มินฮีจิน โต้ข่าวลือ เพื่อยืนยันความจริงเกี่ยวกับ NewJeans – ความขัดแย้งที่ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
มินฮีจิน CEO ของ ADOR ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่เปิดเผยถึงการเตรียมเดบิวต์ของวง NewJeans พร้อมยืนยันความจริงเกี่ยวกับกระบวนการสร้างและการเดบิวต์ หลังจากที่ Dispatch ได้เผยแพร่ข้อมูลออกมาในวันนี้
วันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา มินฮีจิน CEO ของ ADOR ได้ออกมาโต้ข่าวลือที่รายงานโดย Dispatch ซึ่งกล่าวหาว่าเธอขัดขวางการเดบิวต์ของวง NewJeans ในปี 2019 มินฮีจินให้สัมภาษณ์กับ Newsen ว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นเท็จ และเรากำลังพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมาย”
ในรายงานของ Dispatch ได้กล่าวถึงแผนการเดบิวต์ของ NewJeans ตั้งแต่ปี 2018 ภายใต้ชื่อโครงการ ‘N Team’ และถูกย้ายมาภายใต้ ADOR ในปี 2021 เนื่องจาก มินฮีจิน ขยายอำนาจการควบคุมและได้รับคำปรึกษาจากหมอดู Dispatch ยังได้เผยแพร่ภาพหน้าจอจากการสนทนาส่วนตัวและวิดีโอการฝึกซ้อมของสมาชิก NewJeans ในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัดอีกด้วย
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
ในเรื่องนี้ ADOR ได้ออกแถลงการณ์ว่า “การนำข้อความส่วนตัวมาตัดต่อและเผยแพร่โดย HYBE เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเราจะดำเนินคดีกับ HYBE ตามกฎหมาย นอกจากนี้พ่อแม่ของสมาชิกลังพิจารณาดำเนินคดีกับ HYBE ในเรื่องการเผยแพร่ภาพฝึกซ้อมของลูกๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต”
นอกจากนี้ Source Music ซึ่งเป็นค่ายต้นสังกัดของ LE SSERAFIM ก็ได้ยื่นฟ้องมินฮีจินเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ด้วยข้อหาขัดขวางการทำงานและทำลายชื่อเสียงของบริษัท โดยเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 5 ร้อยล้านวอน ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 เมษายน มินฮีจินได้กล่าวถึงความขัดแย้งกับประธาน HYBE บังชีฮยอก และ CEO พัคจีวอน และชี้แจงว่าทีมแรกที่ HYBE ตั้งใจจะเดบิวต์คือ NewJeans แต่ต้องถูกเปลี่ยนเป็น LE SSERAFIM
ซึ่ง Source Music ได้ตอบโต้ใว่า “เรารู้สึกเสียใจต่อการถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นความจริง และขอเรียกร้องให้มินฮีจินหยุดเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดพลาดซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของ LE SSERAFIM” HYBE ยังเสริมว่าการย้ายสมาชิก NewJeans ไปยัง ADOR นั้นทำให้การเดบิวต์ของพวกเธอล่าช้าและทำให้ LE SSERAFIM ได้เดบิวต์ก่อนตามแผนการที่ถูกปรับปรุงใหม่
มินฮีจิน ได้ถูกฟ้องข้อหาฉ้อโกงในทางธุรกิจเมื่อวันที่ 25 เมษายน แต่เธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและอธิบายในงานแถลงข่าวว่าการควบคุมหุ้นส่วนในบริษัทไม่สามารถกระทำได้ในเชิงธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย และได้รับการสอบสวนจากตำรวจเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่าง