก รวมถึงเทศกาลเพลง KPOP อย่าง K-CON และ MAMA ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดต่างประเทศ ไปจนถึงรายการเซอร์ไววัลออดิชันในตระกูล PRODUCE ที่วงไอดอลกรุปจากรายการมีแนวโน้มที่จะทำกิจกรรมนานขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ 1-2 ปีเหมือนช่วงแรกของรายการ ซึ่งแต่ละวงได้รับความนิยมในระดับสูงและส่งผลอย่างมากต่อภาพรวมของตลาด ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า CJ ENM ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำของวงการ KPOP ในยุคปัจจุบัน

BigHit – Big Hit

ถึงแม้ BigHit จะไม่ใช่ค่ายเพลงที่เป็นตำนานของวงการ หรือผ่านการสร้างศิลปินที่มีชื่อเสียงมามากมาย แต่ความสำเร็จของค่ายจากการโปรโมตวง BTS คือซึ่งสำคัญที่สุดของวงการ KPOP ในชาวงหลายปีที่ผ่านมา และด้วยความนิยมที่เกิดขึ้นนี้ทำให้รายได้ของ BigHit ในช่วงปีที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดดจนขึ้นมาเป็นบริษัทที่ทำรายได้อันดับต้นๆของอุตสาหกรรม KPOP

นอกจากนี้ความสำเร็จและความนิยมของ BTS ยังสร้างรายได้กลับเข้าสู่เกาหลีในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นเชิงการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการส่งออกจากรายงานของหน่วยงานรัฐก่อนหน้านี้

ล่าสุด BigHit ได้เดบิวต์บอยกรุป TXT ออกมาเป็นที่เรียบร้อย และมีกระแสตอบรับจากทั่วโลกอย่างดี แต่คำถามสำคัญคือหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากสมาชิกของ BTS ต้องเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร ซึ่งในจุดนี้ BigHit จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นี้อย่างไร?

สำหรับวงการ KPOP ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย รวมถึงวงรุกกี้ที่เริ่มต้นทำกิจกรรม แต่ความร้อนแรงของวงการ KPOP กำลังจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือน เมษายน เป็นต้นไปกับการคัมแบคของศิลปินระดับแนวหน้าของวงการ คอยติดตามกันได้ว่าภาพของวงการ KPOP จะออกมาเป็นอย่างไร

Source 1