คุยกับ ซูจี “อารมณ์คือของขวัญแด่มนุษย์” บทสัมภาษณ์พิเศษจาก Genie, Make a Wish

Genie, Make a Wish ซีรีส์จาก Netflix ยังคงครองกระแสแรงต่อเนื่อง หลังปล่อยออกมาเพียงสองสัปดาห์ก็ทะยานขึ้นอันดับ 1 ของ TOP10 ซีรีส์ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ พร้อมครองอันดับ 1 ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย ซึ่งนอกจากเรื่องราวที่แปลกใหม่และสไตล์การเล่าที่เต็มไปด้วยจินตนาการแล้ว “ซูจี” ผู้รับบท “กายอง” หญิงสาวผู้ไร้อารมณ์ที่ต้องเรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์ ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ชมพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้
“กายอง” หญิงสาวที่เกิดมาไร้อารมณ์
ซูจีอธิบายการตีความบทบาทของเธอไว้อย่างลึกซึ้งว่า “กายองเป็นคนที่โตมาโดยขาดกลไกทางอารมณ์เหมือนคนทั่วไป เธอเรียนรู้การใช้ชีวิตจากสิ่งรอบตัวเหมือนเครื่องจักรที่ตอบสนองตามสิ่งที่ถูกสอนมา แต่ไม่เคยรู้สึกถึงความสุขหรือความเศร้าอย่างแท้จริง”
เธอเล่าว่าความตั้งใจของตัวเองคือไม่ทำให้ “ไซโคพาธ” ในเรื่องดูเป็นเพียงตัวร้าย แต่เป็นคนที่ถูกตีตราและถูกเรียนรู้ให้ใช้ชีวิตในแบบนั้น “ฉันพยายามเข้าใจว่าในมุมของกายอง เธอเชื่อว่าโลกมีกฎ และเธอเพียงทำตามกฎนั้นเท่านั้นเอง”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ
จาก “ไร้อารมณ์” สู่ “อยากรู้จักหัวใจของมนุษย์”
จุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องคือคำขอสุดท้ายของกายอง “อยากรู้จักความรู้สึกของมนุษย์” — ซูจีมองว่านี่คือช่วงเวลาที่ตัวละครเติบโต “เธอเริ่มสงสัยว่าความรู้สึกที่คนอื่นมีมันคืออะไร หลังจากเห็นการสูญเสียของคนรอบตัว เธออยากสัมผัสสิ่งนั้นด้วยหัวใจของตัวเอง ฉันคิดว่านั่นคือการเติบโตทางอารมณ์ของกายอง และเป็นสิ่งที่ทำให้บทนี้พิเศษมาก”
เคมีการแสดงกับคิมอูบิน หลังผ่านไปเกือบ 9 ปี
การกลับมาร่วมงานกับคิมอูบินอีกครั้งหลัง Uncontrollably Fond ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นไม่น้อย “เราทำงานด้วยกันมานานแล้ว แต่ครั้งนี้ต่างออกไปมาก เพราะตัวละครของเรามีมิติที่ซับซ้อนกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่อารมณ์ของทั้งคู่พัฒนาไปพร้อมกัน ฉันยังคงทึ่งในพลังการแสดงของเขาในทุกซีนเลยค่ะ”
ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อ “กายอง”
ซูจีเล่าว่าเธอเลือกให้ “กายอง” ดูมีสไตล์ที่สะท้อนตัวตนของคนที่ไม่สนโลก “ฉันอยากให้ชุดของกายองดูโดดเด่นแบบคนที่แต่งตัวเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นมองสวย ส่วนในภพชาติอดีตของกายอง ฉันลดโทนสีและใช้การพูดที่อ่อนโยน เพื่อให้เห็นความแตกต่างของสองชีวิตได้ชัด”
และหนึ่งในฉากที่เธอชอบที่สุดคือฉากกับ “คุณยาย” ที่รับบทโดยคิมมีคยอง “ฉากที่ยายสอนให้กายองรู้จักความรักแล้วแอบร้องไห้ มันอบอุ่นมาก ฉันยังจำได้ดีถึงความรู้สึกตอนถ่าย ฉันคิดถึงความรักแบบนั้นเสมอเวลานึกถึงฉากนี้”

การร่วมงานกับคิมอึนซุก และทีม Genie
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูจีร่วมงานกับนักเขียนมือทองคิมอึนซุก “ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองได้เจอกับครูคนสำคัญ ท่านให้กำลังใจเสมอและทำให้ฉันมั่นใจในบทมากขึ้น”
เธอเล่าถึงการทำงานกับคิมอูบินว่า “เขาคือพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจจังหวะของฉันที่สุด เราแทบไม่ต้องพูดอะไรกันมาก แต่เข้าใจอารมณ์ของกันและกันดีเสมอ”
จาก “ไซโคพาธ” สู่ “มนุษย์ที่มีหัวใจ”
เมื่อถามว่าถ้าต้องอธิบายความรักของกายองและจินนี่ในคำเดียว เธอตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “ฮาบิบติ — คำว่า ‘ที่รัก’ ในภาษาอาหรับค่ะ”
และเมื่อพูดถึงเสียงตอบรับของผู้ชมทั่วโลก ซูจีตอบอย่างมีสติว่า “ฉันคิดว่าความชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องปกติของทุกผลงาน แต่ฉันรู้สึกขอบคุณคนที่ดูและเข้าใจสารของเรื่อง โดยเฉพาะคนที่พูดถึงประโยค ‘มนุษย์คือสิ่งที่เลือกเป็น’ เพราะนั่นคือสิ่งที่กายองได้เรียนรู้จริง ๆ”
สะท้อนใจในบทบาท และสิ่งที่ได้เรียนรู้
ซูจีปิดท้ายว่า “กายองทำให้ฉันเห็นค่าของสิ่งเล็ก ๆ ที่เรารู้สึกในชีวิต เช่น การรัก การเสียใจ การขอบคุณ เพราะทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ การได้เล่นบทนี้ทำให้ฉันอบอุ่นขึ้นจริง ๆ ค่ะ”

Genie, Make a Wish ยังคงสร้างกระแสพูดถึงทั่วโลก และพาซูจีสู่ภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะนักแสดงที่ขยายขอบเขตการแสดงของตนอย่างต่อเนื่อง แฟน ๆ สามารถติดตามซีรีส์เรื่องนี้พร้อมซับไทยได้ทาง Netflix