ฮยอนอา ตัดสินใจเปิดเผยอาการป่วยของเธอที่ตรวจพบตั้งแต่ปี 2016

ฮยอนอา ได้ตัดสินใจเปิดเผยถึงอาการป่วยของเธอที่ตรวจพบเมื่อปี2016และยังคงต้องเข้ารับการบำบัดอย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน
ช่วงค่ำวันที่ 28 พฤศจิกายน ฮยอนอาได้โพสต์ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อเปิดเผยอาการป่วยของเธอที่ส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมมาโดยตลอด ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอมีอาการของโรคซึมเศร้า และวิตกกังวลจนทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดทุกๆ 2 สัปดาห์ และนอกจากนี้เธอยังมีอาการเป็นลมบ่อยๆ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการทำกิจกรรมของเธอ
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษโดยใจความในโพสต์ของ ฮยอนอา เป็นดังนี้
“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันไม่รู้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกไหมสำหรับแฟนๆที่ให้การสนับสนุนฉัน แต่ฉันได้คิดดูและตัดสินใจแล้วที่จะพูดถึงเรื่องนี้
ความจริงแล้วฉันฝันที่จะยืนบนเวทีตั้งแต่เป็นเด็ก และผลก็คือฉันเลือกที่จะทำตามฝัน ฉันได้รับความรักและการสนับสนุนในแบบที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน และเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างในทุกวันนี้จากโอกาสที่ฉันได้รับตั้งแต่เด็กๆ ฉันรู้สึกขอบคุณนะคะ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกเศร้าใจ
เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไป จากวันที่เดบิวต์จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ฉันก็ได้เข้าใจถึงความรับผิดชอบต่างๆในการกระทำของฉันอย่างไม่ผิดพลาด และจากสิ่งที่ฉันเลือกเองฉันก็ได้เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆด้วยความทะเยอทะยานจนฉันไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังป่วย แต่ฉันก็คิดว่าฉันจะสู้กับมันได้เพราะทุกคนที่อยู่รอบตัวฉันเป็นคนที่ดี รวมถึงแฟนๆที่เป็นกำลังใจของฉัน ทำให้ฉันฝืนตัวเองเดินหน้าต่อไป จนฉันมารู้ตัวอีกทีเมื่อตอนที่ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลในปี 2016
เพราะตลอดมาฉันเป็นคนที่ทานยาทุกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองป่วย หรือมีไข้ ฉันจึงไม่เชื่อว่าตัวเองจะถูกวินิจฉัยว่ามีอาการของโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล ซึ่งฉันไม่เชื่อตัวเองอยู่นานเป็นปี ในตอนนี้ฉันต้องเข้ารับการบำบัดทุกๆ 2 สัปดาห์ และพยายามไม่คิดเรื่องด้านลบเพราะมีคนอีกหลายคนที่อยู่ข้างฉัน
แต่แล้วสายตาของฉันก็เริ่มพร่ามัว และล้มลงซึ่งฉันคิดเองว่ามันน่าจะเป็นอาการของโรควิตกกังวล โดยคุณหมอได้สแกนคลื่นสมองของฉันแล้วก็พบว่ามันคือการเป็นลมที่ทำให้ฉันมีอาการหน้ามืดและหมดสติ ซึ่งตัวฉันเองอยากที่จะยืนบนเวที แต่ฉันเองก็กลับเป็นลมบ่อยขึ้นและฉันเองก็คิดว่าถ้าคนอื่นๆได้รู้เรื่องนี้ใครจะอยากให้ฉันไปแสดงในงาน ซึ่งมันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นค่ะ
จากที่ฉันเก็บความลับนี้ไว้มานาน ฉันรู้สึกแย่และเสียใจทุกๆครั้งที่ตัวเองเป็นลม ฉันรู้สึกเสียใจต่อทุกๆคนที่เชื่อใจฉันในการทำงานโฆษณาและกิจกรรมต่างๆ และเพื่อให้ตัวฉันเองรู้สึกสบายใจขึ้นฉันจึงตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาแบบตรงไปตรงมาด้วยความกล้าที่ฉันรวบรวมและไม่ต้องการที่จะปิดบังสิ่งใด ฉันจะทุ่มเทอย่างดีที่สุดเพื่อเดินหน้าต่อไป แต่ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด และฉันคิดว่ามันคงจะไม่สายเกินไป ฉันอยากที่จะรักและดูแลตัวเอง ไปพร้อมกับการเป็นคนที่กล้าแลจริงใจ
ขอบคุณนะคะที่อ่านข้อความนี้”