ฮายอง Trauma Code เล่าประวัติที่น่าทึ่ง และการสร้างตัวละคร ‘จางมี’ ที่ทำให้คนดูหลงรัก

นักแสดงสาว ฮายอง ได้เปลี่ยนโฉมเป็นพยาบาลสุดแกร่งในซีรีส์ Trauma Code ซีรีส์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของศัลยแพทย์อัจฉริยะที่เข้ามากอบกู้ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินที่แทบล่มสลาย โดยมีต้นฉบับมาจากเว็บตูนชื่อดัง
ฮายอง ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ใน Extraordinary Attorney Woo และ Doona! มารับบทเป็น ชอนจางมี พยาบาลมากประสบการณ์ที่มีบุคลิกตรงไปตรงมาและเป็นแรงสนับสนุนสำคัญของทีม Trauma Code ในสัมภาษณ์ล่าสุด เธอได้เล่าถึงประสบการณ์การเข้าร่วมซีรีส์นี้ รวมถึงความท้าทายในการแสดง
การเข้าร่วมโปรเจกต์และความรู้สึกที่มีต่อบทบาท
“ฉันออดิชั่นเพื่อบทนี้ค่ะ” ฮายองกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พอได้อ่านบทครั้งแรก ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเสน่ห์มาก มันไม่ใช่แค่ซีรีส์การแพทย์ทั่วไป แต่มีโครงสร้างคล้ายฮีโร่ที่มีจังหวะของเรื่องเร็ว และเต็มไปด้วยเคมีระหว่างตัวละคร ฉันเลยอยากแสดงมากๆ และพยายามนำเสนอสิ่งที่ฉันสามารถทำได้ให้กับผู้กำกับค่ะ”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษด่อนหน้านี้ผู้กำกับ อีโดยุน ได้พูดถึง ฮายอง กับสื่อว่า “บ้านของฮายองอยู่ในสายการแพทย์ เธอจึงเข้าใจบรรยากาศของโรงพยาบาลเป็นอย่างดี และช่วยให้การถ่ายทำสมจริงมากขึ้น” ซึ่งฮายองก็ยืนยันเรื่องนี้
“พ่อของฉันเป็นหมอค่ะ ส่วนแม่เรียนพยาบาลแต่ปัจจุบันทำงานด้านอื่น ตอนเด็กๆ ฉันเคยทำงานทำความสะอาดที่โรงพยาบาลด้วย การได้เห็นบรรยากาศของพนักงานในโรงพยาบาลทำให้ฉันเข้าใจลักษณะของพยาบาลมากขึ้น ฉันจึงใช้ประสบการณ์เหล่านั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทนี้ค่ะ”
เธอยังเล่าถึงประวัติครอบครัวที่น่าสนใจว่า “คุณทวดของฉันเคยเป็นหมอที่เปิดคลินิกแผนตะวันตกแห่งแรกในฮันยางค่ะ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นแพทย์หลวงของพระเจ้าโกจงอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ประวัติศาสตร์ของครอบครัวฉันก็เกี่ยวพันกับวงการแพทย์มาอย่างยาวนาน”

การแสดงที่สะท้อนบุคลิกจริง
“ชอนจางมี มีบุคลิกที่คล้ายฉันมากค่ะ ฉันใช้สำเนียงการพูดจริงของตัวเองและพยายามทำให้ดูเป็นธรรมชาติ” ฮายองเผย “ปกติฉันได้รับบทที่ค่อนข้างเป็นผู้หญิงมากๆ มาก่อน อย่างใน Extraordinary Attorney Woo หรือ Doona! แต่ครั้งนี้ฉันสามารถเป็นตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งทำให้การแสดงสนุกและเป็นอิสระมากขึ้นค่ะ”
ในด้านลุคของตัวละคร เธอยังได้เปลี่ยนทรงผมให้คล้ายกับต้นฉบับเว็บตูน “ฉันตัดผมเป็นทรงบ๊อบและแต่งเติมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น วาดกระเล็กๆ บนใบหน้า และมัดผมแบบไม่เรียบร้อยนักเพื่อให้ดูสมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ ฉันศึกษาพฤติกรรมของพยาบาลในวิดีโอ YouTube เพื่อดูรายละเอียดเล็กๆ เช่น ตำแหน่งที่พวกเขาเหน็บปากกา และท่าทางการเดินในโรงพยาบาลค่ะ”

การทำงานร่วมกับนักแสดงนำ
การได้ร่วมงานกับ จูจีฮุน, ชูยองอู และทีมงาน เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับเธอ “เรามีการซ้อมบทร่วมกันนานถึง 7 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนจะไปทานข้าวเย็นและพูดคุยกับผู้กำกับต่อ ฉันคิดว่านี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ช่วยให้ทีมของเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เธอยังกล่าวถึง จูจีฮุน ว่า “เขาช่วยให้บรรยากาศในกองถ่ายสบายๆ ตอนแรกฉันประหม่ามาก แต่ว่าเขาทำให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติขึ้น เราคุยกันเรื่องอาหารด้วยนะคะ เขาสอนฉันเกี่ยวกับการกินอาหารแบบที่อร่อยขึ้นด้วย”
เมื่อพูดถึง ชูยองอู ซึ่งเป็นนักแสดงรุ่นน้องที่ร่วมงานกันในซีรีส์นี้ ฮายองกล่าวว่า “ตอนแรกฉันรู้ว่าเขาเด็กกว่ามาก แต่เขามีพรสวรรค์เหลือเชื่อ พอเจอในกองถ่าย เขาเก่งยิ่งกว่าที่ฉันคาดไว้ เราสนิทกันเร็วมากเพราะเขาเป็นคนตลก และเรามักจะหัวเราะกันตลอดเวลา ฉันคิดว่าบรรยากาศในกองถ่ายของเราอบอุ่นมากค่ะ”

จากศิลปะสู่การแสดง
ก่อนเข้าสู่วงการแสดง ฮายองเรียนที่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา สาขาศิลปะตะวันตก และเคยเรียนที่ School of Visual Arts ในนิวยอร์ก ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อทำตามความฝัน
“ฉันเริ่มสนใจการแสดงผ่านศิลปะการถ่ายวิดีโอค่ะ แล้วก็มีช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าอยากลองแสดงจริงๆ เหมือนมีบางอย่างมาเข้าฝันให้ฉันตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง ฉันจึงลาออกและเริ่มออดิชั่นตอนอายุ 27 ปี”
เธอยอมรับว่าการเปลี่ยนเส้นทางในช่วงอายุนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย “ช่วงแรกฉันล้มเหลวเยอะมาก เพราะไม่ได้เรียนการแสดงมาก่อน และมีปมด้อยที่ทำให้ไม่มั่นใจตัวเอง แต่เมื่อฉันผ่านออดิชั่นและได้รับโอกาสแสดงใน Doctor Prisoner ฉันเริ่มมั่นใจขึ้นและคิดว่าฉันสามารถเดินหน้าต่อไปในทางนี้ได้”
แม้ว่าปัจจุบันเธอจะมุ่งเน้นไปที่การแสดง แต่เธอยังคงหลงใหลในศิลปะ “ฉันยังคงชอบไปดูงานนิทรรศการ ฉันรู้สึกว่าอยากกลับมาวาดรูปอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันต้องโฟกัสกับงานแสดงก่อน”

ความฝันและเป้าหมายในอนาคต
เมื่อถามถึงเป้าหมายต่อไปของเธอ ฮายองตอบว่า “ฉันอยากลองแสดงบทบาทที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น บทที่ซับซ้อนหรือมีแอคชั่น ฉันอยากลองเป็นตัวละครที่ลึกลับและจับทางได้ยากเหมือนตัวละครของจูจีฮุนในเรื่องนี้ค่ะ”
Trauma Code ได้รับการจับตามองว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์การแพทย์ที่ไม่เพียงแต่เข้มข้น แต่ยังถ่ายทอดเคมีของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม “ฉันหวังว่าผู้ชมจะสนุกไปกับเรื่องราวของ Trauma Code และหวังว่าตัวละครของฉันจะเป็นที่จดจำค่ะ” ฮายองกล่าวทิ้งท้าย
Trauma Code พร้อมให้รับชมแล้วทาง Netflix