Sorn ‘CLC’ เปิดเผยชีวิตเกิร์ลกรุ๊ป ความท้อแท้ที่ต้องผ่านไปด้วยตัวเอง

น้องสร CLC ได้ไลฟ์พูดคุยกันแบบสดๆในรายการของตัวเองที่ชื่อว่า Produsorn มาเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว โดยในสัปดาห์นี้ได้พูดคุยถึงเรื่องการใช้ชีวิตในฐานะสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป
PRODUSORN EP2
น้องสรได้เริ่มต้นเล่าตั้งแต่ช่วงก่อนเดบิวท์ของ CLC ที่เริ่มต้นด้วยสมาชิก 5 คน กับการทำกิจกรรมร่วมกันด้วยการโชว์การเล่นดนตรีแถวย่านฮงแด
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษความรู้สึกช่วงเดบิวท์
ความรู้สึกช่วงที่รู้ว่าจะกำลังเดบิวท์เป็นเรื่องที่ น้องสร ถูกถามอยู่บ่อยๆ ซึ่งเธอได้เล่าว่า เธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่รู้ว่าจะได้เดบิวท์ เพราะก่อนหน้านั้นทุกคนผ่านการซ้อมมาอย่างหนัก และช่วงปี 2015 ก็มีหลายวงที่เดบิวท์ออกมา ทำให้ทุกคนต้องทำการบ้านกันหนักมาก
ในวันโชว์เคสแรก มีสมาชิกครอบครัวมาร่วมงาน 9 คนซึ่งทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก
และเดบิวท์สเตจแรกที่ M!Countdown เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเองโชว์ออกทีวี เพราะก่อนหน้านั้นจะได้เห็นตัวเองผ่านกระจกห้องซ้อมเท่านั้น
รู้สึกลำบากไหมกับการเป็นชาวต่างชาติในวงการ KPOP
น้องสร ได้เล่าว่า จริงๆแล้วก็ไม่ได้รู้สึกลำบากหรือเป็นปัญหาอะไร เพราะด้วยการเป็นคนไทยที่พูดภาษาเกาหลีได้ เลยสามารถให้สัมภาษณ์ ออกรายการวาไรตี้ สื่อสารกับแฟนๆได้ สามารถถ่ายทอดบุคลิกของตัวเองออกมาได้ชัดเจน และมีความมั่นใจที่จะสื่อสารออกไป
ในการเป็นไอดอล KPOP ไม่ใช่แค่การร้องหรือเต้น เพราะต้องรู้วิธีการพูด การสร้างความบันเทิง ทำยังไงให้ดูแล้วสนุก และมีภาพลักษณ์และความสามารถที่จะแสดงออกมาในในผู้ชมและแฟนๆเห็น
เคยรู้สึกท้อแท้บ้างไหม
น้องสร ได้เปิดเผยว่ามีหลายครั้งที่รู้สึกท้อแท้ ด้วยหลายๆเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่ต่างประเทศไม่ได้เจอครอบครัว เรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างและต้องพยายามปรับตัวเข้ากับสังคมในเกาหลี แต่ก็เป็นเรื่องดีเพราะทำให้เธอได้ปรับทัศนคติและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น
อีกเรื่องที่เคยทำให้เธอรู้สึกท้อคือการขึ้นโปรโมตในรายการแล้วเสียงตอบรับไม่เป็นอย่างที่ต้องการ ซึ่งค่ายก็จะบอกว่าวงของเธอยังทำได้ไม่ดีพอ
ซึ่งน้องสร ได้แสดงมุมมองในเรื่องนี้ว่าเสียงตอบรับต่างๆเป็นหน้าที่ของสมาชิกวงโดยตรง เพราะทีมงานของค่ายมีหน้าที่ในการจัดการหาช่องทางในการโปรโมตและส่งวงไปยังรายการนั้นๆ ซึ่งหลังจากนั้นแล้วเป็นหน้าที่ของสมาชิกวงที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้เสียงตอบรับตามเป้าหมาย
โดยความรับผิดชอบเหล่านี้มาพร้อมความกดดัน ซึ่งในบางครั้งเธอคิดว่าทำได้ดีแล้วแต่เสียงตอบรับออกมาไม่เป็นอย่างที่หวังจึงทำให้เกิดความรู้สึกท้อ
แต่นั่นก็เป็นแค่ช่วงแรกๆ เพราะหลังจากนั้นเมื่อออกรายการบ่อยๆจนเริ่มชิน และเริ่มพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ ซึ่งน้องสรชี้ให้เห็นว่าประสบการณ์เหล่านี้มันไม่สมารถซ้อมในห้องซ้อมได้
น้องสร ยังได้ทิ้งท้ายในเรื่องนี้ด้วยวิธีการเอาชนะความท้อของเธอ โดยเวลาที่รู้สึกท้อสิ่งที่ต้องทำคือการให้กำลังใจตัวเอง และคิดบวก พร้อมกับทบทวนข้อผิดพลาดต่างๆว่าเป็นเพราะอะไร และจะต้องพัฒนาตัวเองด้านไหนเพื่อให้ผลออกมาดีขึ้น
ทุกคนล้มได้ แต่ต้องลุกขึ้นมา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ
กำลังใจและต้นแบบของการทำงานในวงการ KPOP
สิ่งที่เป็นกำลังใจให้กับเธอคือครอบครัว การนึกถึงว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง และพยายามทำเต็มที่เพื่อไม่ให้ท่านผิดหวัง และอีกสิ่งที่สำคัญคือการคิดถึงแฟนๆที่คอยให้การสนับสนุน ซึ่งสมาชิกวงทุกคนจะคิดเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกมาเพื่อไม่ให้แฟนๆผิดหวัง และทุ่มเทเต็มที่เพื่อความสมบูรณ์แบบ
ส่วนต้นแบบในการทำงานของเธอ คือคุณพ่อ เพราะว่าท่านสามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้ ไม่ว่าจะด้านการเมือง ทำทีมฟุตบอล ทีมเทควอนโด เป็นนักแสดง และอีกหลายๆอย่าง ทำให้เธอเข้าใจว่าคนเราสามารถทำได้หลายอย่างถ้ามีความตั้งใจ พยายาม และมีความกล้าที่จะทำอย่างมั่นใจ
คอยติดตามเรื่องราวของน้องสร ได้ในรายการ PRODUSORN ทาง YouTube ช่อง United CUBE