ย้อนรีวิว | STRANGER : ป่าแห่งความลับ

ในยุคสมัยที่บ้านเมืองถูกกุมไว้ในมือของผู้มีเงินเป็นอำนาจ จนเจ้าหน้าที่รัฐ อัยการ ตำรวจ ยอมที่จะแลกเกียรติและละทิ้งหน้าที่ต่อประชาชนเพื่อ ยศ ตำแหน่ง และทรัพย์ เราหวังเพียงแค่จะมีคนอย่าง ฮวางชีมก ที่ทำให้รู้สึกว่า .. ยังมีความหวัง
STRANGER
비밀의 숲
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษเรื่องย่อ – synopsis
ฮวางชีมก (รับบทโดย โจซึงอู) อัยการหนุ่มที่ได้ชื่อว่าซื่อสัตย์ ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร และตรงไปตรงมาเสมอ เขามักมีสีหน้าเรียบเฉย แทบไม่เคยแสดงอารมณ์ใดๆ และไม่สนิทสนมกับใครเป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะสมัยยังเด็กเขาเข้ารับการผ่าตัดสมอง ซึ่งทำให้มีผลต่อการรับรู้และการแสดงออกทางอารมณ์ของเขา แต่นั่นกลับเป็นลักษณะนิสัยที่เหมาะสมกับอาชีพของเขาอย่างยิ่ง เนื่องจากการทำงานเป็นอัยการนั้น ความลำเอียง และไม่เที่ยงตรง มักเกิดจากความสนิทสนมนั่นเอง
วันหนึ่ง ขณะที่เขาไปพบ พัคมูซอง (รับบทโดย ออมฮโยซอบ) ที่บ้าน เขากลับพบว่า พัคมูซอง ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต นี่อาจจะเป็นเพียงการฆาตกรรมเพื่อชิงทรัพย์ธรรมดา หรือมันอาจไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะความจริงแล้ว พัคมูซอง เป็นเจ้าของกิจการที่ล้มละลาย และเขาเป็นผู้กุมความลับ เกี่ยวกับการรับสินบน และการทุจริตของอัยการ เจ้าหน้าที่รัฐ และนักธุรกิจอีกหลายราย จึงทำให้การเสียชีวิตอย่างปริศนานี้นำไปสู่ความลับอีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังอันมืดดำของประเทศนี้
![]() | author ToiTing | KR SERIES LOVER |
รีวิว – review
*รีวิวนี้เขียนไว้ตั้งแต่ตอนดูจบเมื่อปี 2017 นะ~
หลังห่างหายจากจอโทรทัศน์เกาหลียาวนานถึง 7 ปี เบดูนา กลับมาอีกครั้งในบทของตำรวจสาว ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่เป็นมากกว่าฆาตกรรม ร่วมด้วย โจซึงอู ที่มารับบทอัยการหน้านิ่งที่ต้องทำงานร่วมกัน แค่ชื่อนักแสดงนำสองคน ก็รับประกันความสามารถด้านการแสดง เพราะทั้งคู่ต่างโด่งดังจากการแสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะเบดูนาที่มีผลงานระดับโลก ทั้งซีรี่ส์ที่เผยแพร่ทาง Netflix หรือภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Cloud Atlas นอกจากทั้งคู่ ยังมีนักแสดงมากความสามารถหลายท่านที่ร่วมแสดง ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแล้ว มีตัวละครสำคัญหลายตัวมากๆ และการคัดเลือกนักแสดงก็คัดมาได้เหมาะสมกับบทที่ได้รับอย่างมาก
หนึ่งในนักแสดงที่มาพลิกบทบาทในเรื่องนี้ ที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ คงเป็นคุณยูแจมยอง ที่เราเคยคุ้นหน้าคุ้นตา ในบทตลกเฮฮา แต่ในเรื่องนี้ เขาต้องมารับบทหัวหน้าอัยการผู้เคร่งขรึม มีเบื้องลึกเบื้องหลัง เจ้าแผนการ ซึ่งถือว่าต่างจากภาพเดิมอย่างสิ้นเชิง
ตัวละครในเรื่องนี้หลายตัวมีปมชีวิตและมีฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ออกมามาก ซึ่งการแสดงของแต่ละคน ก็ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของเรื่องราว และอาจจะน้ำตาคลอ หรือต้องร้องไห้ตามในบางฉากทีเดียว นอกจากอารมณ์ดราม่าแล้ว เรื่องนี้ตัวละครแต่ละตัว มีเบื้องลึกเบื้องหลัง หลายๆคนมีเรื่องที่ต้องปกปิด ซึ่งหลายฉากที่ไม่ได้มีบทสนทนามากมาย นักแสดงก็ต้องใช้สายตา และสีหน้า ซึ่งแม้การขยับหัวคิ้ว ยกมุมปากเพียงเล็กน้อย หรือแววตาที่เปลี่ยนไป ก็เหมือนกับทิ้งเบาะแสไว้ให้คนดู ถือเป็นการแสดงที่มีความละเอียดมากๆ จะเรียกว่า “น้อย แต่มาก” ก็ว่าได้
ในส่วนของเนื้อเรื่องถือเป็นซีรี่ส์อีกเรื่องที่บทเขียนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม วางตัวละครแต่ละตัว และสร้างบทบาทที่ทำให้ตัวละครที่อาจดูเหมือนไม่ได้มีควมสำคัญอะไรมาก ค่อยๆมีความสำคัญต่อเรื่อง และมีส่วนในการคลายปมที่จัดว่าสลับซับซ้อน ยากที่จะคาดเดา พูดได้ว่าบางช่วง อย่าคิดเดาจะดีกว่า เพราะนอกจากจะปวดหัว และยังต้องเหวอกับการเดาที่ไม่ถูกซะทีด้วย บทโน้มนำ หลอกล่อให้เราสงสัยตัวละครมากมายหลายตัว และแม้เหมือนจะมีหลักฐานมากขึ้นระหว่างการสืบสวน แต่ก็ยังไม่อาจไว้วางใจใครได้เลย ถือว่าเป็นบทที่มีความเข้มข้น ต้องคิดตาม สังเกต มองหาคำใบ้ต่างๆที่นอกจากจะแทรกอยู่ในส่วนเนื้อหาแล้ว ส่วนที่มองข้ามไม่ได้ ก็คือการแสดงสีหน้าท่าทางของนักแสดง ที่ใส่ใจในรายละเอียดมาก
เรื่องราวไม่เน้นความสัมพันธ์ความรักระหว่างหนุ่มสาว แต่ก็ไม่ถึงกับแห้งเหี่ยว ยังมีความน่ารักของตัวละคร และพัฒนาการทางอารมณ์ของพระเอกที่ทำให้เราต้องอมยิ้มตาม (เห็นพระเอกทำหน้านิ่งแบบนี้ แต่ในเรื่องมีเสน่ห์มากๆ)
เรื่องราวในเรื่องทำให้เราเห็นถึงการต่อสู้ของความยุติธรรม และ ด้านมืด/ความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ ซึ่งเมื่อทำการละโมบโลภมาก ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและหน้าที่ของตนเอง อำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิด ไหลไปตามอำนาจของเงินทอง และความสะดวกสบาย และเมื่อกระทำความผิดเหล่านี้ ก็ต้องมาคอยหวาดระแวง ว่าวันไหนที่ความผิดของตัวเองจะถูกเปิดเผย
นอกจากเรื่องการโกงกินของเจ้าหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหลาย เรื่องนี้ยังเล่าเรื่องการสูญเสียบุคคลเป็นที่รัก สูญเสียอำนาจ/ศักดิ์ศรี ซึ่งแต่ละคนก็พร้อมที่จะทวงคืนความอยุติธรรมที่ตนเองต้องเผชิญ บางคนดิ้นรนและยอมทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ทั้งด้วยวิธีการที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง
ช่วงท้ายของซีรี่ส์ ซึ่งเหมือนเป็นการขมวดจบเรื่อง มีบทสนทนาหลายจุดที่ให้ข้อคิดที่น่าสนใจ
เรื่องนี้ดูจบแล้วก็ตั้งใจมาเขียนอวยเต็มที่ เพราะเป็นซีรี่ส์ที่ชอบมากๆ ในทุกองค์ประกอบ ทั้งการแสดง การคัดเลือกนักแสดง บท ภาพ เพลงประกอบ ใครที่ชอบผลงาน แนวสืบสวน เปิดโปง บอกเลยว่า “ห้ามพลาด!!!” ถือเป็นงานขึ้นหิ้งในใจเรื่องหนึ่งเลย
*** 2020 แล้วน้าาา ***
ใครที่เพิ่งได้มารู้จัก และรับชมในช่วงนี้ ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะหลังจากที่ทีมดูพร้อมเกาหลี ต้องรอคอยกันมาหลายปี ตอนนี้ซีซั่น 2 ก็กำลังจะออกอากาศให้ได้ชมกันแล้ว นอกจากตัวละครหน้าคุ้น ที่นำทีมโดยพระ-นาง คู่เดิม ยังได้นักแสดงใหม่ๆ มาสมทบ กับเรื่องราวที่แว่วมาว่า จะมีรูปแบบการทำงานของพระ-นางที่เปลี่ยนไป แต่จะเปลี่ยนไปอย่างไร ถึงกับต้องอยู่คนละฝั่งมั้ย อันนี้คงต้องรอติดตามกัน โดยซีซั่น 2 มีกำหนดการที่จะออกอากาศ ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้
ใครยที่ยังไม่ได้เริ่มดูซีซั่นแรก แนะนำให้รีบตามมาด่วนๆ (เรื่องนี้มีให้ดูทั้งที่ VIU และ Netflix) แล้วจะได้ทันมาดูซีซั่นใหม่พร้อมกัน จะได้มาลุ้น มาเดาไปพร้อมๆกันนะคะ