โชอีฮยอน ดูคาแรคเตอร์แวมไพร์ใน ‘Twilight’ เพื่ออ้างอิงในการแสดงบท ‘นัมรา’ ใน All of Us Are Dead
โชอีฮยอน ผู้รับบท นัมรา ‘หัวหน้าห้อง’มาดนิ่งสุดเท่ ในซีรีส์ All of Us Are Dead ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการทำงานและความกังวลในการแสดงบทครึ่งคนครึ่งซอมบี้(เสี้ยวบี้) ในซีรีส์เรื่องนี้
โชอีฮยอน “มันยากมากเลยค่ะที่ไม่รู้ว่าต้องแสดงความรู้สึกออกมาแบบไหน ฉันก็เลยแสดงโดยใช้ความรู้สึกที่อ้างอิงจากตัวละครแวมไพร์ในเรื่อง Twilight แต่อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่าการแสดงบทครึ่งคนครึ่งซอมบี้(เสี้ยวบี้) ยากมากเลยค่ะ เพราะมีฉากที่ต้องแสดงสลับเปลี่ยนไปมาระหว่างคนและซอมบี้ โดยก่อนการถ่ายทำฉันได้เข้าเรียนเพื่อฝึกซ้อมท่าซอมบี้กับนักออกแบบท่าเต้น และฉันได้ฝึกฝนอย่างหนักในการเรียนรู้เกี่ยวกับท่าทางในการบิดหน้า การหักมือ หรือแม้กระทั้งการบิดคอ ซึ่งผู้กำกับช่วยฉันไว้มากเลยค่ะเพื่อไม่ให้ใส่อารมณ์มากจนเกินไป”
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
นอกจากนี้ โชอีฮยอน ยังได้เปิดเผยถึงส่วนสำคัญในบทนัมราที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงช่วงท้ายของเรื่องว่า
โชอีฮยอน “ ในช่วงต้นเรื่อง ฉันมีความรู้สึกแปลกแยกด้วยคาแรคเตอร์ที่ไม่แสดงความรู้สึกและไม่มีการยิ้มหัวเราะใดๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนคนอื่น ทำให้ฉันรู้สึกกังวลอย่างช่วยไม่ได้ แต่ผู้กำกับบอกว่าการแสดงแบบนี้เหมาะสมกับบทของนัมราแล้ว ทำให้ฉันมีความมั่นใจขึ้น และฉันคิดว่านัมราเปลี่ยนไปหลังจากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับซอมบี้ ซึ่งก่อนหน้านี้นัมราจะตัดสินสถานการณ์ทุกอย่างด้วยเหตุผล แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เธอก็ใช้ความรู้สึกมากขึ้น มีฉากหนึ่งที่ใช้โดรนในสถานที่ถ่ายทำและนัมราได้พูดว่า ‘ถึงแม้สถานการณ์ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปก็อย่าหมดหวัง’ โดยเน้นความสำคัญในเรื่องมิตรภาพมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นนัมราในช่วงต้นเรื่องก็คงไม่พูดแบบนั้นค่ะ”
ในเรื่อง All of Us Are Dead ได้มีการปรากฏตัวของซอมบี้กลายพันธุ์ ซึ่งผู้กำกับได้เคยอธิบายไว้ว่า ซอมบี้มีอยู่ 2 ประเภทระหว่าง คนที่มีภูมิคุ้มกัน และซอมบี้ที่มีชีวิต โดยคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่สามารถแพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้ และดำรงชีวิตเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยที่เหมือนซอมบี้และมีความรู้สึกด้านประสาทสัมผัสทั้ง 5 มากกว่าคนทั่วไป ส่วนซอมบี้ที่มีชีวิตหรือพวกอมตะจะสามารถแพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้ และมีชีวิตอยู่ด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีความคิดอยู่เช่นเดียวกัน
Source 1