
SHINee กลับมาแล้ว! คัมแบคด้วยสีสันใหม่ทางดนตรีที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอัลบัมเต็มชุดที่ 8 ที่มีชื่อว่า ‘HARD’ พร้อมเปิดบทใหม่ของวงที่ครบรอบเดบิวต์ 15 ปี ในปี 2023 นี้
‘HARD’ อัลบัมเต็มชุดที่ 8 ของ SHINee ได้ถ่ายทอดเสียงร้องที่หลากหลายเสน่ห์ ผ่านแนวเพลงต่างๆ ทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน และเป็นการปล่อยอัลบัมใหม่ของวงในรอบ 2 ปี 2 เดือน หลังจากปล่อยรีแพ็กเกจอัลบัมเต็มชุดที่ 7 ‘Atlantis’ ออกมาเมื่อเดือนเมษายน 2021
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษSHINee กับความสามารถและเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์ วงที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องของดนตรีที่ทันสมัยและไม่เหมือนใคร รวมไปถึงทักษะการแสดงที่โดดเด่น ที่โชว์ให้ทุกคนได้เห็นผ่านทั้งการทำกิจกรรมโปรโมตของวงและแบบเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคน พร้อมครองสถานะอย่างมั่นคงในฐานะ ‘K-pop Edge’ ที่ไม่มีใครแทนได้ และ SHINee ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านอีกด้วยเช่น วาไรตี้, การแสดง, ละครเวที, พิธีกร และอีกมากมาย
ทำให้การคัมแบคและการทำกิจกรรมโปรโมตของ SHINee ในปีนี้ ต่างก็เป็นที่รอคอยและได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลก รวมไปถึง ‘ความเป็น SHINee’ แบบใหม่ที่พวกเขานำเสนอออกมาผ่านอัลบัมใหม่ อัลบัมเต็มชุดที่ 8 HARD ด้วย
‘HARD’
สำหรับอัลบัมเต็มชุดที่ 8 นี้ของ SHINee มาพร้อมกับเพลงไตเติลที่มีชื่อเดียวกับอัลบัมว่า ‘HARD’ ที่เป็นเพลงไฮบริดฮิปฮอปแดนซ์ ผสมผสานแนวเพลงอย่างบูมบัพ อาร์แอนด์บี และฮิปฮอปยุค 90 เข้าไว้ด้วยกัน
และ SHINee ได้ถ่ายทอดเนื้อเพลงที่มีท่อนร้องเป็นวลีติดปากอย่าง ‘We Go Hard’ ซึ่งสื่อถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของพวกเขา พร้อมกับความแน่วแน่ที่จะตะโกน ‘Young & Wild’ ตลอดไป เป็นความเชื่อมั่นในความเชื่อของตัวเอง และก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งไม่ยอมแพ้ในทุกช่วงเวลา
ในส่วนการแสดงของเพลง ‘HARD’ นี้ SHINee ก็ได้โชว์เสน่ห์ในการนำเสนอตวามสร้างสรรค์ตามสไตล์ของพวกเขาออกมาอย่างโดดเด่น ด้วยการผสมผสานอารมณ์ฮิปฮอปแบบยุค 90 เข้ากับเสน่ห์ที่ทันสมัย โดยท่าเต้นในท่อนคอรัส จะมีจังหวะการ Bounce ที่ทุกคนสามารถเต้นตามได้ง่าย รวมถึงถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคน และความรู้สึกที่หลากหลาย ที่จะเพิ่มความสนุกในการรับชมมากขึ้นด้วย
ในอัลบัมใหม่อัลบัมเต็มชุดที่ 8 ของ SHINee ยังมีเพลงอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงสีสันทางดนตรีของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนว DnB อย่าง ‘The Feeling’ ที่ปล่อยออกมาเป็นพรีรีลิซซิงเกิลไปก่อนหน้านี้ พร้อมมิวสิกวิดีโอที่เป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับแฟนๆ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบเดบิวต์ 15 ปีของวงด้วย
และยังมีเพลง ‘JUICE’ ในสไตล์ฮิปฮอป แดนซ์ High tempo, เพลง ’10X’ ที่ผสมผสานหลากหลายเครื่องกระทบเข้าจังหวะ, ‘Satellite’ เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ป๊อป, ‘Identity’ เพลงแดนซ์แนว Up tempo, ‘Like It’ เพลงแดนซ์ ป๊อปที่มีไลน์แนวซินธ์ของคอร์ด A Major ซ้ำไปมา, ‘Sweet Misery’ เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ป๊อป, ‘Insomnia’ เพลงแนวอาร์แอนด์บี ฮิปฮอป และเพลง ‘Gravity’ ในแนวอาร์แอนด์บี Medium tempo
นอกจากนั้นแล้ว ก่อนหน้านี้ SHINee ได้ประสบความสำเร็จกับการจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 6 ‘SHINee WORLD VI [PERFECT ILLUMINATION]’ ทั้งหมด 3 รอบการแสดง ในวันที่ 23-25 มิถุนายน 2566 ณ KSPO DOME กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีผู้ชมรวมกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งในคอนเสิร์ตนี้ พวกเขาก็ได้แสดงเพลงใหม่จากอัลบัมเต็มชุดที่ 8 เป็นครั้งแรก รวมถึงเพลงฮิตอื่นๆ ของวงอย่าง ‘Dream Girl’, ‘Don’t Call Me’, ‘Everybody’, ‘View’ และเพลงที่เรียบเรียงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมนำมาแสดงร่วมกับวงดนตรีอย่าง ‘Replay’, ‘Love Like Oxygen’, ‘Aside’ ที่เรียกเสียงตอบรับอย่างร้อนแรงจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี กับคอนเสิร์ตแบบออฟไลน์ในประเทศเกาหลีใต้ ในรอบ 6 ปี 9 เดือนของ SHINee