นักเขียนโนฮีคยอง ‘Our Blues’ เพราะชีวิตคือละคร ที่เราทุกคนเป็นตัวเอกของเรื่อง
Our Blues ซีรีส์ที่รวมนักแสดงระดับแนวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีไว้นับสิบชีวิต กับคอนเซปต์ที่น่าสนใจของนักเขียนบท โนฮีคยอง ที่ต้องการให้ 14 ตัวละครในเรื่อง เป็นตัวเอก ในเรื่องราวของตัวเอง จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ด้วยเรตติ้งสูงสุด 14.6% ในตอนที่ 20 (ตอนจบ) โดยในตอนนี้ถือเป็นซีรีส์เคเบิ้ลเรตติ้งสูงสุดของปี 2022 และเป็นอันดับ 11 ของตารางเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล
Our Blues
우리들의 블루스
ถือเป็นซีรีส์ที่รอคอย เพราะหลังฝากผลงานเรื่องชีวิตสุขเศร้าเคล้าน้ำตา ของเหล่าตำรวจไว้ใน Live ก็ผ่านมาแล้วถึง 4 ปี สุดท้ายนักเขียนโนฮีคยอง นักเขียนบทในดวงใจของเรา ก็ส่ง Our Blues ออกมาให้ชื่นใจ ถ้าใครที่เป็นแฟนซีรีส์สายดราม่า สายละครชีวิต ก็น่าจะชอบงานเขียนของเธอแน่นอน ด้วยเสน่ห์การนำเสนอเรื่องราวชีวิตของคนธรรมดา ที่อาจไม่ใช่เรื่องของเราซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เหนือจริง และสามารถเกิดขึ้นกับใครสักคนได้จริงๆ การสร้างตัวละครที่เป็นมนุษย์อย่างแท้จริง มีทั้งด้านดีที่เราจะรัก และด้านที่อาจไม่ตรงกับความคาดหวังของเรา
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
การนำเสนอตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์ เป็นตัวเอก แต่ไม่ใช่พระเอก นางเอก ที่สมบูรณ์พร้อม ความต้องการในใจ ที่นำไปสู่เหตุและผลของการกระทำที่ทำให้เห็นว่านี่คือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง การเล่าเรื่องของผู้คนที่หลากหลาย โดยไม่ทอดทิ้งตัวละครใดไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะในเรื่อง Our Blues ที่ใช้ตัวละครหลายตัวในการเล่าเรื่องราว หลายความสัมพันธ์ หลายแง่มุม ชวนคิด ตั้งคำถาม และไตร่ตรอง ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนเชิงปัจเจก และแนวคิด แนวทาง ในสังคมโดยรวม
ตัวละครของนักเขียน โนฮีคยอง
ตัวละครของ โนฮีคยอง มักมีชีวิตรสขม แม้จะปลายหวาน แต่กว่าจะถึงตอนจบที่งดงาม ก็ต้องเสียน้ำตาไปกับความทุกข์หลายรูปแบบที่ต้องเผชิญ ในวันที่ชีวิตหม่นเหมือนฟ้าวันพายุเข้าเกาะเชจู ความทุกข์ของชาวพูรึง มีทั้งปมในจิตใจที่เกิดจากเรื่องราวในอดีตที่ฝังใจ ความทุกข์ในวันนี้ที่เข้ามาอย่างคาดไม่ถึง และความทุกข์ที่ยากจะหลีกเลี่ยง อย่างความเจ็บป่วย ความแก่เฒ่า หรือกระทั่งความตาย นักเขียนโนยังมักหยิบยก ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมทางสังคม ที่หล่อหลอมทัศนะคติต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ความถูกใจ และไม่ถูกใจของแต่ละคน ซึ่งรวมถึงคนดูที่อาจหงุดหงิดใจกับการกระทำของบางตัวละคร แต่เมื่อเรื่องราวคลี่คลาย ก็ทำให้เราได้เข้าใจพวกเขามากขึ้น ในฐานะ เพื่อนมนุษย์ คนหนึ่ง
ความพิเศษของเรื่องนี้คงเป็นการรวบรวมประเด็นไว้ได้มากมายอย่างเหลือเชื่อ ลงรายละเอียดผ่านมุมมองของเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง และเป็นความจริงที่กระแทกใจ และเปิดมุมมองที่อาจไม่เคยคิดมาก่อน (note: ประเด็นที่กล่าวถึงในเรื่องมีเยอะมากจริงๆ แต่หลายจุดเป็นเรื่องที่อาจเป็นการสปอยล์จุดสำคัญ ฉะนั้น อยากจะให้ได้ไปดู และสัมผัสกันด้วยตัวเอง ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ – แต่รับรองว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจแน่นอน -)
เสน่ห์ของการเล่าเรื่อง
วิธีการเล่าเรื่องพาเราค่อยๆ ไปทำความรู้จักกับตัวละครทุกตัว เล่าขนานไปกับเรื่องราวของคู่หลักในแต่ละตอน เชื่อมให้เห็นความผูกพันของคนในหมูบ้าน เด็กวัยรุ่น ที่เป็นลูกหลาน และเป็นที่รูจักของคนทั้งตลาด คนแก่ๆ ที่เป็นเหมือนแม่ของทุกคน เพื่อนวัยมัธยมที่โตขึ้นจนทำงาน มีลูก แต่ก็ยังขับรถสวนกันอยู่ทุกวัน ความผูกพันในสังคมเล็กๆ ที่พร้อมยิ้มและร้องไห้ไปด้วยกัน และดึงให้คนดูเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านจนไม่อยากให้ละครจบลง
ด้วยการเน้นจุดสำคัญของบทอย่างเหมาะสม และความสามารถของเหล่านักแสดง ที่บางท่านถึงกับทิ้งภาพจำเดิมๆ มารับบทที่เราคาดไม่ถึง แต่ก็ถ่ายทอดบทบาทที่ได้รับออกมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้เรื่องราวที่ถูกแยกย่อยลงไป ล้วนมีน้ำหนัก และทำให้เราอินได้ แม้จะเหมือนมีเส้นเรื่องแยกออกไปมากถึง 8 คู่ความสัมพันธ์ ภายในการเล่า 20 ตอน
ถ้าถามว่าเรื่องนี้เสียน้ำตาขนาดไหน อันนี้ต้องแล้วแต่ประเด็นอ่อนไหว และประสบการณ์ของแต่ละคนเลยค่ะ เพราะบางเรื่องอาจจะอินมากๆ บางเรื่องอาจจะไม่อินเข้าไม่ถึง แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีสักเรื่องแน่ๆ ที่จะทำให้เสียน้ำตา (ส่วนตัวร้องเยอะ เพราะอินกับทุกประเด็น 555)
เพลงประกอบ
ในส่วนของเพลงประกอบซีรีส์ นอกจากจะรวบรวมนักร้องสาย ost ที่คุ้นเคยมาหลายคน ร่วมกันถ่ายทอดเพลงความหมายดีๆ อย่างไพเราะ ส่วนตัวยังประทับใจเป็นพิเศษกับ Background Music ที่ให้ความรู้สึกสบาย เย็นๆ ฟังแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศชีวิตริมทะเล หากหลับตาลงก็คงเหมือนได้กลับไปทักทายชาวหมู่บ้านพูรึงกันอีกครั้ง
https://open.spotify.com/playlist/37i9dQZF1DX6uViAIcMm0n?si=3dff4084c1d44cd8
ส่วนตัวขอจัดให้เรื่องนี้อยู่ในระดับ “ห้ามพลาด” สำหรับสายดราม่า ชีวิต ที่อยากให้ทุกคนได้ไปดูกัน และคิดว่าด้วยองค์ประกอบทั้งหมดของซีรีส์ เรื่องนี้น่าจะมีชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีใหญ่แน่นอน
ความธรรมดาที่น่าประทับใจ
ส่วนใครที่ดู Our Blues แล้วรู้สึกประทับใจในความธรรมดา ที่เรียลจนกระแทกใจ เราอยากขอแนะนำผลงานอีกสองเรื่อง ที่จะทำให้ประทับใจไม่ต่างกัน Live เรื่องราวการทำงานของตำรวจที่ไม่ได้เท่เหมือนตำรวจในซีรีส์สืบสวน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของตำรวจสายตรวจ ที่เราได้เจอในฐานะตัวประกอบจางๆในซีรีส์เรื่องอื่น แต่ในเรื่องนี้ พวกเขาจะได้โดดเด่น พาเราไปเห็นการทำงานจริงของตำรวจตัวเล็กๆ ตามป้อมสถานีต่างๆ ที่มีงานเยอะ และรายละเอียดที่เราอาจจะคาดไม่ถึง
และอีกผลงานชิ้นสำคัญที่เรารักที่สุดของนักเขียนโนฮีคยอง Dear My Friends ซีรีส์ท่รวบรวมนักแสดงอาวุโสที่เราอาจคุณตาพวกท่าน จากบทคุณพ่อคุณแม่ ปู่ย่าตายายในหลายเรื่อง เพราะนักแสดงนำในเรื่องล้วนแต่มีลิสต์ผลงานยาวเป็นห่างว่าว ไม่ว่าจะเป็น คุณยุนยอจอง เจ้าของรางวัล Oscars นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Minari คุณคิมฮเยจา เจ้าของรางวัลแดซังเวที Baeksang ปี 2019 จากเรื่อง The Light in Your Eyes (ที่ร่วมแสดงใน Our Blues ด้วย) คุณคิมยองอ๊ก ที่หลายคนคุ้นเคยจากเรื่อง Hometown Cha Cha Cha และอีกหลายท่าน ร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสูงวัยที่ใช้ชีวิตกันมาจนถึงวัยใกล้ฝั่ง แต่ตราบใดที่ชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อไป ก็ยังคงมีเรื่องใหม่ๆในเราได้เรียนรู้เสมอ โดยผลงานเรื่องนี้คือเรื่องที่ส่งให้คุณโนฮีคยองได้รับรางวัลบทละครยอดเยี่ยมจากเวที Baeksang Arts Awards ปี 2017
โดยทั้งสามเรื่องนี้สามารถรับชมได้ที่ Netflix ทั้งหมด ของดี ไม่อยากให้พลาดจริงๆ
“มีอยู่ภารกิจหนึ่งที่เราห้ามลืมเด็ดขาด
เราไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้ เพื่อทรมานหรือเป็นทุกข์
แต่เกิดมาเพื่อเป็นสุขเท่านั้น
ขอให้ทุกคนมีความสุข”