fbpx
BlogNews

รวมโมเมนต์คอนเสิร์ต AOMG ที่ไทย – การเริ่มต้นปี 2023 ที่เต็มไปด้วยความร้อนแรง!

หลังห่างหายจากการยกทัพศิลปิน เอโอเอ็มจี (AOMG) มาเยือนเมืองไทยกันหลายปี ในที่สุดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ FOLLOW THE MOVEMENT ก็ได้กลับมาจัดที่เมืองไทยอีกครั้งในคอนเสิร์ต “[ฟอลโลว์ เดอะ มูฟเมนต์] เอโอเอ็มจี เวิลด์ ทัวร์ 2023 อิน แบงคอก” ([ FOLLOW THE MOVEMENT ] AOMG WORLD TOUR 2023 IN BANGKOK) ที่ในครั้งนี้คงคอนเซปต์จัดเต็มไลน์อัพศิลปินในค่ายมาแบบเน้นๆ สมราคาค่ายเบอร์ต้นของวงการเค-ฮิปฮอป ไม่ว่าจะเป็น ไซมอน โดมินิก (SIMON DOMINIC), เกรย์ (GRAY), โลโค (LOCO), อีฮาอี (LEEHI), อูวอนแจ (WOO), ยูคยอม (YUGYEOM) 

[ FOLLOW THE MOVEMENT ]
AOMG WORLD TOUR 2023
IN BANGKOK

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่เพิ่งผ่านมาแบบสดๆ ร้อนๆ ที่ ยูเนี่ยน ฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ ได้กลายเป็นศูนย์รวมสาวก เค-ฮิปฮอป ชาวไทยที่มากที่สุดในปีนี้ด้วยสถิติการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตที่หมดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายบัตร เพราะนอกจากแฟนๆ เค-ฮิปฮอป ที่รอคอยการกลับมาของศิลปินจาก AOMG ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความมันส์ในการแสดงสดกันแล้ว ก็ยังมีเหล่าอากาเซ่แฟนๆ ของวง GOT7 ที่มาเป็นกำลังใจให้กับ ยูคยอม ที่เป็นน้องเล็กของบ้าน AOMG ในตอนนี้ และคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็สมการรอคอยของทุกคนด้วยการออกแบบเวที การจัดผังที่ได้ใกล้ชิดศิลปินกันมากที่สุด พร้อมกับระบบแสงสีเสียงเพอร์ฟอร์แมนซ์อัดแน่นที่ 411 Entertainment จัดให้ สร้างประสบการณ์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้น่าประทับใจขั้นสุด

WOO

เริ่มต้นโชว์แรกกันด้วย อูวอนแจ (WOO) แร๊ปเปอร์ที่เปิดตัวเป็นเซอร์ไพรส์ของงานนี้หลังจากที่บัตรจำหน่ายหมดไปแล้ว ที่สร้างความคึกคักให้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่อินโทรต่อเนื่องด้วยเพลง R.I.P, CHIKCHIKPOKPOK, Pop it และ CHINGIZ_KHAN 4 เพลงติดๆ กันก่อนที่จะทักทายกับแฟนๆ แบบง่ายๆ เป็นกันเอง

ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก

“สวัสดีครับผมชื่อ อูวอนแจ นี่น่าจะเป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมมาที่กรุงเทพ แต่การได้มาทัวร์เอเชียและแสดงที่กรุงเทพในคอนเสิร์ต FOLLOW THE MOVEMENT กับชาว AOMG มันเป็นอะไรที่เครซี่มากจริงๆ ครับ”

WOO

และด้วยความพิเศษของการมาทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้เขาก็ได้โชว์เพลงของเขาที่ได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ โคด คุนสท์ (Code Kunst) ให้กับทุกคนได้ชมกันเป็นครั้งแรกในเพลง Devil และส่งท้ายโชว์ของเขาด้วยเพลงที่เต็มไปด้วยความหมายอย่างเพลง Me ที่เขาได้แต่งขึ้นจากเรื่องราวจุดเปลี่ยนในชีวิตของตัวเองที่ทำให้เขากลายเป็น ‘อูวอนแจ’ ที่มีความสุขอย่างในปัจจุบัน และจบโชว์นี้ด้วยคำว่า “ขอบคุณครับ” ที่เขาตั้งใจสื่อสารกับแฟนๆ ด้วยภาษาไทย

LEEHI

โชว์ที่ 2 เป็นคิวของ อีฮาอี (LEEHI) ศิลปินสาวที่มาพร้อมพลังเสียงเอกลักษณ์ของเธอ เปิดตัวด้วยเพลงแรก ONLY เพลงโปรโมตจากอัลบัมล่าสุดของเธอ และเป็นครั้งแรกที่แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสพลังเสียงของเธอในเพลงนี้กันแบบสดๆ ที่ทำให้ขนลุก และเคลิบเคลิ้มไปพร้อมๆ กันต่อเนื่องด้วยเพลง BREATHE หนึ่งในเพลงที่ฮิตที่สุดของเธอ ที่หลายๆ คนร้องตามได้ทันที ในขณะที่อีกหลายคนต้องร้องไห้ไปกับอารมณ์และเรื่องราวของเพลงนี้

ระหว่างช่วงพักทักทายกับแฟนๆ เธอก็ได้เล่าว่านี่เป็นครั้งที่ 2 ที่มากรุงเทพ หลังจากที่เคยมาเมื่อ 5-6 ก่อนหลังจากที่เธอเดบิวต์ ก่อนที่จะชวนแฟนๆ ร้องตามเพลงฮิตของเธอไปด้วยกันทั้งเพลง Savior และเพลง Rose ที่หลายๆ คนคิดถึง ตามมาด้วยเพลงสนุกๆ อย่าง H.S.K.T., No One และเพลง 1,2,3,4 ที่เป็นเพลงเดบิวต์ของเธอจากปี 2012 และปิดท้ายโชว์ของเธอด้วย Red Lipstick อีกหนึ่งเพลงโปรโมตจากอัลบัมล่าสุดที่พาทุกคนสนุกไปด้วยกันจนถึงบีทสุดท้าย

LOCO

มาถึงคิวของ โลโค่ (LOCO) แร๊ปเปอร์สายเลือด AOMG ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยุคแรก และขึ้นชื่อในเรื่องของโชว์บนเวทีที่เต็มไปด้วยความสนุกหลากสีสัน ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้เขาเปิดตัวด้วยเพลง Sweaty เพลงฮิตจากรายการ Street Man Fighter และ MBTI จากรายการ Show Me The Money 10 ที่เอามามิกซ์ต่อกัน พาทุกคนกระโดดสุดตัว ก่อนที่จะทักทายแฟนๆ ด้วยภาษาไทยชุดใหญ่ ‘สวัสดีครับ’, ‘ขอบคุณครับ’, ‘คิดถึงมากครับ’, ‘รักนะจุ๊บจุ๊บเบบี้’ เพื่อเป็นการส่งเข้าเพลง Party Band และขอให้ทุกคนพูดตาม ‘ไอเซย์รักทุกคน ยูเซย์ซารังแฮ’ เพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปกับท่อนร้องน่ารักแบบคูลๆ ในเพลง OPPA

มาถึงช่วงเพลงที่ปรับจังหวะช้าลงมาอีกนิดเพื่อที่จะให้ทุกคนใช้ฟีลลิงในการฟังมากขึ้นในเพลง Too Much และ Don’t เพลงฮิตที่เขาร่วมงานกับ ฮวาซา สมาชิกวง MAMAMOO และแล้วก็มาถึงช่วงเซอร์ไพรส์กับการปรากฎตัวของ ไทแทน – ทีปประสาน (TYTAN) ที่เขาตั้งใจชวนมาร่วมแสดงหลังจากได้ร่วมงานกันเมื่อปีที่ผ่านมาในเพลง All Night ซึ่งแฟนๆ ก็ได้ดูทั้งคู่โชว์เพลงนี้ร่วมกันเป็นครั้งแรกด้วย ไทแทน ได้พูดความรู้สึกว่า “วันนี้ขอบคุณมากจริงๆ ครับ มันสนุกมาก ตอนนี้ผมยังเขินอยู่เลย ไม่เคยคิดว่าจะได้มาขึ้นแสดงกับพี่เขาที่นี่”

มาถึงเพลงที่หลายๆ คนรอคอย It Takes Time เพลงความหมายดีๆ ที่เต็มไปด้วยฟีลลิงซึ่งในเพลงนี้ โลโค่ ได้ขอให้แฟนๆ ช่วยกันเปิดแฟลชโทรศัพท์เพื่อสร้างบรรยากาศร่วมกัน มาถึงช่วงสุดท้ายในโชว์ของ โลโค่ ที่อยากให้ทุกคนได้เปลี่ยนอารมณ์กลับมาขยับตัวให้สนุกสนานอีกครั้ง เริ่มจาก Like Water เพลงบทบีทสไตล์แทรป ก่อนที่ โลโค่ จะพูดภาษาไทยว่า “ทุกคน ยืนขึ้นครับ” ในเพลง BO$$ ที่ได้กระโดดกันเต็มที่ และปิดท้ายโชว์ของเขาด้วยความมันส์ในเพลง No Manners

GRAY

เข้าสู่โชว์ของ เกรย์ (GRAY) ศิลปิน-โปรดิวเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตมากมายของศิลปินในค่าย และยังมีเพลงของตัวเองที่ฮอตฮิตไม่แพ้กัน เปิดตัวด้วยเสียงอินโทรคุ้นเคยพาเข้าสู่ Dream Chaser เพลงจากแม็กซี่ซิงเกิลแรกที่มีชื่อว่า Call Me Gray ต่อเนื่องด้วยเพลง Show Window จากอัลบัมเต็มชุดแรกของเขา ก่อนที่จะทักทายกันเป็นภาษาไทย

“สวัสดีครับผมชื่อเกรย์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ น่ารักจัง” และขอบคุณแฟนๆ ที่มาเจอกันในคอนเสิร์ตครั้งนี้ส่งต่อเข้าเซ็ตเพลงสนุกๆ ที่เริ่มด้วยเพลงที่พูดถึงเรื่องราวของเขาเองอย่าง TMI ต่อด้วยเพลงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาในเพลง Summer Night (Remix) และ Make Love

ระหว่างเพลงเซ็ทนี้เขาก็ได้พูดขึ้นมาว่า “คอนเสิร์ตคราวนี้ผมมีสเตจพิเศษสำหรับที่กรุงเทพโดยเฉพาะ เป็นสเตจร่วมกับเพื่อนพิเศษคนหนึ่งที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว ขอเสียงให้กับ แอลลี่” ซึ่ง แอลลี่ – อชิรญา นิติพน (ALLY) ก็ปรากฎตัวบนเวทีพร้อมกับเพลง How To Love เพลงเดบิวต์ที่ เกรย์ โปรดิวซ์ให้และยังโชว์ท่อนแร๊ปของเขาในเพลงนี้ให้ได้ฟังกันอีกครั้ง เขายังได้พูดถึงสเตจนี้ว่า

“สามปีที่แล้วเราได้แสดงด้วยกันที่เดบิวต์สเตจของแอลลี่ สามปีที่ไม่ได้เจอกัน มาแสดงด้วยกันแบบนี่อีกครั้งมันพิเศษจริงๆ ครับ”

GRAY

ซึ่ง แอลลี่ เองก็รู้สึกดีใจที่ได้ขึ้นแสดงด้วยกันอีกครั้งและขอบคุณ AOMG ที่ชวนเธอมาสนุกด้วยกันบนเวทีแบบนี้

เข้าสู่เพลงในเซ็ทครึ่งหลังของ เกรย์ ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศและโทนสีของโชว์เป็นสีฟ้าในเพลง Moon Blue และ Baby Don’t Cry และอีกโชว์พิเศษที่เขาตั้งใจจะเพิ่มความสนุกให้กับทุกคนโดยการโชว์โซโล่ซินท์ด้วยคีย์บอร์ดกีตาร์ในเพลง LOSE CONTROL ที่เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆ ได้ดังลั่นฮอลล์

ต่อด้วยเพลง STAY THE NIGHT พาแฟนๆ เข้าสู่ช่วงสุดท้ายด้วยเพลง U แทรคสุดท้ายจากอัลบัม Grayground ที่เขานั่งลงร้องโชว์น้ำเสียงสไตล์อาร์แอนด์บี และปิดท้ายโชว์นี้ด้วยเพลง Just Do It เพลงที่ทำให้หลายๆ คนได้รู้จักกับ เกรย์ ซึ่งในเพลงนี้ โลโค่ ก็ได้กระโดดขึ้นเวทีมาแจมในท่อนแร๊ปของเขาด้วย เป็นสเตจที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศในยุคแรกๆ ของ AOMG อีกครั้ง

YUGYEOM

ถึงเวลาของ ยูกยอม (YUGYEOM) น้องเล็กของ AOMG ที่เปิดตัวแบบร้อนแรงด้วยเพลง I Want U Around เพลงแรกของเขาที่ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิลโปรโมตในฐานะศิลปินของ AOMG เป็นเพลงแรกของเขาที่ได้ขึ้นชาร์ต Billboard World Digital Song Sales ต่อด้วยเพลง Take You Down เพลงโปรโมตจากซิงเกิลอัลบัมชุดแรกที่แฟนๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก่อนที่จะทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทย และพูดประโยคประจำของเขา “ผมเป็นน้องคนเล็ก” ที่ยังคงใช้ได้มาจนถึงตอนนี้ และย้อนความทรงจำกับสถานที่จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ว่า

“จำกันได้ไหมครับเมื่อก่อน GOT7 เคยมาเล่นคอนเสิร์ตที่นี่ตั้งเจ็ดรอบเลย พอคราวนี้ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับชาว AOMG มันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ดีมาก ขอบคุณอากาเซ่ที่คอยให้การสนับสนุนกันเสมอนะครับ”

YUGYEOM

เข้าสู่ช่วงต่อไปด้วยเพลงที่พี่ๆ AOMG มาแจมด้วย เริ่มจากเพลง Lights ที่ทำกับ ดีเจเวกอน (WEGUN) ต่อด้วยเพลง All About U ที่ โลโค่ ขึ้นมาแจม และเพลง Running Through the Rain ที่ เกรย์ ขึ้นมาเล่นซินท์กับเอฟเฟคทอล์กบ๊อกซ์ในท่อนโซโล่ท้ายเพลง ด้วย ปิดท้ายเซ็ตด้วยเพลง All Your Fault ที่ เกรย์ โปรดิวเซอร์ของเพลงนี้ก็แจมแร๊ปด้วยตัวเอง เข้าสู่เซสชันที่หลายๆ คนรอคอยกับการโชว์สเต๊ปแดนซ์แบบเต็มๆ แบบฉบับแดนซ์แมชชีนของ ยูกยอม ด้วยเพลง CHINGIZ_KHAN ที่ได้ฟีลบีบอยฮิปฮอปแบบเต็มๆ

มาถึงสเตจพิเศษที่ ยูกยอม ตั้งใจเตรียมมาสำหรับโชว์ที่ไทยเท่านั้นกับเพลง OOOWEE ที่เขาได้มาร่วมงานกับ F.HERO และ TWOPEE ปลอยเพลงออกมาติดเทรนด์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในเพลงนี้ โต้ง ทูพี (TWOPEE) ก็ขึ้นมาแจมเป็นอีกเซอร์ไพรส์ของค่ำคืนนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาเคยมาเซอร์ไพรส์บนเวทีคอนเสิร์ตเดี่ยวของ ยูกยอม มาแล้ว

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์กันด้วยเพลง Love The Way ที่เขาได้ร่วมงานกับ เจย์ พาร์ค อีกหนึ่งเพลงที่แฟนๆ ชอบกันมาก ก่อนที่จะส่งท้ายด้วยเพลง Ponytail ผลงานเพลงใหม่ล่าสุดของเขาที่ปล่อยออกมาต้อนรับปี 2023 เมื่อวันที่ 2 มกราคม เป็นความพิเศษที่แฟนๆ ชาวไทยได้ดูโชว์ของเพลงนี้กันแบบใกล้ชิดเป็นครั้งแรกด้วย

SIMON DOMINIC

มาถึงคิวของศิลปินคนสุดท้ายในค่ำคืนนี้ กับโชว์ของ ไซมอน โดมินิก (SIMON DOMINIC) พี่ใหญ่ของ AOMG ที่เปิดตัวด้วยฟีลแบบโอลด์สคูลอินโทรหนังจีน และเริ่มต้นด้วย DAx4 และ Simon Dominic 2 เพลงที่ทุกคนร้องตามกันลั่นฮอลล์ เป็นการเปิดตัวที่ทำให้ความร้อนแรงของคอนเสิร์ตครั้งนี้พุ่งขึ้นยิ่งไปอีก ถึงเวลาทักทายกัน ไซมอน โดมินิก ก็เซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยภาษาไทยที่จัดเต็มแบบเซอร์ไพรส์ทุกคน “สวัสดีครับผมไซมอนดีครับ ผมไม่ได้มาเมืองไทยสี่ปี คิดถึงทุกคนมากครับ ตอนปี 2022 มาไทยก็บอกว่าไม่ได้มาสามปี คราวนี้ก็เพิ่มเป็นสี่ปี” ก่อนจะเล่าว่าปีนี้เขาอายุ 44 ปีแล้ว ทำให้การมาไทยครั้งนี้เหมือนกับการมาฉลองอายุ 44 ปี ด้วย

และยังพูดถึงรายการ EXchange 2 ที่เขาเพิ่งได้ร่วมงานกับ แบมแบม ซึ่งเขายังได้บอกว่าที่ไทยเหมือนเป็นประเทศของ GOT7 เลยเขาต้องทำตัวดีๆ หน่อยแล้ว ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากทั้งฮอลล์ได้ทันที นอกจากนั้นเขาเองก็ได้ร่วมงานกับสมาชิกของวง โดยเฉพาะ ยูกยอม น้องเล็กของทีม ที่เขาสนิทมากตอนนี้

เข้าสู่ช่วง Darkroom ที่ถูกใจสายดาร์คสุดๆ กับอีก 4 เพลงจากอัลบัม No Open Flams ไล่ตั้งแต่ room type, POSE!, ya ain’t gang ก่อนที่จะถามทุกคนเป็นภาษาไทยว่า “สนุกแน่นะวิ” ที่ได้อารมณ์สุดๆ ก่อนพาเข้าเพลง GOTT ซึ่งเพลงนี้ อูวอนแจ ก็ได้ขึ้นมาแจมด้วยและต่อด้วยการแจมกันในเพลง I’MMA DO อีกหนึ่งเพลง ซึ่งระหว่างโชว์เซ็ตนี้ที่สนุกมากๆ ไซมอน โดมินิก ก็ได้พูดขึ้นมาว่า

“ผมเคยบอกว่าอยากซื้อบ้านที่กรุงเทพ ผมคิดว่าน่าจะใกล้แล้ว”

SIMON D

และพาเข้าสู่ความสนุกแบบไม่พักด้วยเพลง Wifey, GO, Baddest Nice Guys, NO THANKXXX และ At Night ที่ โลโค่ ขึ้นมาแจมบทเวทีพร้อมเสื้อที่เขียนข้อความว่า ‘I ♡ BKK’ ช่วงท้ายของโชว์ ไซมอน โดมินิก ก็ได้พูดประโยคเท่ๆ ได้ใจแฟนอย่าง “เมื่อไหร่ที่ทุกคนต้องการพวกเราก็จะมาที่ไทย” ปิดท้ายด้วยภาษาไทยว่า “เดี๋ยวพี่มาหาเองนะ” ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้เต็มๆ ก่อนเข้าสู่เพลงที่ทำให้ทุกคนเต้นตามอย่าง make her dance, MOMMAE และปิดท้ายด้วย Comfortable เพลงเท่ๆ ที่เป็นตำนานของรายการ Show Me The Money ซีซัน 5 ซึ่งในเพลงนี้ GRAY ที่ทำทีม AOMG คู่กันในซีซันนั้นก็ได้ขึ้นมาแจมด้วยแบบในเวอร์ชันออริจินัล

ENCORE

และแล้วก็มาถึงช่วงที่หลายๆ คนรอคอยกับอังกอร์สเตจที่จะเป็นความสนุกส่งท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ในแบบที่ศิลปินทุกคนจะขึ้นมาโชว์ด้วยกัน เป็นบรรยากาศแบบปาร์ตี้หลังคอนเสิร์ตตามแบบฉบับ AOMG ที่เซอร์วิสแฟนๆ แบบเป็นกันเองสุดๆ มาพร้อมกับเซ็ตเพลงที่เป็นเหมือนกับเพลย์ลิสต์เพลงชาติ AOMG เริ่มจากเพลง 119, Upside Down, TTFU, Party For The Night, ON AIR

และส่งท้ายด้วย 2 เพลงจากทีม AOMG ในรายการ Show Me The Money ที่ปิดท้ายความสนุกจนรีดพลังออกมากันจนสุดในเพลง We Are และ Who You? ปิดฉาก [ฟอลโลว์ เดอะ มูฟเมนต์] เอโอเอ็มจี เวิลด์ ทัวร์ 2023 อิน แบงคอก” ([FOLLOW THE MOVEMENT] AOMG WORLD TOUR 2023 IN BANGKOK) อย่างสมบูรณ์แบบ

ติดตามชมภาบรรยากาศ #AOMGWORLDTOUR2023inBKK เพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดีย @411ent
เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/fouroneoneent
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/411ent
อินสตาแกรม https://instagram.com/411ent
อินสตาแกรมของซีอีโอกึ้ง http://instagram.com/kueng_chalermchai
และอย่าลืมกด SUBSCRIBE ช่อง YouTube 411ent https://www.youtube.com/411ent

โปรแกรมถัดไป “โฟร์วันวัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” จะเตรียมโปรเจ็กต์อะไรมาสร้างความสุขแก่แฟนๆ ชาวไทย….โปรดติดตาม

อ่านต่อ

Eddie Sophon

ผู้ก่อตั้งร่วมของ Hallyu K Star, โฮสต์พอดแคสต์ 'ดูซีรีส์ให้ซีเรียส' ผู้สนใจในวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลี ทั้งเพลง-ซีรีส์-ภาพยนตร์ เลยเถิดไปถึงเรื่องสังคม เศรษฐกิจ และอาหารการกิน

บทความเกี่ยวข้อง

Back to top button