เมื่อ ‘แฟนแคม’ ของรายการเพลง กลายเป็นประเด็นเรื่องรายได้ที่ไม่ยุติธรรมต่อศิลปินไอดอล

‘แฟนแคม’ จากรายการเพลงที่ถูกอัปโหลดลงบนช่องทางออฟฟิเชียลของสถานีโทรทัศน์กลายเป็นปัญหาที่กำลังถูกร้องเรียนจากค่ายเพลงต่างๆถึงเรื่องความถูกต้องในการครอบครองสิทธิ์ และการสร้างรายได้ของสถานีที่ไม่ยุติธรรมต่อศิลปิน

ในช่วงที่ผ่านรายการเพลงต่างๆได้มีคอนเทนต์ในลักษณะของ ‘แฟนแคม’ ที่ตามถ่ายสมาชิกของวงไอดอลกรุปแต่ละคนที่ขึ้นแสดงบนเวทีในรายการเพลง และแต่ละคลิปก็มียอดวิวจำนวนไม่น้อยซึ่งแน่นอนว่ายอดวิวเหล่านี้ได้สร้างรายได้ให้กับทางสถานี้อีกทาง นอกเหนือจากการออกอากาศทางโทรทัศน์

ล่าสุดตัวแทนจากค่ายเพลงต่างๆได้รวมกลุ่มผ่าน สมาคมจัดการคอนเทนต์เพลง สมาคมจัดการศิลปิน และสมาคมผู้ผลิตในอุตสาหกรรมบันเทิง เพื่อยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการค้ายุติธรรม เพื่อให้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับสัญญาเพื่อใช้สิทธิจากวีดีโอที่ถ่ายการแสดงของศิลปิน

ก่อนหน้านี้ไม่เป็นปัญหา

ก่อนหน้านี้ศิลปินที่ไปถ่ายในรายการเพลงไม่ได้มีสัญญาใดใดที่ผูกมัดระหว่างทางสถานีและต้นสังกัดของศิลปินในเรื่องนี้ ทำให้สิทธิในคลิปวีดีโจากการถ่ายทำในรายการเพลงทั้งหมดเป็นของสถานี ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เกิดปัญหาใดใดเนื่องจากวีดีโอเหล่านั้นใช้ออกอากาศทางโทรทัศน์เพียงช่องทางเดียว

รายได้ที่ไม่ยุติธรรม

แต่ในปัจจุบันการเผยแพร่คอนเทนต์จากรายการเพลงได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต ซึ่งทางรายการเพลงต่างๆได้สร้างรายได้จากการอัปโหลดคลิปวีดีโอในหลากหลายมุมมกล้องลงบนสตรีมมิงออนไลน์ และยังขายฟุตเทจวีดีโอเหล่านั้นให้กับสำนักข่าว ในขณะที่คลิป ‘แฟนแคม’ ของรายการก็ได้ถูกนำมาขายให้กับบริษัทอื่นๆเพื่อสร้างรายได้เช่นกัน

และด้วยการที่ค่ายต่างๆไม่สามารถอ้างสิทธิในคลิปการแสดงของศิลปินเหล่านั้นได้จึงทำให้กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างค่ายเพลงและสถานีโทรทัศน์ ซึ่งมีหนึ่งในสถานีที่ทำให้ประเด็นนี้บานปลายขึ้นเมื่อทางสถานีได้ติดต่อมายังค่ายเพื่อขอสิทธิโดยตรงในการขายลิขสิทธิคลิปของศิลปินที่ถ่ายทำในรายการเพลง

เรียกร้องมาตรฐานเพื่อแก้ไขความไม่เหมาะสม

ทางสมาคมต่างๆได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการค้ายุติธรรมเพื่อให้มีการพูดคุยรวมกันของทุกฝ่ายเพื่อสร้างมาตรฐานของสัญญาให้การนำสถานีต่างๆนำคลิปวีดีโอเหล่านี้ไปเผยแพร่ในช่องทางต่างๆได้อย่างเหมาะสม และต้องมีการแจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนของการนำไปใช้ในกรณีนอกเหนือจากการออกอากาศทางโทรทัศน์ ทางตัวแทนจากสมาคมจัดการคอนเทนต์เพลง ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“เราเรียกร้องถึงการสร้างข้อกำหนดใหม่นี้เพื่อให้ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของแต่ละฝ่ายเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทั้งทางฝั่งของสถานี และทางค่ายเพลง”

ทางด้านตัวแทนจากค่ายเพลงก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า

“มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ทางสถานีปรับเปลี่ยนเงื่อนไข แต่เราก็หวังว่าจุดนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ทำให้ตลาดคอนเทนต์ K-POP เติบโตขึ้นไปด้วยสัญญาที่ยุติธรรมกับทุกฝ่าย”

Source 1