ยุนจีซอง กลับมาพบแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง ในงานแฟนมีตติ้ง “2019 YOON JISUNG 1st FAN MEETING : Aside IN BANGKOK” พร้อมเสน่ห์ครบเครื่องทั้งเสียงร้องนุ่มไพเราะ ความหล่อความเท่ ความอบอุ่นใจดี ตลอดจนความสนุกสนานเฮฮาที่มอบให้กันตลอดงาน
และงานนี้เกิดขึ้นได้โดยผู้จัดมีฝีมือ และน่าไว้วางใจอย่างบริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ของคุณกึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ที่แค่เพียงช่วงต้นปีนี้ก็โชว์ผลงานดีๆ มาอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ได้จับมือกับต้นสังกัดเกาหลี LM Entertainment จัดงานแฟนมีตติ้ง “2019 YOON JISUNG 1st FAN MEETING : Aside IN BANGKOK” ของ ยุนจีซอง เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5 ซึ่งทัวร์แฟนมีตติ้งนี้เป็นกิจกรรมส่งท้าย ก่อนที่ยุนจีซองจะอำลาไปทำหน้าที่ของเค้าคือการรายงานตัวเข้ากรมทหารนั่นเอง
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ
และเป็นอีกครั้งที่เราได้ตกหลุมรักไปกับเสน่ห์ของ ยุนจีซอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ เพราะทั้งเสน่ห์ ความสามารถ และตัวตนของเค้าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ ยุนจีซอง คนนี้สมควรได้รับความรักที่มากมายเช่นนี้
เริ่มงานเปิดฉากแรกเรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆ ด้วย VTR ที่ ยุนจีซอง ส่งมาเป็นออเดิร์ฟให้กับแฟนๆ บับอัล (ชื่อแฟนคลับของยุนจีซอง) กับคลิปวิดีโอน่ารักๆ ที่สาธิตวิธีการเพื่อให้ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีร่วมกับเค้าอย่างคุ้มค่าขั้นสุดในงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ เมื่อทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วดนตรีเพลง Who Are You? (또웃기만해) ก็ดังขึ้น เปิดงานอย่างเป็นทางการมอบความสุขให้กับทุกคนท้วนหน้า
และเปิดตัวพิธีกรของงานคือ ดีเจดาด้า-วรินดา ดำรงผล พร้อมล่ามที่แฟนๆ คุ้นเคยคุณยู-ยูคอนยอง เริ่มต้นทำหน้าที่ได้อย่างดี ทำให้บรรยากาศลื่นไหลสนุกสนาน ยุนจีซองทักทายแฟนๆ ด้วยการพูดภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ คิดถึงมากๆ นะครับ” พร้อมอ้อนแฟนๆ ต่อว่า
“เพราะแฟนๆ ในเมืองไทยขึ้นชื่อในเรื่องของความร้อนแรงอยู่แล้ว ดังนั้นในวันนี้ขอให้เชื่อใจผม และสนุกไปด้วยกันนะครับ”
และพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ถึงเรื่องที่ ยุนจีซอง จะนึกถึงเมื่อมาประเทศไทย โดยเค้าได้บอกว่ามีเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยเยอะมาก แต่ถ้านึกถึงตอนนี้ก็คือช่วงเวลาที่ได้ใช้ ได้ไปเที่ยวกับสมาชิกวง WANNA ONE นั่นเอง
ซึ่งคืนก่อนหน้าวันงาน ยุนจีซอง ได้ไปเดินเที่ยวที่ถนนข้าวสารมา และถ้าให้แนะนำสถานที่ให้เค้าไปเที่ยว แฟนๆ ก็พร้อมใจกันทั้งฮอลตอบว่า “ไปเที่ยวบ้านหนู” โดยเค้าบอกตอบอย่างน่ารักน่าเอ็นดูว่า “ไม่เอาที่บอกว่ามาที่บ้านเราแบบนี้นะ แต่…ถ้ามีของกินอร่อยๆ ก็น่าสนใจนะครับ”
ต่อกันด้วยกิจกรรมแรก YOON JISUNG’S TUTORIALS เป็นมิชชั่นที่ให้ยุนจีซองตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเอง 38 ข้อ ภายในเวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น เพื่อให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของ ยุนจีซอง คนนี้มากขึ้นไปอีก พร้อมข้อมูลใหม่ๆ อีกมากมาย อย่างเช่นความชอบต่างๆ ที่เจ้าตัวชอบผัดไทยมาก ตอนอยู่เกาหลีเค้าก็ไปทานที่อิแทวอนบ่อยๆ ด้วย และอีกเมนูคือแตงโมปั่น เมนูฮอตฮิตที่ศิลปินเกาหลีหลายๆ คนชอบเช่นกัน ซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าที่ไทยเป็นรสชาติที่อร่อยจนเค้าไม่สามารถลืมได้
และมีคำถามที่จีซองต้องเลือกอย่างเช่น “ยุคทองของจีซองคือ เมื่อวาน หรือ วันนี้” ซึ่งเค้าตอบว่า “วันนี้ครับ” เพราะเป็นวันที่ได้มาเจอกับแฟนๆ บับอัลของเค้า ส่วนคำที่เค้าอยากจะบอกกับแฟนๆ คือคำว่า “ผมรักคุณ” และคำที่เค้าอยากได้ยินจากแฟนๆ คือคำว่า “จีซองอา ซารังเฮ~” และแฟนๆ ก็จัดให้ตามนั้นเลย โดยตะโกนคำที่เค้าอยากได้ยิน “จีซองอา~ ซารังเฮ~”
ก่อนหน้านี้ ยุนจีซอง ได้ออกตัวว่ามิชชั่น 38 ข้อนี้ เค้าไม่เคยทำสำเร็จเลยที่แฟนมีตติ้งประเทศอื่นๆ และแน่นอนแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยนี้ เค้าได้ทำมิชชั่น 38 ข้อนี้สำเร็จเป็นที่แรก!! จึงเรียกเสียงเฮได้ทั้งจากเจ้าตัว และแฟนๆ ดังไปทั้งฮอลเลย
ถึงคราว ยุนจีซอง ขอเป็นฝ่ายถามแฟนๆ กันบ้าง “ของขวัญที่ผมอยากมอบให้บับอัลก็คือเพลง แต่ทุกคนลองทายกันดูนะครับ แล้วมาดูว่าจะตรงใจหรือเปล่า?” และดนตรีอินโทรเพลง CLOVER ก็ดังขึ้นมา และเสียงกรี้ดก็ตอบทุกอย่างได้เป็นอย่างดี จบเพลงก็เข้าสู่คลิปวีทีอาร์ HOME SHOPPING บับอัล ที่จีซองมาในลุคมาดเชฟสุดหล่อชวนแฟนๆ ให้สั่งคิมบับจากเค้า พร้อมสาธิตการทำเมนูคิมบับหมูสามชั้นให้ทุกคนได้ดู ด้วยฝืมือของเค้าที่ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่น แต่กลับข้าวเยอะบ้าง ห่อไปสาหร่ายขาดบ้าง หั่นแบ่งคิมบับแตกบ้าง ทำเอาแฟนๆ ขำปนเอ็นดู หัวเราะเสียงดังกันไปทั้งฮอล
ต่อมาเป็นเพลง In the Rain เพลงโปรโมตที่แฟนๆ รอคอยจะฟังเสียงนุ่มๆ แสนไพเราะของเค้า ซึ่งก็เป็นไปอย่างสมการรอคอย และในเพลงนี้มีความพิเศษจากแฟนๆ ที่จะมอบให้เค้าด้วยกับโปรเจค Flashlight ที่ทุกคนพร้อมใจกันแปะสติกเกอร์สีเปิดแฟลชมือถือที่จะให้แสงสีฟ้า และสีขาว ที่สวยงามสว่างไปทั้งฮอล จนจีซองถามเหตุผลของสองสีนี้ ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นสองสีที่ปรากฎจากจินตนาการเหมือนตอนที่ฝนกำลังตกอยู่เลย
และเข้าสู่ช่วง BABAL’S FORTUNE TELLING หรือ หนูขอมาพี่จัดให้ โดยให้แฟนๆ เขียนถึงสิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงในงานวันนี้ลงบนกระดาษโน้ต และให้ ยุนจีซอง เลือกขึ้นมา อย่างเช่นการอยากเห็นเค้าแต่งชุดไทย และแน่นอนว่าเกิดขึ้นได้ทันทีจากพร็อพที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้ส่วนนึงตามคำขอต่างๆ บนกระดาษโน้ต โดยเค้าห่มผ้าไทย พิธีกรก็จัดซีนฟินๆ ให้แฟนๆ โดยการสอนฟ้อนรำแบบไทยๆ อีกด้วย และยังมีสิ่งที่แฟนๆ อยากเห็นการเต้นเพลงวง WANNA ONE ทั้งเพลงที่มีท่าเต้นเซ็กซี่อย่าง DAY BY DAY (보여) และเพลง Light เพลงโปรโมตของวงที่มาพร้อมจังหวะ และท่าเต้นเท่ๆ
และยังรวมไปถึงการส่งวิ้งค์ ทั้งแบบน่ารัก และเซ็กซี่ที่ทำเอาแฟนๆ ส่งเสียงกรี๊ดรัวๆ เพราะจีซองจัดวิ้งค์ให้แบบชุดใหญ่คอมโบเซ็ตกันเลย และมีคำขอให้ Morning call ด้วยประโยคภาษาไทยว่า
“หนูคะ ตื่นได้แล้วค่ะ”
ตามด้วยประโยคภาษาไทยที่เพิ่มความฟินไปอีกอย่าง “พี่รักหนูนะคะ” ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ยุนจีซองมอบช่อดอกไม้ผ่านกล้องให้แฟนๆ ทั้งฮอลพร้อมพูดภาษาไทยว่า “หนูขา พี่ให้ค่ะ” ก่อนที่จะจบช่วงนี้ไปด้วยภาษาไทยอ้อนๆ ของเค้าที่ส่งให้แฟนๆ “รักนะบับอัลของผม”
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงต่อไป จีซองขอรีวิวงานแฟนมีตติ้งของตัวเอง โดยบอกว่า “ผมร้องเพลง WHY NOT ME? (왜내가아닌지) และทำให้ความร้อนแรงของแฟนๆ ชาวไทยกลายเป็นความชุ่มฉ่ำครับ” ซึ่งแน่นอนว่าเพลงทำนองช้าๆ ที่จีซองถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาในเนื้อหาที่ปนความเศร้า นั่นทำให้ทุกคนอินไปกับเค้าได้ไม่ยากถึงกับมีน้ำตารื้นออกมาเลยเช่นกัน
หลังจากได้ฟังเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กันไปแล้ว บรรยากาศของงานก็กลับมาสนุกสนานเฮฮากันอีกครั้งกับช่วง “DJ ฮันกี IN THE KITCHEN” ที่ ยุนจีซอง กลับมาพร้อมผ้ากันเปื้อน โชว์การทำอาหาร 3 เมนู คือ แซนด์วิชนมข้นหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง และน้ำแตงโมปั่น ฟังดูเหมือนเป็นเมนูที่ง่ายแสนง่าย แต่สำหรับเชฟยุนจีซองแล้วทุกเมนูก็ดูยากขึ้นทันที
เริ่มที่เมนูแรก แซนด์วิชนมข้นหวาน ตั้งแต่เริ่มต้นหยิบขนมปังลงเครื่องปิ้ง ก็ทำเอาแฟนๆ ลุ้นกันแล้วว่าจะออกมาไหม้หรือไม่ไหม้ ผลปรากฎว่าขนมปังออกมาสีสวยงามหอมกรุ่นเลยทีเดียว ต่อกันที่ไส้ช็อกโกแลต ที่เจ้าตัวปาดนูเทลล่าหนามากๆ เกือบหมดขวดเลยทีเดียว แล้วก็หั่นกล้วยหอมแว่นแบบหนาบ้างบางบ้างมาวางสวยงาม ตบท้ายด้วยการราดนมข้นหวานที่เรียกได้ว่าชุ่มช่ำจัดจานรอเสิร์ฟคู่กับผักกาดแก้วและมะเขือเทศเน้นสีสวย ไม่เน้นความเข้ากันไปอีก
มาต่อที่เมนูที่สอง ข้าวเหนียวมะม่วง เริ่มตักข้าวเหนียวมูนใส่แม่พิมพ์คว่ำลงบนจานจนพูนแน่น พิธีกรถึงกับแซวว่าคล้ายข้าวมันไก่เลย โรยน้ำกะทิอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเราเกือบจะได้เห็นข้าวเหนียวมะม่วงโรยเกลือ และชินนาม่อนกันแล้ว ดีที่แฟนๆ ทั้งฮอลเบรคได้ทัน และต่อที่การเฉือนมะม่วง กรรมวิธีต่างๆ ที่ทำเกือบทำให้มะม่วงเละคามือเจ้าตัวแล้ว แต่ผลออกมาก็ได้มะม่วงที่สวยงามมากเลยทีเดียว
และเมนูสุดท้าย น้ำแตงโมปั่น ความมือหนักใส่แตงโมเยอะ แต่ก็ใส่น้ำหวานเยอะเช่นกันทำเอาต้องแก้กันไปสองรอบเลย จีซองโชว์สกิลการใช้เครื่องปั่นอย่างคล่องแคล่วแล้วยืนโพสต์ท่าสุดเท่ พร้อมปล่อยมุก หวังว่าจะมีงานพรีเซนเตอร์เครื่องปั่นติดต่อเข้ามาบ้างนะครับ จบภารกิจปิดครัวแบบขำกันท้องแข็ง เพราะยุนจีซองคนนี้ทำให้ป่วนไปทั้งครัวได้จริงๆ
จบช่วงเฮฮา พักอารมณ์อีกครั้งกลับเข้าสู่ช่วง YOON JISUNG’S BABAL THE RADIO ดินเนอร์กับ ยุนจีซอง และเค้าได้อ่านจดหมาย บอกเล่าเรื่องราวว่าเค้าได้มีโอกาสได้จัดรายการวิทยุแบบนี้ครั้งแรกในงานแฟนมีตติ้งเปิดตารางทัวร์ ณ กรุงโซล และนี่ถือเป็นอีกครั้งที่เมืองไทยซึ่งเป็นประเทศปิดท้ายเอเชียทัวร์ครั้งนี้
“ผมอยากจะบอกว่าขอบคุณจริงๆ ที่มาหาผมในวันนี้ ผมมีวันนี้ได้เพราะทุกคน ขอบคุณที่มอบความรักมากมายให้ผมเสมอมาเพราะทุกคนผมถึงมีความสุข อยากให้รักผมไปอีกนานๆ ผมสัญญาจะเป็นยุนจีซองที่พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นไปอีกครับ ขอบคุณที่มาใช้เวลาร่วมกันกับผม ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ ขอให้บับอัลทุกคนมีความสุขมากๆ นะครับ”
หลังจบความในใจของ ยุนจีซอง แฟนๆ ชาวบับอัลก็ส่งของขวัญเป็น VTR เซอร์ไพรส์น่ารักๆ เพื่อบอกกับจีซองว่าสิ่งที่แฟนๆ ชอบที่สุดคือรอยยิ้มของเค้า แต่ถ้าวันไหนที่เหนื่อย และยิ้มไม่ไหวก็ไม่เป็นไรเลยนะ ถ้าเค้าจะร้องไห้บ้าง เพราะไม่ว่าวันที่มีรอยยิ้มหรือมีน้ำตา บับอัลจะอยู่ข้างๆ เสมอ และเมื่อยุนจีซองหันกลับมาที่มองแฟนๆ ก็พบป้ายโปรเจคข้อความว่า
“언제나지금처럼함께할게” (อยู่ด้วยกันเสมอเหมือนกับในตอนนี้)
ในระหว่าง VTR แฟนๆ ก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เมื่อยุนจีซองหันกลับมาหาแฟนๆ เพลง I’ll be by your side ก็ดังขึ้น จีซองเอ่ยคำว่า “ขอบคุณครับ” พร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณที่มอบความรักให้ผมขนาดนี้ การที่เราจะชอบใครคนหนึ่งที่พูดกันคนละภาษามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ”
ก่อนที่จะแซวแฟนๆ ที่กำลังร้องไห้ว่า “ทำไมทุกคนร้องไห้มากกว่าผมอีกครับเนี่ย ร้องไห้ทำไมกันครับ” และเค้าได้หันไปถามภาษาไทยเพื่อพูดปลอบแฟนๆ ชาวไทยว่า “อย่าร้องไห้นะครับคนดี” และบอกว่า “ถ้าทุกคนยังอยู่กับผม ผมจะกลับมาหาอีกนะครับ” ส่งท้ายคำสัญญาด้วยเพลง COMMA (쉼표) ก่อนลงจากเวทีไป
แต่แฟนๆ ยังคงรอคอยเค้าขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง พร้อมส่งเสียงเรียก “ยุนจีซอง” จนเค้ากลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งพร้อมเพลง LIKE THE WIND (바람같은너) และพูดขอบคุณแฟนๆ ที่มาหามาให้กำลังใจเค้าในวันนี้ และแน่นอนว่าในครั้งนี้ ยุนจีซองมีรอยยิ้มมอบให้กับทุกคนอย่างมีความสุข และอบอุ่นใจมากจริงๆ
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ตามสัญญาที่ให้ไว้หลังจบงาน ยุนจีซอง ไฮทัชกับแฟนๆ ทั้งฮอล บอกลาส่งทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมพลังบวกที่สะท้อนออกมาจากตัวเค้าด้วย เป็นการปิดฉากแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งสุดท้ายของทัวร์ไปอย่างสวยงามบริบูรณ์จริงๆ
ขอบคุณผู้จัด Four One One Entertainment ที่พาหนุ่มจีซองที่มีเสน่ห์ทั้งเท่ ทั้งเฮฮา ความสามารถทั้งด้านการร้องเพลง และยังทำให้ช่วงเวลาที่อยู่ในงานมีแต่ความสุขได้มากมายขนาดนี้
งานต่อไปของ โฟร์วันวันฯ ยังคงเตรียมของดีมีทีเด็ดที่จะถูกใจแฟนคลับเกาหลีกันอีกแน่นอน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์หลัก www.411ent.com ออฟฟิเชียลแฟนเพจ www.facebook.com/fouroneoneent ทวิตเตอร์ @411ent และอินสตาแกรม IG @411ent https://instagram.com/411ent
