HYBE เปิดเผยศิลปินที่อยู่เบื้องหลัง MIDNATT ศิลปิน AI เบอร์แรกของค่าย

HYBE เปิดตัว ‘MIDNATT’ โปรเจคต์ AI ชิ้นแรกของค่ายพร้อมกับซิงเกิล Masquerade ที่ถูกถ่ายออกมาผ่านคอนเซปต์ ‘1 ศิลปิน, 6 ภาษา, 6 เพลง’
ในวันที่ 15 พฤษภาคม HYBE ได้ปล่อยผลงานเพลงแรกของ MIDNATT โปรเจคต์ใหม่จากนวัตกรรม AI ที่มีเสียงร้องถึง 6 ภาษา และยังมีการสลับเสียงร้องระหว่างหญิงและชายที่มาจากการใช้เทคโนโลยีการจำลองเสียงมนุษย์
และในงานแถลงข่าวเปิดตัว HYBE ก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดเผยถึงศิลปินที่อยู่เบื้องหลังการจำลองเสียงร้องในโปรเจคต์นี้ นั้นก็คือ อีฮยอน ศิลปินที่เดบิวต์ในปี 2007 กับวง 8Eight ผู้มีพลังเสียงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลายๆ คนรู้จักเขาผ่านผลงานเพลงบัลลาด และการจับคู่ทำกิจกรรมเป็นวงดูโอกับ อีชางมิน 2AM ในชื่อ HOMME
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ
และเพื่อเป็นการโชว์ความสามารถของเทคโนโลยีการจำลองเสียงผ่าน AI พัฒนาขึ้นมา เพลง ‘Masquerade’ จึงถ่ายทอดด้วย 6 ภาษา ได้แก่ เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, สเปน และ เวียดนาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจำลองเสียงและสำเนียงได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องภาษา
สำหรับโปรเจคต์ MIDNATT นั้น BIGHIT MUSIC ได้จับมือกับ HYBE IM ที่ดูแลการผลิตสื่อแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่นำระบบสังเคราะห์เสียงจาก Superton บริษัทสตาร์ทอัปเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีการจำลองเสียงมนุษย์เข้ามาใช้ในโปรเจคต์นี้ซึ่ง HYBE ได้เข้าซื้อกิจการของ Supertone ก่อนหน้านี้แล้วด้วยจำนวนเงินกว่า 45,000 ล้านวอนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ชินยองแจ ซีอีโอของ BIGHIT MUSIC ได้กล่าวถึงโปรเจคต์นี้ผ่านงานแถลงข่าวว่า “เราหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดข้อจำกัดในด้านการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศในช่วงที่ศิลปิน K-POP กำลังเข้าสู่ตลาดระดับโกลบอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังที่เปิดกว้างในระดับโลกได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”
ทางด้านของ อีฮยอน ได้เล่าถึงความตื่นเต้นในการเข้าร่วมโปรเจคต์ MIDNATT นี้ว่า
“มันเป็นโปรเจคต์ที่ทำให้ผมทั้งรู้สึกแปลก และรู้สึกตื่นเต้นครับที่ต้องมาปรากฎตัวในอีกตัวตนหนึ่งแบบนี้ ผมเองก็เป็นนักร้องมานานแล้ว จึงรู้สึกขอบคุณมากๆ ครับที่ให้ผมได้ลองท้าทายอะไรใหม่ๆ แบบนี้
MIDNATT คือจุดเริ่มต้นใหม่ที่เหมือนเริ่มจากความมืดครับ ซึ่งมันเหมือนกับการเริ่มต้นใหม่หลังจากที่หายไปนานด้วยการเล่าเรื่องในสิ่งที่ผมอยากถ่ายทอดออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง”

นอกจานี้ HYBE ยังได้เปิดเผยว่าเสียงทั้งหมดในเพลง Masquerade มาจากการสังเคราะห์เสียงของ อีฮยอน ทั้งหมด รวมถึงเสียงที่เป็นผู้หญิงในเพลงนี้ด้วย ซึ่งโปรเจคต์นี้เป็นการเริ่มต้นเพื่อที่จะพัฒนาไปสู่การทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ ใน HYBE ต่อไปในโปรเจคต์ที่มีชื่อว่า Project L
“เทคโนโลยีนี้ได้ใช้ข้อมูลเสียงที่ถูกดึงมาจากศิลปินต้นฉบับ เช่น การออกเสียงและสำเนียง เพื่อแก้ไขการออกเสียงในภาษาต่างประเทศให้ออกมาได้เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ยังคงสไตล์การร้องและการถ่ายทอดอารมณ์ของศิลปินเอาไว้อยู่ ซึ่งในโปรเจคต์นี้เราตั้งใจที่จะรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินต้นฉบับเอาไว้ และนำเทรนด์ของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วมาใส่เข้าไปในการทำงานของ Project L ซึ่งเรามีความเชื่อว่าเทคโนโลยีจะช่วยให้เราสามารถสื่อสารข้อความออกมาในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้นในอนาคต
เราหวังว่าโปรเจคต์นี้จะนำคลื่นลูกใหม่มาสู่อุตสาหกรรมดนตรี และช่วยขยายขอบเขตจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินให้ก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ ไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”