Blog

สัมภาษณ์พิเศษ ‘Gyeongseong Creature 2’ พัคซอจุน-ฮันโซฮี กับเรื่องราวที่ข้ามจากปี 1945 มา 2024

ในโอกาสที่ซีรีส์สุดระทึก Gyeongseong Creature 2 จะเริ่มสตตรีมมิงให้ได้ชมกันบน Netflix ในวันที่ 27 กันยายนนี้ HALLYU K STAR ได้รับเกียรติจาก Netflix ร่วมสัมภาษณ์พิเศษกับผู้กำกับ จองดงยุน และนักแสดงนำอย่าง พัคซอจุน และ ฮันโซฮี ซึ่งทั้งสองได้กลับมารับบทสำคัญในการต่อสู้กับปริศนาและอสูรกายที่คุกคามชีวิต พร้อมทั้งท้าทายการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันอีกครั้ง

ซีซั่น 2 นี้จะดำเนินเรื่องราวข้ามจากปี 1945 ในซีซั่นแรกมาสู่ปี 2024 ที่กรุงโซล พร้อมกับตัวละครใหม่ ๆ ที่ยังคงเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1945 โดยมีตัวละครหลักอย่าง ‘โฮแจ’ (รับบทโดย พัคซอจุน) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ ‘จางแทซัง’ ตัวละครในซีซั่นแรกของพัคซอจุนเอง อีกทั้ง ‘ยุนแชอ๊ก’ (รับบทโดย ฮันโซฮี) หญิงสาวผู้แข็งแกร่งที่ใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลายาวนาน 79 ปี โดยมี นาจิน อยู่ในร่างของเธอ และต้องเผชิญหน้ากับเงาของอดีตอันโหดร้าย


ความท้าทายของบทบาท: พัคซอจุน กับ ฮันโซฮี

พัคซอจุน ผู้รับบท ‘โฮแจ’ ในซีซั่น 2 นี้ ซึ่งตัวละครมีความเชื่อมโยงกับตัวละครเดิม ‘จางแทซัง’ แต่การตีความบทบาทในครั้งนี้แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง:

GOT7 ทัก! ส่งคลิปทักทายอากาเซ่ไทย

▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ

“โฮแจมีความคล้ายคลึงกับจางแทซังในแง่ของการเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน แต่โฮแจต้องเผชิญกับปัญหาในปัจจุบันที่ทำให้เขาต้องกลับไปค้นหาความทรงจำเก่า ๆ สิ่งที่ยากที่สุดคือการตีความความรู้สึกของตัวละครที่ต้องเผชิญกับการฟื้นคืนความทรงจำทั้งหมด นี่คือช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของผม เพราะมันไม่ใช่แค่การสื่อสารผ่านร่างกายหรือฉากแอ็กชั่นเท่านั้น แต่เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งของตัวละครที่ต้องการหาทางรอดจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น”

ทางด้าน ฮันโซฮี ที่กลับมารับบท ‘ยุนแชอ๊ก’ ในซีซั่นนี้ ยังคงต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกหนี เธอเล่าถึงความท้าทายในการรับบทนี้ว่า:

“สำหรับยุนแชอ๊ก เธอเป็นคนที่มีความทรงจำตั้งแต่ 70 ปีก่อนได้อย่างแม่นยำ การแสดงในครั้งนี้ยากตรงที่ฉันต้องทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าตัวละครนี้ยังคงสืบค้นอดีตและพยายามจะหาทางออกจากความทุกข์ที่ยังตามหลอกหลอนเธออยู่ สิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่านั้นคือเมื่อแชอ๊กได้พบกับโฮแจที่มีลักษณะคล้ายกับจางแทซัง แต่เขากลับจำเธอไม่ได้เลย ฉันต้องคิดว่าจะแสดงความรู้สึกอันซับซ้อนของตัวละครที่มีทั้งความหวังและความผิดหวังออกมาอย่างไร เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความโดดเดี่ยวของเธอได้อย่างลึกซึ้ง”


แนวคิดการเล่าเรื่องแบบข้ามเวลาใน ‘Gyeongseong Creature 2’

ผู้กำกับจองดงยุน เล่าถึงแรงบันดาลใจและแนวคิดเบื้องหลังการนำเนื้อเรื่องในซีซั่น 2 มาอยู่ในปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แตกต่างจากซีซั่นแรกที่เกิดขึ้นในปี 1945

“ผมอยากให้ผู้ชมได้เห็นว่าซีซั่น 1 และ 2 เชื่อมโยงกันอย่างไร แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ผมต้องการให้ซีซั่น 2 นี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตยังคงสะท้อนให้เห็นในปัจจุบัน การต่อสู้กับอสูรกายที่เกิดขึ้นจากความโลภและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ในปี 1945 ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลือกใช้ปี 2024 เป็นฉากหลังของเรื่องราว เพื่อสื่อถึงความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน”

เขายังได้เสริมถึงแนวคิดที่ลึกซึ้งกว่านั้นว่า

“หลักสำคัญที่ผมต้องการสื่อในซีซั่นนี้คือ ‘การให้อภัยไม่เท่ากับการลืม’ สังคมเรายังคงเผชิญกับปัญหาความโลภและความกลัว และผมอยากให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงการต่อสู้ของตัวละครในเรื่องนี้ที่สะท้อนถึงการต่อสู้ของผู้คนในโลกปัจจุบัน”


ไฮไลต์สำคัญที่ต้องจับตามองใน ‘Gyeongseong Creature 2’

ฮันโซฮี พูดถึงการพัฒนาตัวละคร ยุนแชอ๊ก ที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในซีซั่น 2 นี้:

“ในซีซั่นนี้ แชอ๊กจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากได้พบกับโฮแจ ความโดดเดี่ยวและความเจ็บปวดที่เธอเผชิญมาอย่างยาวนานจะค่อย ๆ คลี่คลาย เธอเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธออีกครั้ง แต่ความทรงจำที่เจ็บปวดจากอดีตยังคงตามหลอกหลอนอยู่ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผู้ชมต้องตั้งตารอดูการแสดงของฉันในการถ่ายทอดความซับซ้อนของแชอ๊กในครั้งนี้”

ส่วน พัคซอจุน ที่รับบท โฮแจ ตัวละครที่แตกต่างจาก จางแทซัง แต่ก็มีความเชื่อมโยงกัน เขาเล่าถึงความยากในการแสดงบทบาทนี้ว่า:

“การที่ตัวละครโฮแจเริ่มฟื้นคืนความทรงจำเก่า ๆ ทำให้ผมต้องใส่ใจรายละเอียดในการแสดงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เขาเริ่มจำได้ทุกอย่าง ความสับสนและการต้องเลือกทางเดินในชีวิตใหม่ ผมรู้สึกว่านี่เป็นบทบาทที่ซับซ้อนมากและทำให้ผมได้ท้าทายตัวเอง ผมยังคงสงสัยว่าโฮแจจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรหลังจากได้ความทรงจำคืนมา และผมคิดว่านี่เป็นจุดที่ผู้ชมควรจะติดตามดูอย่างใกล้ชิดครับ”


ซีรีส์ Gyeongseong Creature 2 ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวการต่อสู้กับอสูรกาย แต่ยังสะท้อนถึงการต่อสู้ของตัวละครกับอดีตที่ยากจะหลีกหนี ซีซั่นนี้เต็มไปด้วยความท้าทายทั้งในการแสดงและเนื้อเรื่องที่จะทำให้ผู้ชมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

อ่านต่อ

Eddie Sophon

ผู้ก่อตั้งร่วมของ Hallyu K Star, โฮสต์พอดแคสต์ 'ดูซีรีส์ให้ซีเรียส' ผู้สนใจในวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลี ทั้งเพลง-ซีรีส์-ภาพยนตร์ เลยเถิดไปถึงเรื่องสังคม เศรษฐกิจ และอาหารการกิน

บทความเกี่ยวข้อง

ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothers ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก

Back to top button