
เมื่อพูดถึงเรื่อง เวลาที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ทั้งเรื่องเพลง และเรื่องส่วนตัว
ชูก้า บอกว่า “เราพยายามจะหาพื้นที่ตรงกลางด้วยการพูดคุยกันเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เรากังวลครับ เราก็เหมือนคนทั่วไป ที่ต้องเจอปัญหา แต่เราพยายามจะแก้ไขมันให้จบในวันเดียวด้วยการคุยกัน พวกเรารู้ดีว่าทุกคนมีความสำคัญต่อกันและกัน”
วี ตอบอย่างติดตลกว่า “มีครั้งนึงผมเคยสู้กับจีมินเรื่องเกี๊ยว เราทะเลาะกันเรื่องเล็กจริงๆครับ แต่เราก็ต้องแก้ปัญหานั้นในทันที”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษจีมิน ก็ได้พูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของวง กับค่าย Big Hit Entertainment และพีดี บังชีฮยอก ว่า
“พีดีนิมพยายามจะติดต่อกับเราครับ เค้าเลยแชร์เรื่องราวเยอะแยะเลย ผมว่าท่านประธานของเราเค้าเป็นคนสบายๆแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ เราสนิทกันแต่บางทีก็ยากเพราะเค้าดูมีอำนาจมาก ผมยังไม่เคยไปที่บริษัทอื่นมาก่อนนอกจาก Big Hit แต่บริษัทของเราเป็นเหมือนกับครอบครัวจริงๆ ตั้งแต่ท่านประธานตลอดจนพนักงานทุกคน พวกเค้าเป็นคนที่เรารู้สึกขอบคุณเสมอที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อดูแลศิลปินทุกคนในบริษัทครับ”
ชูก้า บอกว่า “เค้าเป็นสไตล์ที่ปล่อยให้เราทำตามที่เราต้องการครับ อย่างเรื่องเพลงโปรโมท มันยากเพราะมันจะต้องเป็นเพลงที่ติดหูแล้วก็เมโลดี้ก็ต้องดี แต่เราก็ได้รับคำแนะนำที่ดีมากเกี่ยวกับการโปรดิวซ์ตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นเด็กฝึกกัน แต่เค้าก็ไม่ชอบเพลง B-side กับ mixtape นะครับ เค้าเป็นคนมีเหตุผลและก็ไม่บีบบังคับด้วยครับ มันก็เป็นเวลา7ปีแล้วครับนับตั้งแต่ที่ผมเข้ามาอยู่ Big Hit แต่ผมก็มั่นใจว่ามันเป็นบรรยากาศของครอบครัวมากกว่าบริษัท”
หนุ่มๆ BTS ได้พูดถึงการเติบโตขึ้นจากเด็กชาย และความหวังของพวกเค้าในอนาคตช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิตของพวกเค้า
เจโฮป บอกว่า “ก่อนอื่นเลย เป้าหมายคืออยู่ด้วยกันอย่างนี่ตลอดไปครับ ผมหวังที่จะได้รับผลตอบรับที่น่าประทับใจ เมื่อเรา 7 คนอยู่ร่วมกัน ความฝันของผมคือพวกเราได้ชนะรางวัลแดซัง(รางวัลใหญ่) และเป็นที่จดจำไปทั่วโลก ผมรู้ครับว่าพวกเรายังคงขาดอีกเยอะ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายมากมายในดนตรี ผมก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น”
จิน บอกว่า “จริงๆแล้ว ตอนเราเดบิวต์ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในช่วงอายุที่จะเรียกตัวเองว่าเด็กชายได้นะครับ ถึงเราจะพ้นวัยเด็กผู้ชายแล้ว ผมว่าเราก็จะเต้นและแสดงบนเวทีอย่างที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ ผมอยากจะให้เป็นทีมที่การแสดงบนเวทีไม่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าเราจะแก่แล้วก็ตามครับ”
จีมิน ได้พูดถึงเรื่องชื่อวง ที่มีคำว่า “boy” อยู่ในนั้นว่า
“พวกเราคุยกันว่าจะเอาคำว่า โซนยอนดัน (ลูกเสือ) ออกไป แล้วแนะนำตัวเองกันแค่ บังทัน (เกราะกันกระสุน) ครับ ผมคิดว่าแนะนำตัวพวกเราเป็นภาษาอังกฤษว่า BTS ก็โอเคเหมือนกัน ก่อนที่เราจะเดบิวต์สมาชิกตัดสินใจว่าการได้แสดงคอนเสิร์ตที่ Gymnastics Stadium และได้รับรางวัลแดซัง คือเป้าหมายของเรา ตอนนี้เราเติมเต็มเป้าหมายของเราเรื่องการแสดงคอนเสิร์ตได้แล้ว รู้สึกขอบคุณจริงๆครับ และรางวัลแดซังเป็นรางวัลที่ดีที่สุดที่นักร้องจะได้รับ ผมหวังว่าเราจะได้รับสักครังนึง เราจะทำงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้กลายเป็นนักร้องที่เหมาะสมกับรางวัลนั้น”
สมาชิกแต่ละคนได้ฝากข้อความถึงสมาชิกคนอื่นๆ รวมทั้งอาร์มมี่ (ARMY) แฟนๆของพวกเค้าด้วย
:: แรปมอนสเตอร์
“ตอนนี้เราสนุกกับเรื่องราวต่างๆไปด้วยกัน แทนที่จะรู้สึกยากลำบาก ฉันหวังว่าในอนาคตนี้สมาชิกทุกคนจะมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เราได้ยิ้มกันนะ แฟนๆเป็นสิ่งมีค่าที่ทำให้ผมต้องรีบไปที่ห้องทำงานทุกๆเช้าหลังจากตื่นนอน ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็จะหมดกำลังใจในระหว่างทำงานแน่ๆครับ”
:: ชูก้า
“เราพยายามอย่างหนัก แล้วก็พยายามคิดอะไรมากมาย เพื่อให้ทุกคนทึ่งว่ายังมีกลุ่มคนที่โตขึ้นสม่ำเสมอ และยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ และเป็นโชคดีจริงๆที่ได้อยู่กับเพื่อนดีๆอย่างนี้ แล้วก็ ARMY เป็นเหตุผลที่เรายังคงอยู่ ผมว่า BTS เจิดจ้าขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเรามีแฟนๆ ผมจะตอบแทนแฟนๆด้วยเพลงดีๆครับ”
:: เจโฮป
“ผมขอบคุณ ARMY และสมาชิกที่ร่วมความยากลำบากมาด้วยกันตลอด 3 ปี และ Big Hit ที่ ฮิท แล้วก็ฮิท สมชื่อ เรามารวมความแข็งแกร่ง ความพยายาม ให้กลายเป็นความสุขเพราะชีวิตของพวกคุณ นั้น ฮิท ที่สุด”
:: จิน
“ผมเป็นคนประเภทซึนเดเระ (ภายนอกดูเย็นชา แต่ภายในอบอุ่น) ผมเลยดูแลคนรอบๆตัวไม่เก่ง ขอบคุณสมาชิกมากๆที่แต่ละคนคอยปรับเข้าหากัน และไปด้วยกันได้ดี ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนตั้งแต่แรก แล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีอะไรๆที่ไม่เข้ากันกับคนอื่นๆ ทุกวันนี้ผมมีความสุขมาก ขอบคุณ ARMY ที่แบ่งปันความสุขไปด้วยกันกับพวกเรา ผมอยากจะมอบแต่เรื่องราวดีๆให้ และสนับสนุนกันไปเรื่อยๆในอนาคตครับ”
:: วี
“ผมรู้สึกขอบคุณ และภูมิใจกับสมาชิกทุกคน ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง และผมก็รู้สึกขอบคุณ ARMY ด้วย ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจนะ ว่าผมมีผิวสีแทนจากการถ่ายละครกลางแดดที่แผดเผา”
:: จีมิน
“พวกเราอยู่ด้วยกันมานานมากครับ แต่ในอนาคตเราก็อยากจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ให้นานขึ้นไปอีก สมาชิกแต่ละคนล้วนเป็นคนสำคัญในชีวิตของทุกคน 3ปีจะเรียกได้ว่าเป็นเวลาที่สั้นก็สั้น หรือจะยาวนานก็ยาวนานครับ ผมรู้สึกขอบคุณ ARMY ที่คอยอยู่ข้างๆกันแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายเลย จากนี้ผมก็ต้องการที่จะอยู่กับทุกคนไปอีกเป็นเวลานานๆเหมือนกันครับ”
:: จองกุก
“ผมยังขาดอีกเยอะเมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็กฝึก แต่เหล่าฮยองก็คอยช่วยผม คอยสอนผมเยอะแยะเลย ขอบคุณเหล่าฮยองของผมที่เท่อยู่ตลอดเวลา และไม่เคยทิ้งผมไว้ข้างหลัง ผมจะทำงานให้หนักขึ้น จนกว่าจะถึงวันที่ผมจะตามพวกฮยองทันครับ ARMYเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถขาดได้ในชีวิตนี้ ผมรู้สึกขอบคุณเสมอ และอยากจะทำให้พวกเค้าเดินไปบนเส้นทางที่โรยไปด้วยดอกไม้แต่เพียงอย่างเดียว”
เป็นบทสัมภาษณ์ที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงมุมมองของหนุ่มๆ BTS ที่มีความคิดโตขึ้นมาก พร้อมๆไปกับการประสบความสำเร็จของพวกเค้าที่มากขึ้นเช่นกัน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป คือ ความรัก ความจริงใจซื่อตรง และเป็นกันเอง ของพวกเค้า
และแม้ว่าเค้าจะโตขึ้นแค่ไหน ในบทสัมภาษณ์ก็ยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขี้เล่นสนุกสนานเฮฮาของเหล่าสมาชิกอีกเช่นกัน
source 1