NewsTREND

เพลง K-Pop เปลี่ยนไป – นักวิจัยศึกษาการเปลี่ยนแปลงเพลงไอดอลเพื่อเข้าสู่ตลาดโกลบอล

ในยุคที่เป้าหมายของศิลปิน K-Pop กลายเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังในตลาดโกลบอลทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงในเพลงของศิลปินไอดอลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสไตล์ของเพลง รูปแบบการนำเสนอ และที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องของเนื้อเพลง

หลังจากความสำเร็จจากผลงานเพลงภาษาอังกฤษของ BTS ที่ครองอันดับในชาร์ตเพลงทั่วโลก อย่าง Dynamite, Butter, Permission To Dance ทำให้ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีศิลปินทำเพลงที่มีเนื้อเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดออกมากันมากขึ้น รวมถึงความฮิตของเพลง Cupid ของวงรุกกี้ FIFTY FIFTY ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่สั่นสะเทือนชาร์ตเพลงไปทั่วโลกในปีนี้เช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อในเกาหลีได้มีการรายงานถึงผลงานการวิจัยของ คิมจินอู หัวหน้าทีมวิจัยข้อมูลของ Circle Chart หรือชื่อเดิม Gaon Chart ที่ถูกยกให้เป็นชาร์ตจัดอันดับของอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีที่น่าเชื่อถือที่สุด และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งในรายงานได้ระบุว่าในช่วงปีที่ผ่านมาเพลง K-Pop มีแนวโน้มการใช้ภาษาอังกฤษในเนื้อเพลงมากขึ้น โดยเฉพาะในเพลงของศิลปินเกิร์ลกรุปที่มีอัตราเฉลี่ยเนื้อเพลงภาษาอังกฤษอยู่ที่ 43% ในขณะที่ฝั่งบอยกรุปอยู่ที่ 24.3% ซึ่งสูงกว่าช่วงปี 2018 ถึง 18.9% และ 5.6% ตามลำดับ โดยการวิจัยนี้มาจากการศึกษารายละเอียดของเพลงศิลปินไอดอลกรุปที่อยู่ในชาร์ต TOP 400 ในปี 2018 และในปี 2023

🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ

▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ

จากผลการวิจัยยังพบว่าในกลุ่มศิลปินเกิร์ลกรุปรุ่นใหม่มีเปอร์เซนต์การใช้ภาษาอังกฤษสูง เช่น LE SSERAFIM 50.6%, NMIXX 49.3%, (G)I-DLE 53.6%, BLACKPINK 50% และ NewJeans อยู่ที่ 48.4% ซึ่งเหตุผลสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้เนื่องมาจากการวางเป้าหมายให้เพลงของศิลปินไอดอลสามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดในระดับโกลบอลได้กว้างมาดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษอย่างเช่นใน อเมริกา

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ศิลปินบอยกรุป และ ศิลปินเกิร์ลกรุป มีการวางเป้าหมายของกลุ่มตลาดที่ต่างกัน ในขณะที่ศิลปินเกิร์ลกรุปที่มีความสำเร็จของ BLACKPINK เป็นตัวอย่างนั้นมองในตลาดที่กว้าง แต่ทางฝั่งของศิลปินบอยกรุปนั้นจะให้ความสำคัญกับการตลาดเฉพาะกลุ่มมากกว่า ซึ่งมีหลายวงที่สามารถทัวร์ในต่างประเทศได้แบบต่อเนื่องด้วยตัวเพลงที่ยังมีสัดส่วนเนื้อเพลงภาษาเกาหลีมากกว่า

ในมุมมองของแฟนๆ K-Pop ที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาเกาหลีได้คล่องแล้ว การมีเนื้อเพลงภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นนั้นช่วยทำให้หลายๆ คนรู้สึกใกล้ชิดกับเพลงมากขึ้น แต่สำคัญที่สุดคือการที่ศิลปินพยายามสื่อสารกับแฟนคลับในทุกภูมิภาคนั้นแสดงถึงแรงบันดาลใจและความตั้งใจของศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อแฟนคลับทั่วโลก

อ่านต่อ

Paranoid Android

บรรณาธิการอิสระ และนักเขียนที่สนใจเรื่องราว K-POP / K-DRAMA / K-CULTURE นิยมการเขียนมากกว่าการพูด

บทความเกี่ยวข้อง

ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothers ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save