อีกวางซู กับความรู้สึกตรงกลางระหว่าง ‘นักแสดง’ และ ‘สมาชิกรันนิงแมน’

ปี 2020 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของ อีกวางซู ในบทบาทของการเป็นนักแสดงที่เค้าได้รับรางวัลจากงานประกาศรางวัล Baeksang Awards เป็นครั้งแรกหลังจากทำงานในวงการมานาน 14 ปี
และหนึ่งในคำชมที่ติดตัว อีกวางซู มาโดยตลอดคือเรื่องของ ‘หัวใจนักสู้’ ที่แสดงผ่านความทุ่มเทของเค้าในทุกๆ ผลงาน
“ผมทำเต็มที่เสมอครับ ผมมีความรู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่ผมไม่ทำมันออกมาเต็มที่ นั่นคือจุดสิ้นสุดของเส้นทางผมแล้ว ผมคิดว่าความตั้งใจและทุ่มเทเต็มที่คือกฎที่เข้มงวดที่สุดของผมครับ
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดง หรือการเป็นสมาชิกของ รันนิงแมน ไม่มีครั้งไหนเลยครับที่ผมมีความรู้สึกหลังการทำงานว่าวันนั้นผมไม่ได้ทำเต็มที่”
ตลอดช่วงเวลา 10 ปีในการทำงานกับรายการ รันนิงแมน สำหรับคนในวงการด้วยกันแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากในการเป็นสมาชิกรายการหนึ่งได้อย่างยาวนาน ซึ่ง อีกวางซู ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
“แน่นอนครับว่าในช่วง 10 ปีผมต้องมีความรู้สึกในแบบที่ไม่พอใจบ้าง แต่ก็เช่นเดียวกันครับ ไม่มีการถ่ายทำในครั้งไหนเลยที่ผมจะบอกให้ตัวเองขี้เกียจ ซึ่งผมมองว่าวิธีคิดแบบนี้อาจจะเป็นที่มาของ ‘หัวใจนักสู้’ ที่คนอื่นๆ พูดถึงผม”
จากงาน Baeksang Awards อีกวางซูได้พูดขอบคุณระหว่างรับรางวัลว่า ‘ผมจะเป็นคนมอบเสียงหัวเราะ และทำให้ทุกคนมีความสุขต่อไป’ ซึ่งไม่ใช่คำขอบคุณในแบบที่นักแสดงคนอื่นๆพูดกันในงานประกาศรางวัล ทำให้หลายคนสงสัยว่าสำหรับเขาเองแล้วไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นนักแสดง
“ผมคิดว่า เป็นความเข้าใจที่ถูกนะครับ ผมอยากให้เสียงหัวเราะและทำให้ทุกคนรู้สึกไปกับการแสดงของผม รวมถึงบทบาทของผมในรายการ รันนิงแมน ด้วยครับ .. แล้วก็การที่ผมจะเรียกตัวเองว่า ‘นักแสดง อีกวางซู’ มันก็รู้สึกแปลกๆ ครับ”
อีกวางซู ได้อธิบายความรู้สึกนี้ว่าเป็นเพราะเขาไม่อยากให้ใครจำกัดตัวตนของเขาด้วยคำคำเดียว เพราะทุกคนสามารถมองเห็นตัวตนของเขาได้หลากหลายมากกว่าแค่การเป็นนักแสดง
ในทางกลับกันนักแสดงมักมองว่าการทำรายการวาไรตี้เป็นดาบสองคมที่อาจทำให้ผู้ชมไม่อินกับงานแสดงในบทที่หลากหลายเพราะติดกับภาพลักษณ์ในรายการ อีกวางซู ได้พูดถึงเรื่องนี้ในมุมมองของเขาว่า
“แน่นอนครับ ว่าเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นได้ แต่สำหรับผมแล้ว รันนิงแมน คือรายการที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนของผมจริงๆ เพราะก่อนที่ใครจะมองผมว่าเป็นยังไง สิ่งแรกที่ผมอยากให้ทุกคนได้รู้จักก็คือตัวตนของผมครับ ก่อนที่จะมี ‘ภาพลักษณ์’ ที่ถูกตีกรอบไว้
ในมุมของผม ผมเริ่มต้นจากการเป็นคนที่ไม่มีภาพลักษณ์ก่อนที่จะได้มาเป็นสมาชิก รันนิงแมน ดังนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณรายการมาก จริงๆ แล้วผมก็เข้าใจในมุมของดาบสองคมนะครับ แต่สำหรับผมแล้วผมรู้สึกถึงความขอบคุณในสิ่งนี้มากกว่า” คลิกเพื่อชม: รายการ รันนิงแมน พร้อมซับไทย
เมื่อถามถึงเหตุผลที่เขาแทบไม่ไปออกรายการวาไรตี้อื่นๆ เลย นอกจากการทำงานในรายการ รันนิงแมน ซึ่งเขาได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า
“ใน รันนิงแมน สมาชิกทุกคนให้คำแนะนำ และตอบโต้กับผมได้ดีมากครับ และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่ทำให้ผมสามารถทำได้ดีในรายการนี้ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้การไปทำวาไรตี้โชว์อื่นๆ เป็นเรื่องยากครับ
อีกอย่างคือถ้ารายการไหนติดต่อผมไป เขาอาจจะคาดหวังภาพลักษณ์ของผมที่สนุกแบบในรายการ รันนิงแมน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ออกมาเป็นแบบนั้น เพราะความคุ้นเคยกันที่ผมร่วมงานกับสมาชิกรายการมาเป็นสิบปี มันเลยทำให้การไปทำรายการอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมครับ”