BlogNews

ทำไม Seoul Vibe ต้องปี 1988? เบื้องหลังคอนเซปต์หนังวัยรุ่นสายซิ่ง ที่แฝงภาพสะท้อนสังคมเกาหลี

เป็นอีกครั้งที่ปี 1988 ในเกาหลีได้ถูกนำมาใช้เป็นฉากหลังเล่าเรื่องราวในภาพยนตร์ ซึ่งล่าสุดภาพยนตร์เรื่อง Seoul Vibe ได้พาผู้ชมย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศในอีกรูปแบบของปีสำคัญปีนี้

Seoul Vibe
‘ซิ่งทะลุโซล’

ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องใหม่จาก Netflix ที่จะพาย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นในยุค 1988 ที่เกาหลีกำลังจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก อีเวนท์ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่จะเปลี่ยนเกาหลีจากอดีตมาสู่ความเจริญในปัจจุบัน ผ่านเรื่องราวแอคชั่น ที่ลุ้นระทึกไปกับฉากความเร็วของจิตวิญญานนักซิ่งที่รวมกลุ่มกันในชื่อ “ซังกเยดง ซูพรีม” กลุ่มวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความฝันแบบอเมริกันดรีมที่หลงใหลในแฟชั่น เสียงเพลง และความเร็ว

Image

ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก

ผู้กำกับ มุนฮยองซอง ได้อธิบายถึงเบื้องหลังคอนเซปต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เลือกปี 1988 เป็นฉากหลังของเรื่องว่า

“อย่างที่หลายๆ คนน่าจะทราบกันดีว่าปี 1988 เป็นยุคที่สังคมเกาหลีเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่เกิดการร่วมมือร่วมใจกันมากที่สุดเช่นกัน และถ้าหากเราได้เพิ่มคอนเซปต์ หรือองค์ประกอบที่มีกลิ่นอายแบบฮิปฮอปเข้าไป มันก็น่าจะเกิดเป็นภาพยนตร์ที่แปลกใหม่ และเหนือความคาดหมายขึ้นมา ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

จากภาพของปี 1988 ที่หลายๆ คนเคยสัมผัสมา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผมอยากให้ทุกคนได้เกิดมุมมองใหม่ๆ ว่าแบคกราวด์ของยุคสมัยนั้นจะเข้ากันได้ดีกับคอนเซ็ปต์ที่พวกเราวาดไว้ได้อย่างไร ซึ่งถ้าได้ชมเรื่องนี้กันแล้วก็จะเข้าใจทันทีครับว่าทำไมเราถึงเลือกปี 1988 มาเป็นหัวใจของเรื่องนี้”

Image

ในภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากเรื่องราวที่จินตนาการขึ้นแล้ว ก็ยังสอดแทรกเรื่องจริง และสิ่งที่เป็นเหมือนกับความทรงจำในยุคสมัยนั้นเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นมุมของสังคม, การเมือง ไปจนถึงวัฒนธรรม, แฟชัน หรือ บทเพลง

“ไม่ว่าจะเป็นฉากในชุมชนซังกเยดง หรือฉากต่างๆ ในโซลที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ ทุกอย่างในยุคสมัยนั้นล้วนเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่สำหรับผมครับ เราได้ออกแบบฉากเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ และสร้างโลกสมมติของปี 1988 ขึ้นมาใหม่ในแบบของเรา รายละเอียดบางอย่างในภาพยนตร์อาจจะไม่ได้ปรากฏขึ้นจริงในบันทึกทางประวัติศาสตร์ แต่ถ้าได้ดูซ้ำหลายๆ รอบผมคิดว่าทุกคนน่าจะได้สังเกตเห็นรายละเอียดของยุคสมัยที่ถูกใส่เข้ามา และจะยิ่งรู้สึกสนุกยิ่งขึ้นครับ”

ผู้กำกับ มุนฮยอนซอง ยังพูดถึงเรื่องของปี 1988 จากมุมมองของเขาว่า “ในปี 1988 ผมเองก็ยังเป็นเด็กประถมอยู่นะครับ จึงอาจจะจำรายละเอียดได้ไม่แม่นยำนัก แต่ก็ได้หาข้อมูลบันทึกของสมัยนั้นและทำการบ้านเพิ่มเติม สิ่งที่ยากสำหรับผมคือจะสร้างคอนเซ็ปต์และดีไซน์พื้นหลังของปี 1988 ในเรื่องให้ออกมามีเสน่ห์ได้อย่างไร แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นพร็อพที่ใช้ หรือสถานที่ต่างๆที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ ผมอยากให้มองว่ามันเป็นปี 1988 ในแบบของ Seoul Vibe : ซิ่งทะลุโซล มากกว่าครับ”

Image

Image

และที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือเรื่องของบทเพลงที่เป็นสีสันของเรื่อง ที่มีทั้งเพลงฮิตจากยุคนั้น และเพลงที่แต่งขึ้นใหม่โดยอ้างอึงสไตล์และบรรยากาศจากปี 1988 มาเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ

“เพลงประกอบที่ใช้ในเรื่องนี้มีทั้งเพลงฮิปฮอปที่ฮิตมากๆ ในอเมริกาตั้งแต่ก่อนยุคปี 1988 แล้วช่วงครึ่งหลังของเรื่องก็จะเริ่มมีเพลงฮิปฮอปที่ฮิตของเกาหลีในยุคนั้นใส่เข้ามาด้วยครับ พวกเราตั้งใจที่จะทำมิกซ์เทปออกมาให้หลากหลายสไตล์ ซึ่งในการทำเพลงประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก คุณซงมินโฮ (MINO), Gaeko,​ ดีเจโซลสเคป และทีมทำดนตรีครับ”

Image

ภาพยนตร์ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล เริ่มสตรีมให้ได้ชมกันแล้วตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม ทาง Netflix

Image

อ่านต่อ

Eddie Sophon

ผู้ก่อตั้งร่วมของ Hallyu K Star, โฮสต์พอดแคสต์ 'ดูซีรีส์ให้ซีเรียส' ผู้สนใจในวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลี ทั้งเพลง-ซีรีส์-ภาพยนตร์ เลยเถิดไปถึงเรื่องสังคม เศรษฐกิจ และอาหารการกิน

บทความเกี่ยวข้อง

Back to top button