ATEEZ คัมแบค! พร้อมแสดงความภาคภูมิใจและการมุ่งหน้าท้าทายสิ่งใหม่ต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุดผ่านเรื่องราวในผลงานใหม่มินิอัลบั้มที่ 11 ที่มีชื่อว่า ‘GOLDEN HOUR : Part.2’ ซีรีส์อัลบั้มบทต่อเนื่องที่ถ่ายทอดถึงคุณค่าอันแท้จริงของพวกเขาด้วยเพลงไตเติลในชื่อ ‘Ice On My Teeth’ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
‘GOLDEN HOUR’
Part.2
_
“TO LOVE, FOR LOVE, BY LOVE”
8 หนุ่มวง ATEEZ ‘ฮงจุง, ซองฮวา, ยุนโฮ, ยอซัง, ซาน, มินกิ, อูยอง และ จงโฮ’ กับการคัมแบคในรอบ 6 เดือน พร้อมบทใหม่ของซีรีส์อัลบั้ม ‘GOLDEN HOUR’ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเรื่องราวบทแรกในมินิอัลบั้มที่ 10 ‘GOLDEN HOUR : Part.1’ พร้อมเพลงไตเติล WORK ที่บอกเล่าถึงช่วงเวลาอันสวยงามและเป็นประกายสว่างสุกใสที่สุดของพวกเขา
สำหรับ ‘GOLDEN HOUR : Part.2’ ผลงานใหม่ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและความรักในแบบของ ATEEZ กับการเดินมุ่งสู่ข้างหน้าต่อไปด้วย ‘ความรัก’, โดย ‘ผู้คน’ ซึ่งเป็นที่รัก, เพื่อ ‘ชีวิต’ ของพวกเขา
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
โดยบอกเล่าผ่านโมเม้นต์แห่ง GOLDEN HOUR อีกครั้ง ในพาร์ทที่ 2 ‘GOLDEN HOUR : Part.2’ เรื่องราวบทต่อเนื่องนี้ได้ถ่ายทอดถึง ‘ช่วงเวลาอันล้ำค่าที่ ATEEZ สร้างขึ้น’ และจะบันทึก ‘ช่วงเวลาอันเป็นประกายเจิดจ้าในอนาคต’ ของพวกเขาที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ด้วยเช่นกัน
ในปี 2024 นี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นปีของ ATEEZ จากการประสบความสำเร็จมากมายในระดับโกลบอล ทั้งการทัวร์คอนเสิร์ต TOWARDS THE LIGHT: WILL TO POWER ที่จัดแสดงทั้งในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น รวมไปถึง 13 เมืองในอเมริกาเหนือ ด้วยสถานที่สเกลใหญ่อย่างเช่น Citi Field ในนิวยอร์กและ Globe Live Field ในอาร์ลิงตัน โดยมีผู้ชม 200,000 คน นอกจากนั้นแล้ว ATEEZ ยังเป็นบอยกรุป K-Pop วงแรกที่ได้ขึ้นแสดงในงานเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella และพวกเขาเป็นศิลปิน K-Pop วงแรกที่แสดงในงานเทศกาลดนตรี Mawazine รวมถึงล่าสุดกับการแสดงในงาน Grand Mint Festival
ทำให้การคัมแบคพร้อมปล่อยผลงานอัลบั้มใหม่นี้ต่างเต็มไปด้วยความคาดหวังและเป็นที่รอคอยของแฟนๆ ทั่วโลก
โดยมินิอัลบั้มที่ 11 ‘GOLDEN HOUR : Part.2’ ของ ATEEZ มีเพลงทั้งหมด 6 เพลง ได้แก่ ‘DEEP DIVE’, ‘Scene 1 : Value’, เพลงไตเติล ‘Ice On My Teeth’, เพลง ‘Man on Fire’ สุดดุดัน เพลงฮิปฮอปในสไตล์มุมบาธอน, เพลง ‘Selfish Waltz’ ที่กัปตันของวงอย่าง ฮงจุง ทำขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยสมาชิกวงบอกว่าเป็นเพลงที่แสดงความเป็นตัวฮงจุงอย่างชัดเจน เขาจึงเลือกที่จะไม่ร้องไกด์เพลงนี้ เพื่อให้สมาชิกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นตัวของตัวเองที่สุด และ ‘Enough’ เพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่ไพเราะด้วยทำนองที่โดดเด่นและเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความหมายของการให้กำลังใจ และจะคอยอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรก็ตาม
‘GOLDEN HOUR : Part.2’ มินิอัลบั้มที่ 11 ของ ATEEZ สื่อถึงช่วงเวลาอันล้ำค่าที่สุด และเพื่อสื่อถึงคุณค่าที่ไม่เปลี่ยนแปลง อัลบั้มในแบบ regular ที่มีทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นจึงใช้ปก 3 สีเมทาลิค คือสีทองในเวอร์ชั่น FOR, สีขาวในเวอร์ชั่น TO และสีแดงในเวอร์ชั่น DIARY
“FOR”
Mystical and Clear love – ความรักที่ลึกลับและชัดเจน
“TO”
One and Only special Value – คุณค่าพิเศษหนึ่งเดียวเท่านั้น
“DIARY”
ATEEZ’s signature of Fierceness and Passion – ความดุดัน และ แพสชั่น ที่เป็นลายเซ็นเอกลักษณ์ของ ATEEZ
‘Ice On My Teeth’
–
“I bought diamonds at my dentist”
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน เวลาบ่ายสองโมงตรงของเกาหลี ATEEZ ได้ปล่อยผลงานใหม่มินิอัลบั้มที่ 11 GOLDEN HOUR : Part.2 ออกมาให้ฟังกันแล้วพร้อมกับคลิปมิวสิกวิดีโอของเพลงไตเติล ‘Ice On My Teeth’
เพลงไตเติล ‘Ice On My Teeth’ ของ ATEEZ เป็นเพลงติดหูด้วยเนื้อเพลงที่เล่นคำซ้ำๆ พร้อมกับจังหวะที่โดดเด่นด้วยซาวนด์ของเครื่องดนตรีที่มีเอกลักษณ์อย่างไวโอลินและเปียโน โดยสมาชิกของวงคือ ฮงจุง และ มินกิ ได้ร่วมเขียนเนื้อเพลงนี้ด้วย
‘Ice On My Teeth’ เป็นเพลงที่เกี่ยวกับการรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริง โดยพูดถึง เพชรที่อยู่บนฟัน ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากัน แต่ถ้ารู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงนั้น สิ่งที่ดูไม่เข้ากันก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยเพชรในที่นี้ก็สื่อถึงสิ่งที่มีค่านั่นเอง
ส่วนมิวสิกวิดีโอของเพลง ‘Ice On My Teeth’ จะแตกต่างไปจากผลงานก่อนหน้านี้ของ ATEEZ ที่มีความเท่ผสมไปกับความสนุกสนาน แต่ในครั้งนี้จะได้เห็นความเท่ของสมาชิกที่มีพร้อมกับความสุขุมและเติบโตขึ้น
นอกจากนั้นแล้วในส่วนของเพอร์ฟอร์แมนซ์เพลง Ice On My Teeth ที่ปกติจะเป็นนักเต้นมาร่วมแสดงกับสมาชิก ATEEZ ในครั้งนี้ก็จะเห็นว่ามีการผสมผสานนักบัลเล่ต์มาร่วมแสดงด้วย ซึ่งสร้างความน่าติดตามได้เป็นอย่างมาก