ฮเยริม เล่าถึงการเข้าเป็นเด็กฝึกหัด JYP ช่วงเดียวกันกับ จีฮโย ‘TWICE’

ฮเยริม เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของศิลปินไอดอลที่ทำงานในวงการตั้งแต่อายุน้อย และพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ด้วยการเรียน ซึ่งล่าสุดเธอได้มาเป็นวิทยากรแบ่งปันประสบการณ์และเทคนิคการเรียนรู้ต้วยตัวเองของเธอ
ในรายการ On Dream School ฮเยริม ได้มาให้คำแนะนำกับน้องๆนักเรียน ม.6 ที่กำลังจะสอบวัดความรู้เพื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมกับแชร์ประสบการณ์ของเธอสมัยเป็นเด็กฝึกหัดไอดอลที่ JYP
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษฮเยริม ได้เล่าว่าเธอมีความชอบในการร้องเพลงและการเต้นมาตั้งแต่เด็กๆ และใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปกับการซ้อมสิ่งเหล่านี้หน้ากระจกด้วยตัวเอง ซึ่งหนึ่งในความฝันของเธอคือการได้เป็นศิลปินนักร้อง และทำให้เธอตัดสินใจเข้าออดิชันกับ JYP
“ตอนนั้นฉันได้ข่าวว่า JYP จะมาเปิดออดิชันที่ฮ่องกงค่ะ ฉันเลยตัดสินใจที่จะลองดู หลังจากที่ออดิชันผ่านแล้วฉันก็ต้องตัดสินใจที่จะจากเพื่อนๆ และครอบครัวเพื่อย้ายมาอยู่ที่เกาหลีด้วยตัวฉันเอง และเหตุผลที่ฉันตัดสินใจก็เพราะความฝันของการเป็นนักร้องอย่างเดียวเลยค่ะ”
แต่ความทรงจำแรกบนเส้นทางความฝันของเธอก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ เพราะเธอต้องเผชิญกับหลายๆ สิ่ง รวมถึงความคิดของเธอเองที่ทำให้ต้องสูญเสียความมั่นใจ
“ช่วงเวลาการเป็นเด็กฝึกหัดมันก็ไม่ได้เจอกับความสุขตลอดค่ะ ฉันยังจำวันแรกที่เป็นเด็กฝึกหัดได้ มันคือ 1 วันก่อนวันวาเลนไทน์ปี 2007 และวันนั้นฉันร้องไห้หนักมากค่ะ เพราะตอนอยู่ฮ่องกงฉันมั่นใจตัวเองมากว่าฉันสวยที่สุดเต้นเก่งที่สุด แต่พอเดินเข้าห้องซ้อมไปวันแรก ทุกคนทำได้ดีกว่าฉัน และดูสวยกว่าฉันหมดเลย
ในห้องซ้อมตอนนั้นมี คุณจีฮโย TWICE อยู่ด้วยค่ะ เธอเป็นคนที่ตาโตมาก ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าตัวเองตาโตแล้ว แต่ตาของเธอก็โตกว่า และสวยกว่าฉัน แถมเธอยังมีความสามารถมาก ฉันเลยเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจค่ะ ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กนิดเดียว ไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ เป็นเหมือนปลาตัวเล็กๆ ที่ถูกปล่อยลงมหาสมุทร”
สุดท้ายแล้วเธอได้แก้ไขความรู้สึกต่างๆ ด้วยความตั้งใจและทุ่มเทฝึกซ้อมจนสุดท้ายแล้วเธอก็ได้รับโอกาสให้เดบิวต์เป็นสมาชิกใหม่ของ Wonder Girls ในปี 2010 และได้ทำตามความฝันของเธอในการเป็นนักร้อง ซึ่งเธอทิ้งท้ายถึงการสร้างพลังให้กับตัวเองว่า
“สำหรับฉันแล้วความรู้สึกของการทำอะไรสำเร็จสักอย่างเป็นแรงขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับฉันค่ะ และเพื่อให้ทุกคนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำลองใช้แรงขับเคลื่อนตรงนี้เป็นสิ่งจูงในในการเรียนดูนะคะ”
Source 1