NCT 127 ระเบิดความมันส์! พร้อมทะยานแรงขับเคลื่อนสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ใน NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’

NCT 127 ทะยานด้วยแรงขับเคลื่อนไร้ขีดจำกัดสู่ประเทศไทย ระเบิดปรากฏการณ์ความสนุกในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สี่ NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ ในวันเสาร์ที่ 22 และอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม บัตรหมดเกลี้ยงรวมผู้ชมกว่า 36,000 คน พร้อมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างดนตรีสุดล้ำเข้ากับการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ และโปรดักชันสุดอลังการ ขึ้นแท่นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทยได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ตอกย้ำสถานะหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการเค-ป็อป


ดึงดูดผู้ชมด้วยวีซีอาร์แบบภาพยนตร์และเซตลิสต์เพลงฮิตจัดเต็ม
เปิดฉากคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ด้วยวีซีอาร์ปลุกความระทึกใจ ถ่ายทอดภารกิจของ NCT 127 ในการก้าวข้ามความยากลำบากและกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยนำเสนอในอัตราส่วนแบบภาพยนตร์เพื่อเพิ่มความสมจริงและดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการสำคัญครั้งนี้ พร้อมจุดความตื่นเต้นให้ลุกโชนในเพลงช่วงแรก ‘Gas’, ‘Faster’, ‘Bring The Noize’ เร่งระดับความร้อนแรงเต็มอัตรากับเพลงฮิตอื่น ๆ อย่าง ‘질주 (2 Baddies)’, ‘Regular’, ‘Sticker’ และเพลงล่าสุด ‘삐그덕 (Walk)’ ที่แฟนคลับได้เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาโบกตามกิมมิกของเพลงนี้




โปรดักชันสุดอลังการที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ชมยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังเสริมลูกเล่นของการกำกับเวทีในเพลงต่าง ๆ ให้มีความโดดเด่น เช่น การใช้ลิฟต์ต่อเรียงกันยาว 13 เมตรในเพลง ‘Skyscraper (摩天樓; 마천루)’, การใช้เลเซอร์สร้างรูปห่วงโซ่ลงบนพื้นเวทีตามชื่อเพลง ‘Chain’, การใช้ร่มและฉากน้ำฝนจากแสงสะท้อนกลับในเพลง ‘Rain Drop’ เสมือนฉากในละครเวที บวกกับโปรดักชันสุดตระการตา เช่น จอ LED ขนาดใหญ่เรียงต่อกันกว้าง 49 ม. และสูง 12 ม., ทางเดินที่ยาวออกมาถึง 36.6 ม., ลิฟต์ 17 ตัว, สายพานเคลื่อนที่ไฟฟ้า, กระดาษโปรย, บอลลูนยักษ์, เครื่องพ่นไฟ และเลเซอร์แรงสูงกว่า 18 ตัว
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษ


ตอกย้ำฉายา ‘God of Performance’ ด้วยสเตจ 영-팩 ในตำนาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงช่วงเพลง ‘Far’ ที่ NCT 127 ปรากฏตัวพร้อมฉากรูปปั้นขนาดมหึมา ยึดครองเวทีด้วยกองทัพนักเต้นจำนวนมากมาร่วมในการแสดงธงสุดฮึกเหิม ความเร้าใจยังคงดำเนินต่อไปแบบไม่มีพักในเพลง ‘영웅 (英雄; Kick It)’ และ ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ สะกดทุกสายตาผ่านการแสดงอันน่าทึ่งและท่าเต้นเหนือชั้น กลายเป็นช่วงไคลแมกซ์ที่ผู้ชมต่างร้องตามและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นจนทะลุออกมานอกสเตเดียม นับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ทำไม NCT 127 จึงได้รับการขนานนามว่า ‘God of Performance’ (เทพเจ้าแห่งการแสดง)




ช่วงเวลาที่เชื่อมโยงให้ NCT 127 และ NCTzen ไทย กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังมอบบรรยากาศอันตราตรึงจนไม่อาจละสายตาในการแสดงเพลง ‘영화처럼 (Can’t Help Myself)’, ‘윤슬 (Gold Dust)’ และ ‘나의 모든 순간 (No Longer)’ โอบล้อมด้วยทะเลเรืองแสงจากแท่งไฟของ NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ทั้งสี Pearl Neo Champagne (สีสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของ NCT) และสีอื่น ๆ ตามระบบการควบคุมแท่งไฟ ตลอดจนแฟนโปรเจกต์อันมีความหมายมากมาย เช่น “127 ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นความสุข ความทรงจำ และบ้านของพวกเรา”, “ไม่ว่าใครจะพูดยังไง 127 คือ ความภาคภูมิใจของพวกเราเสมอ” และการใช้กล่องไฟแปรอักษร “NO 127 NO LIFE”, “GOD 127 คาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด” ซึ่งช่วยเชื่อมโยงและเติมเต็มความรู้สึกระหว่างกันให้มากขึ้น






ปิดฉากค่ำคืนอันสว่างสไวให้กลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
ส่งท้ายค่ำคืนแห่งความประทับใจด้วยรถเลื่อนที่แล่นไปเพิ่มความใกล้ชิดให้ผู้ชมโดยรอบ ก่อนยกระดับความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยไฮไลต์พิเศษตามคาดหวัง คือ การใช้ไพโรเทคนิคต่อเนื่องเกือบ 1 นาที ในเพลง ‘다시 만나는 날 (Promise You)’ เปล่งประกายสว่างสไวบนฟากฟ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันยิ่งใหญ่ โดย NCT 127 ได้แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนและความมุ่งมั่นอันไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขาอย่างเต็มที่ ตามชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ ปิดจบภารกิจที่ดำเนินมาตลอด 3 ชั่วโมง กับ 26 บทเพลง ได้อย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางตัวแปรสำคัญของความสำเร็จที่คอยอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอมาอย่าง NCTzen



