หลังจาก IVE ปล่อยเพลง After LIKE ผลงานเพลงใหม่ของพวกเธอออกมาก็กลายเป็นเทรนด์ฮอตที่ถูกพูดถึงกันแบบทันที พร้อมกับพาเพลงใหม่เพลงนี้ของพวกเธอพุ่งขึ้นสู่ระดับหัวตารางของชาร์ตเพลงต่างๆ ทั้งในเกาหลีและในต่างประเทศ
หนึ่งในประเด็นที่เป็นไฮไลต์ถูกพูดถึงกันเยอะมากก็คือเรื่องของเพลงที่มีความแตกต่างออกไปจาก 2 ซิงเกิลแรกของวงที่ปล่อยออกมาตั้งแต่เดบิวต์ทั้ง ELEVEN และ LOVE DIVE แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายและสีสันในแบบของ IVE ที่เป็นความต่อเนื่องมาจนถึงเพลงนี้ และที่สะดุดหูของใครหลายๆ คนไม่ใช่แค่เฉพาะแฟนๆเพลง K-POP เท่านั้น ก็คือการนำเพลง I Will Survive เข้ามาแมชอัพใส่เข้าไปในเพลง พาเพลงอมตะเพลงนี้มาสู่วงการ K-POP ในปี 2022 นับเป็นเวลา 44 ปีหลังจากที่เพลง I Will Survive ถูกปล่อยออกมาในปี 1978
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
เพลง I Will Survive เป็นเพลงฮิตจากปลายยุค 70 ที่ถ่ายทอดโดย กลอเรีย เกเนอร์ และเป็นผลงานการโปรดิวซ์ของ เฟรดดี เพอร์เรน หนึ่งในนักแต่งเพลงที่ถูกยกให้เป็นตำนานของวงการเพลงดิสโก้ ซึ่งเพลง I Will Survive เองก็เป็นตำนานเพลงแรก เพลงเดียว และเพลงสุดท้าย ที่ได้รับรางวัลเพลงดิสโก้ยอดเยี่ยมจาก Grammy Awards ในปี 1980 ซึ่งเป็นปีเดียวที่มีการมอบรางวัลในสาขานี้ โดยท่อนที่ถูกนำมาใส่เอาไว้ในเพลงนี้คือท่อนดนตรีบรรเลงที่มีท่วงทำนองเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสีสันในแบบของเพลงดิสโก้ที่ทั้งโลกคุ้นเคย
เบื้องหลังของการนำเพลง I Will Survive เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลง After LIKE เกิดขึ้นจากคอนเซปต์ที่ต้องการให้ IVE ก้าวจากการเป็นไอคอนของเจน MZ มาสู่การเป็นศิลปินที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกวัย เพลงป๊อปที่เป็นอมตะอย่าง I Will Survive จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญให้การขยายภาพลักษณ์ของ IVE ให้กว้างออกไปยิ่งขึ้นจากการโปรโมตเพลง ELEVEN และ LOVE DIVE ในขณะเดียวกันเพลง I Will Survive ก็ยังสื่อภาพของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่สมาชิกของวงพยายามถ่ายทอดมาตลอด
อันยูจิน ลีดเดอร์ของ IVE ได้พูดถึงเพลง After LIKE ว่า “เป้าหมายของเพลง After LIKE คือการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในมุมของเรื่องความรัก ในรูปแบบของ IVE ที่สะท้อนถึงแนวความคิดของ ‘self-love’ ค่ะ ซึ่งสื่งที่เราได้สื่อออกมาในเพลงนี้ก็เป็นการสานต่อมุมมองจากเพลงก่อนๆ ของเรา”
จางวอนยอง ได้อธิบายเพิ่มว่า “เช่นเดียวกับสิ่งที่เราสื่อออกมาในเพลง LOVE DIVE ในเพลง After LIKE ก็มีข้อความที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจของ IVE อยู่ในเพลงค่ะ เป็นข้อความที่บ่งบอกว่าเราควรจริงใจ และซื่อตรงกับความรู้สึกของเราเอง”
นอกเหนือจากเรื่องคอนเซปต์ที่วางเอาไว้แล้ว เพลง After LIKE ยังสะท้อนถึงเทรนด์ ‘นิวโทร’ ในเกาหลี ที่ได้รับความนิยมมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่วัยรุ่นในเกาหลีเริ่มหันมาสนใจในวัฒนธรรมเก่าๆ สไตล์เก่าๆ ย้อนกลับไปถึงยุค 70 มาจนถึงยุค 2000 และหยิบเอาสิ่งเหล่านั้นมาตีความถ่ายทอดใหม่ผสมผสานเขากับเทคโนโลยีและสื่อที่เป็นปัจจุบัน อย่างในเพลงนี้ โปรดิวเซอร์ ไรอัน จอน ที่ดูแลภาพรวมทั้งหมดของเพลงก็ได้นำสไตล์เพลงดิสโก้ที่เคยเป็นที่นิยมในระดับโลก มาผสมผสานกับดนตรีอิเล็กโทรนิกแดนซ์สมัยใหม่ ใส่สไตล์ความเป็นป๊อปเข้าไป ปรุงแต่งจังหวะด้วยบีทสไตล์เพลงเฮาส์ และใส่ท่อนแร็ปที่ฟังติดหู กลายเป็นความลงตัวของเพลง After LIKE ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของสไตล์ต่างๆ ออกมาอย่างกลมกล่อม
รอติดตามกันได้ว่าเพลง After LIKE จะก่อกระแสใดให้เกิดขึ้นบ้าง และความสำเร็๗ใดจะเกิดขึ้นบ้างในการทำกิจกรรมโปรโมตผลงานเพลงนี้ของ IVE