แทยอน ‘SNSD’ กับเรื่องราวสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ SONE

แทยอน SNSD จากการเริ่มต้นทำงานในวงการบันเทิงด้วยการเดบิวต์กับวงเกิร์ลกรุประดับตำนาน จนก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินโซโลที่เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วโลก ได้พูดถึงเรื่องราวสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนคลับที่ยาวนานกว่า 14 ปี
แทยอน ได้มีโอกาสร่วมงานกับนิตยสาร 1st Look ฉบับเดือนมิถุนายน ที่คราวนี้เธอมาพร้อมกับเสน่ห์ในแบบของหญิงสาวที่มีความไร้เดียงสา น่ารัก และแสดงความเกิร์ลครัชออกมาในเล่มเดียวกัน และ แทยอน ยังมีโอกาสได้พูดคุยถึงแฟนคลับของเธอที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการทำงานในวงการบันเทิงมาตลอดกว่า 14 ปี
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษแทยอน เปิดเผยด้วยความจริงใจว่าเธอรู้สึกขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนจากแฟนๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และแสดงความรักของเธอที่ไม่สามารถบอกเป็นคำพูดได้ถึงแฟนคลับ
“เวลาที่นึกถึงแฟนคลับของฉัน บางทีฉันก็ร้องไห้ออกมาด้วยเหตุผลบางอย่างค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนและปะปนไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ ขอโทษ ความรัก และความรู้สึกที่ฉันไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
และความจริงที่ว่าฉันยังมีแฟนๆ ที่ยังรักฉันโดยไม่เปลี่ยนแปลง มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเค้ามากค่ะ”
เมื่อพูดถึงช่วงเวลาที่ แทยอน ไม่ได้พบกับแฟนคลับในสถานการณ์ช่วงปัจจุบันแบบนี้ เธอได้เปิดเผยถึงสิ่งที่เธอทำในแต่ละวันว่า เธอได้ใช้เวลาไปกับงานอดิเรกอย่างการแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางค์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเครียดในช่วงนี้
“เมื่อไหร่ที่ฉันเบื่อและไม่มีอะไรทำ ฉันก็จะไปที่ร้านขายเครื่องสำอางค์และหารุ่นที่ออกมาใหม่ล่าสุด แล้วก็ลองเล่นหลายๆ อย่างค่ะ และฉันก็ซื้อกลับมาเพื่อลองใช้ที่บ้านด้วย
มันกลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันสามารถระบายความเครียดออกมาได้ค่ะ”
ระหว่างช่วงนี้ แทยอน ก็ได้เตรียมตัวเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับสไตล์ใหม่ๆ เพื่อกลับมาพบกับเหล่าแฟนๆ ของเธอ ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกถึงเรื่องราวที่สนุกที่ได้เรียนรู้และได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในด้านความงามเกี่ยวกับเทรนด์และสไตล์ใหม่ๆ ในช่วงนี้
“ฉันต้องการที่จะปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อนำเสนอความเป็นตัวเองออกมา ฉันรู้สึกสนุกระหว่างการถ่ายทำโฟโต้ชู้ดในครั้งนี้มากค่ะ และยังได้พูดคุยและฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนสำหรับการถ่ายทำนี้
ในการทำงานครั้งนี้ ฉันได้ความรู้และทริคใหม่ๆ ที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ ทำให้การทำงานในวันนี้เป็นสิ่งที่มีความหมายกับฉันมากเลยค่ะ”
Source 1