รีวิว: Summer Strike – เรื่องโรแมนติกหลังลาออก กับซัมเมอร์ของการเปลี่ยนชีวิต

หลังจากที่ปัญหามากมายประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน ทั้งเพื่อนร่วมงานแย่ แฟนทิ้ง และสูญเสียแม่ที่รักไปอย่างกะทันหัน อียอรึม (รับบทโดย ซอลฮยอน ผลงาน : The Killer’s Shopping List / My Country : The New Age) ตัดสินใจลาออก หันหลังให้โลกใบเดิมที่เต็มไปด้วยความเร่งร้อนและวุ่นวาย รวบรวมของเท่าที่จำเป็น และเงินที่มีไม่มากนัก เดินทางไปพักกายพักใจ ณ เมืองริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่นั่นเธอได้รู้จักกับผู้คนในท้องที่มากมาย ทั้ง เด็ก วัยรุ่น คนชรา หมา หรือกระทั่งป้าข้างบ้าน รวมทั้ง อันแดบอม (รับบทโดย อิมชีวาน ผลงาน : Strangers From Hell / Run On) บรรณารักษ์ประจำห้องสมุดชุมชน ที่เธอเลือกที่จะใช้เวลาที่มีเหลือเฟือประสาคนว่างงาน แวะเวียนมาอ่านหนังสือทุกวัน การเฝ้ามองห่างๆ นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆใกล้ชิด
Summer Strike
아무것도 하고 싶지 않아

ซีรีส์โหมดเย็นใจ เปิดมาด้วยชะตากรรมหนักหน่วงของนางเอก ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแนวการใช้ชีวิตสู่ความเรียบเรื่อย ท่ามกลางเมืองชายทะเลที่สุขสงบ ไม่เพียงทำให้นางเอกผ่อนคลาย แต่ทำให้คนดูเองก็ได้พักผ่อนไปด้วย และยังได้มองความรักที่ค่อยๆ ก่อตัว แบบเนิบๆ เขินๆ ระหว่างพระนาง ซึ่งบอกเลยว่า ต้องถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อใจมากๆ สนับสนุน ดูแลกันและกัน จนคนดูอยากจะมีแดบอมเป็นของตัวเองสักคน ชีวานถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้เย็นใจ พลิกบทบาทจาก Unlocked ภาพยนตร์สุดดาร์ก ผลงานก่อนหน้านี้ของเขา จากหน้ามือเป็นหลังมือ เรียกได้ว่าถ้าใครได้ดูสองเรื่องติดต่อกัน คงได้อึ้งไปกับความสามารถของเขาแน่นอน ซอลฮยอนเองก็สื่อสารความเป็นสาวแสนธรรมดา ออกมาได้อยากเป็นธรรมชาติ สมทบด้วยนักแสดงมากมาย ที่เคมีเข้ากันไปหมด ทั้งน้องๆ วัยมัธยม คุณยาย และที่ลืมไม่ได้คือน้องหมาแสนน่ารัก


แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้มีเพียงความเรียบเรื่อย หรือมิตรภาพที่สวยงาม อบอุ่น บทใส่ดราม่ามาแบบจัดเต็ม มอบชะตากรรมที่จัดว่าโหดร้ายหนักหน่วง ให้กับทั้งตัวละครหลักและสมทบ จนบางเรื่องราว อาจถึงขั้นทำให้คนดูเสียน้ำตา แต่สุดท้ายแล้ว ละครก็ไม่ทิ้งความฟีลกู้ด เพราะยังคงมีทางลงที่สวยงามแบบที่มนุษย์จริงๆจะพบเจอได้ ให้เราได้สบายใจหลังจากดูจบ
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษนอกจากจะเล่าเรื่องราวความรัก อีกจุดที่ค่อนข้างโดดเด่นของเรื่อง คงเป็นการเติบโตของตัวละครนางเอก ที่แม้ว่าปมส่วนตัวจะไม่ได้มีอะไรซับซ้อน นอกจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวชีวิตของชาวเมืองที่ได้มารู้จัก และสนิทสนม แต่การตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตที่ต่างไปจากค่านิยมของสังคม ก็ทำให้เธอต้องเผชิญกับคำพูดของผู้คน ได้เรียนรู้ นำไปสู่ความเข้าใจตนเอง และเติบโตจากภายใน ที่นอกจากนางเอกที่ได้เติบโต คนดูเองก็ได้แนวคิดการดำรงชีวิตมากมาย ให้ได้เก็บมาคิดไตร่ตรองตลอดเรื่อง



แม้จะมีความยาวเพียง 12 ตอน แต่ก็แทรกเอาความซับซ้อนของแนวสืบสวนเอาไว้ด้วย เรียกว่าเรื่องนี้มาครบ ทั้งโรแมนติก ดราม่า สืบสวน กันไปเลย จะบอกว่าเป็นซีรีส์ฮีลลิ่งแบบเต็มร้อยก็คงไม่ใช่ซะเดียว เพราะมีพาร์ทดราม่าให้เสียน้ำตา และพาร์ทสืบสวนให้ลับสมองกันเบาๆ เรียกว่าหลายรสชาติไม่น่าเบื่อ แต่โหมดหลักๆ ก็ยังเหมาะกับ สำหรับสายฮีลลิ่ง สายฟีลกู้ด… รับชมได้ครบทั้ง 12 ตอนที่ Netflix ค่ะ
