
FIFTY FIFTY กลับมาพร้อมเพลงใหม่ที่แฟนคลับทั่วโลกต่างเฝ้ารอ หลังจากที่สร้างชื่อด้วยเพลงฮิตอย่าง “Cupid” ความคาดหวังในครั้งนี้คือ พวกเธอจะนำสไตล์เดิมมาปัดฝุ่นหรือจะกล้าเดินทางสู่ทิศทางดนตรีใหม่? นี่คือคำถามสำคัญที่หลายคนจับตามองในการกลับมาครั้งนี้ของ FIFTY FIFTY
สิ่งที่ทำให้การกลับมาครั้งนี้ยิ่งน่าสนใจคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัววง FIFTY FIFTY ซึ่งเหลือเพียง Keena เป็นสมาชิกเดิมคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่ ท่ามกลางสมาชิกใหม่ที่เข้ามาเติมเต็ม อย่างไรก็ตาม Cupid นั้นกลายเป็นเหมือนเงาที่ทับซ้อนการกลับมาของพวกเธอ ซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเพลงนี้เป็นความท้าทายสำคัญที่วงต้องเผชิญ
“SOS”: จังหวะเดิม เสียงใหม่ หรือความท้าทายที่แตกต่าง?
“SOS” เพลงนำจากอัลบั้มใหม่ Love Tune ถูกจับตามองในทันทีที่มีการประกาศเปิดตัว หลายคนตั้งคำถามว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งเพลงซินธ์ป๊อปแนวฝันๆ ที่มีกลิ่นอายสวีดิชป๊อปแบบ Cupid หรือไม่? หรือมันจะสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงและบทบาทใหม่ของวง? การที่ Keena ยังคงร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังความฮิตของ Cupid ทำให้เกิดความหวังว่าพวกเธออาจจะยังคงเสน่ห์เดิมเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกัน การมีสมาชิกใหม่เข้ามาก็อาจทำให้เกิดการทดลองทางดนตรีที่แตกต่างไปจากเดิม
GOT7 ทัก! ส่งคลิปทักทายอากาเซ่ไทย
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษเมื่อเสียงแรกของ “SOS” ดังก้องขึ้นมา สิ่งที่ผู้ฟังสัมผัสได้ก็คือความต่อเนื่องจาก Cupid ที่ยังคงใช้ซาวด์ดนตรีที่เต็มไปด้วยความฝันและเมโลดี้ติดหู แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางสิ่งที่สดใหม่ ซึ่งอาจเป็นผลจากการเข้ามาของสมาชิกใหม่ ทำให้ “SOS” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปัดฝุ่นความสำเร็จเก่าๆ ของพวกเธอ แต่เป็นการสร้างสรรค์ดนตรีที่สานต่อและปรับตัวไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
Keena: จุดยืนใหม่และการนำวงเดินหน้า
หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดในการกลับมาครั้งนี้ก็คือบทบาทของ Keena ในฐานะสมาชิกคนเดียวที่ยังคงอยู่จากการก่อตั้งวง ความท้าทายของเธอไม่ใช่แค่การสานต่อเสียงดนตรี แต่ยังต้องสร้างทีมใหม่ที่สามารถสานฝันต่อจากจุดที่วงเคยประสบความสำเร็จ ความเปลี่ยนแปลงในสมาชิกอาจจะทำให้หลายคนกังวลว่า FIFTY FIFTY จะสูญเสียเอกลักษณ์เดิมไปหรือไม่ แต่ Keena และทีมใหม่กลับแสดงให้เห็นว่าพวกเธอสามารถนำพลังใหม่มาใส่ลงในเพลงโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวตนของวง
Keena เปิดใจในงานแถลงข่าวว่า “การหยุดยาวครั้งนี้ทำให้ฉันได้กลับมาทบทวนตัวเอง ไม่เคยมีเวลาแบบนี้มาก่อน แต่พอได้กลับมาคิดทบทวน ฉันก็บอกตัวเองว่าต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งในฐานะนักดนตรีและคนที่รักในเสียงเพลง ฉันหวังว่าผู้คนจะเห็นถึงความจริงใจในดนตรีที่พวกเรานำเสนอ”

สำหรับ Chanelle Moon และ Athena ที่เข้าร่วมวงหลังจากเป็นที่รู้จักจากการแข่งขันในรายการออดิชัน R U Next? เมื่อปี 2023 พวกเธอได้เล่าถึงความรู้สึกในการเข้าร่วม FIFTY FIFTY ว่า “การเป็นนักร้องเป็นความฝันที่ฉันรอคอยมาตลอดชีวิต ฉันเตรียมตัวมาอย่างหนักเพื่อที่จะได้แสดงผลงานที่ดี การได้เป็นส่วนหนึ่งของ FIFTY FIFTY ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ฉันจะจดจำช่วงเวลานี้ไปตลอด” Chanelle Moon กล่าว
สมาชิกใหม่ทุกคนยังบอกด้วยว่าพวกเธอไม่รู้สึกกดดันจากการเข้ามาแทนที่ชื่อเสียงเดิมของวง แต่กลับมองว่ามันเป็น “โชคชะตา” ที่ทำให้พวกเธอได้มาพบกันและทำงานร่วมกัน Chanelle Moon เสริมว่า “เราต่างสนับสนุนกันและกัน ความสัมพันธ์ของเราคือสิ่งที่สมบูรณ์แบบ”
Yewon หนึ่งในสมาชิกใหม่ก็แสดงความรู้สึกคล้ายกัน “ฉันฝันอยากเป็นนักร้องมาตลอด การได้ทำสิ่งนี้ร่วมกับสมาชิกที่ลงตัวขนาดนี้มันคือความฝันที่เป็นจริง”
ทิศทางใหม่หรือความหวังในความสำเร็จเดิม?
ถึงแม้ว่า “SOS” จะยังคงแนวเพลงที่คุ้นเคย แต่การเข้ามาของสมาชิกใหม่อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในทิศทางดนตรีของพวกเธอในอนาคต การเลือกเปิดตัวด้วยเพลงที่ยังคงสไตล์เดิมอาจจะเป็นการตั้งใจแสดงให้เห็นว่าพวกเธอยังคงยึดมั่นในเส้นทางที่ทำให้ FIFTY FIFTY ประสบความสำเร็จจนเป็ฯที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน การสร้างความคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงดนตรีที่มากขึ้นในเพลงต่อไปก็ยังคงอยู่
ครั้งนี้ FIFTY FIFTY ได้พิสูจน์ว่าพวกเธอยังมีพลังในการสร้างเพลงที่จับใจ แต่ความท้าทายในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่และการเดินทางต่อจากความสำเร็จเดิมนั้นยังคงเป็นคำถามที่แฟนๆ จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป