fbpx
BlogHALLYU K PICKS!Newsรีวิวสไตล์ติ่ง "ซีรีส์"

รีวิว 2019 | ซีรีส์ดีที่เราอยากจะถามว่า ‘ดูกันรึยัง ???’

ปีปีหนึ่งมีซีรีส์หลายสิบเรื่อง ครั้นจะดูทุกเรื่องก็คงไม่ไหวแน่ .. แต่มันก็มีเรื่องที่เราดูเองแล้วประทับใจจนอยากบอกต่อและไม่อยากให้คุณๆพลาดชมกัน

2019

ถือเป็นอีกปีที่มีซีรีส์ที่น่าสนใจออกมาหลายเรื่อง นอกจากผลงานของคนเขียนบทที่เราคุ้นเคย การร่วมมือกันของค่ายสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ระดับโลกกับผู้สร้างของประเทศเกาหลีก็ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหว ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลงานให้ยิ่งพัฒนายิ่งขึ้น และการเติบโตขึ้นอย่างมากของความนิยมในซีรีส์ช่องเคเบิ้ล ก็ทำให้โลกซีรีส์ของเกาหลีน่าจับตามองยิ่งขึ้นตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

และแน่นอนว่าในความหลากหลาย และมากมายของผลงาน ย่อมมีบางเรื่องที่หลุดรอดสายตาไป อาจเพราะเวลาว่างที่มีไม่พอ หรือข่าวคราวที่มาไม่ถึง หรือกระทั่งนักแสดงนำที่อาจไม่ได้เป็นที่สนใจนัก วันนี้ทางเรา จึงขอรวบรวมซีรีส์บางส่วน ที่เรากลัวว่า คุณจะพลาดของดีๆจากปี 2019 ที่ผ่านมาไป

ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก

โน๊ตสำคัญ | ** ขอย้ำที่ย่อหน้านี้ว่า ไม่ได้แปลว่าเรื่องเหล่านี้คือเรื่องที่ดีที่สุด หรือจะรับประกันได้ว่าชอบแน่ๆ เพราะความชอบของคนเราก็มีรายละเอียดที่ต่างกัน แต่เรื่องที่เราเอามารวบรวมในโพสนี้ จะเน้นไปที่เรื่องที่ถูกมองข้ามหรือเป็นที่สนใจในกลุ่มคนดูไทยไม่มาก(ในขณะออกอากาศ) แต่มีความน่าสนใจ จะได้ไม่พลาดกัน (อ่อ อันนี้เฉพาะเรื่องที่ออกอากาศจบภายในปี 2019 นะคะ) **

author
ToiTing | KR SERIES LOVER

When the Camellia Blooms (KBS)

เริ่มด้วยเรื่องแรกที่เรตติ้งเวอร์วังอลังการ เพราะเป็นมินิซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดในบรรดาซีรีส์ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่องหลัก (KBS / SBS / MBC) ในปี 2019 และยังกวาดรางวัลเป็นโหล (อันนี้ไม่ได้เวอร์นะ เพราะได้ทั้งหมด 12 รางวัลจริงๆ) จากงาน KBS Drama Awards 2019

ซีรีส์ความยาว 20 ตอน ที่รวมเอาอารมณ์หลากหลายแนวไว้ในเรื่องเดียว เปิดด้วยเรื่องราวความรักที่น่าอิจฉาของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีชีวิตสุดดราม่า แต่ได้มาพบรักกับชายหนุ่มแสนซื่อในเมืองชายทะเลแสนสวย ขณะเดียวกันก็วางปมเรื่องคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ทำท่าว่าเหยื่อจะเป็นตัวละครที่เราคุ้นเคย แต่พอดำเนินเรื่องไปได้สักพัก เรื่องกลับพาเราไปสู่โหมดดราม่าชีวิตแบบน้ำตานอง กับเรื่องราวความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง แม่-ลูก หลายคู่ในเรื่อง ที่สุดท้ายตอนจบก็ปิดจบด้วยอารมณ์ ฟีลกู้ด ทิ้งอวลไอของความรู้สึกดีๆ และข้อคิดให้ได้ขบคิดมากมายหลังจากดูจบ ทำเอาหลายคนที่ดูจบ ไม่จบกันไปอีกหลายวัน เพราะยังอิ่มเอมกับความสัมพันธ์ของผู้คนในเมืององซาน

นอกจากเนื้อเรื่องที่อยากได้อะไร แนวไหน ก็รวมไว้ให้ทั้งหมด เรื่องนี้ยังรวมเอานักแสดงมากฝีมือไว้อย่างคับคั่ง เรียกว่า ตั้งแต่ตัวหลักยันสมทบล้วนเป็นแถวหน้าของวงการทั้งสิ้น เริ่มจากพระนางอย่างเจ๊กง ที่ปีนี้ขึ้นรับรางวัลแดซัง (รางวัลสูงสุด) ของเวที KBS Drama Awards จากการแสดงบทบาทตัวละครที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนภายในอย่างดงแบค และคังฮานึล ที่เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในการแสดงที่นำเสนอบทบาทพระเอกคนซื่อของเรื่องออกมาได้อย่างน่ารัก ในส่วนของนักแสดงสมทบ ก็ได้คุณอีจองอึน เจ้าของรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากการร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Parasite จากเวที Blue Dragon Film Awards มารับบทสำคัญอย่าง แม่ดงแบค ที่ทำให้เราเสียน้ำตาอย่างมาก

ถ้าให้ยกชื่อมาทั้งทีมนักแสดงคงจะลำบาก แต่บอกเลยว่า ทุกคนที่ร่วมแสดง แม้จะบทเล็กแค่ไหน สุดท้ายแล้ว ด้วยการแสดงที่เป็นธรรมชาติ เข้าถึงบทบาท และเข้ากันระหว่างตัวละคร เมื่อคุณดูจบ คุณจะจดจำ และหลงรักผู้คนในเรื่องนี้

ถ้าคุณเป็นสายดราม่าชีวิต ที่ชอบเรื่องซาบซึ้งตรึงใจ ให้แง่คิดใการดำเนินชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่พลาดไม่ได้

คลิกเพื่ออ่าน: รีวิว | When the Camellia Blooms : วันที่ดอกไม้เบ่งบาน … ในใจแม่

The Lies Within (OCN)

ซีรีส์สืบสวน(แบบเน้นคดีแกนคดีเดียว) ระทึกขวัญ ที่เน้นการเล่นกับประเด็น “คำโกหก” ที่ทำให้เราสับสน กับการให้ปากคำของบุคคลมากมาย ที่ล้วนมีคำโกหก และเรื่องที่ปกปิดไว้ ซึ่งนอกจากจะทำให้มึนงง ยังสร้างความหวาดระแวง ให้เราสงสัยในตัวละครหลายตัว การดำเนินเรื่องเริ่มด้วยการวางปมน่าสงสัยมากมาย และค่อยๆคลี่คลาย แต่ในขณะเดียวกันก็หักล้างความคิดเดิมๆที่ตัวเรื่องพยายามชี้นำเราก่อนหน้านี้ ต้องบอกว่าแม้เรื่องจะดูเหมือนน่าสับสน แต่ความจริงนับเป็นการนำเสนอ และชั้นเชิงในการเชื่อมโยงบท ที่น่าสนใจและทำได้ดีมาก

แม้จะติดที่จังหวะการเดินเรื่อง ที่การนำเสนอ ไม่ได้ตื่นเต้นตลอดเรื่อง การไปเน้นที่อารมณ์ความรู้สึกในบางช่วง ทำให้จังหวะของการสืบสวนไม่ได้กระชับฉับไว ในแนวของสืบสวนทั่วไป แต่ก็ถือว่าตัวเรื่อง ปมดราม่า หรือที่มาของเรื่องราว วางไว้อย่างน่าสนใจและซับซ้อน บางส่วนยากต่อการคาดเดา แต่ก็ไม่ทำให้เราอึดอัดเกินไป ด้วยการปล่อยข้อมูลมาให้เราได้ขบคิดไปด้วย

คลิกเพื่ออ่าน: รีวิว | The Lies Within : คำลวง-ความลับ ‘ทุกคนล้วนโกหก’

Secret Boutique (SBS)

เจนนี่ จาง (รับบทโดย คิมซอนอา ผลงาน : Woman of Dignity / Children of Nobody) เป็นเจ้าของห้องเสื้อหรู ที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นสะใภ้ใหญ่ ของกลุ่มบริษัทที่ร่ำรวยและกว้างขวาง แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เพียงนักธุรกิจธรรมดา แต่เธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ในการช่วยเหลือ จัดการเรื่องคาวๆในกลุ่มคนไฮโซ นอกจากจะมีบุญคุณกับผู้คมากมาย ด้วยความลับที่เธอกุมอยู่ เธอจึงมีอำนาจต่อรอง และเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ เดโอกรุ๊ป

ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดูสวยงามระหว่างเธอ กับว่าที่แม่สามีอย่าง คิมยออ๊ก (รับบทโดย จางมีฮี ผลงาน : Shall We Live Together / The Black Knight) แท้จริงแล้วมันมีเบื้องหลังที่มากกว่านั้น ภายใต้บัลลังก์อันสวยงามของราชินีแห่งเดโอกรุ๊ป เธอปิดบังอะไรเอาไว้ โชคชะตาอันเลวร้ายระหว่างทุกคน จะนำไปสู่ความสูญเสียอะไรบ้าง และจะสิ้นสุดลงตรงไหน

ต้องขอออกตัวก่อนว่า แนวเรื่องการแก้แค้น ไม่ใช่แนวที่ปกติเราจะเลือกดูเท่าไหร่ แต่ที่ตัดสินใจดูเรื่องนี้ เพราะเห็นชื่อนักแสดงนำหญิงอย่าง คิมซอนอา ที่เธอมารับบทเจ๋งๆหลายบทในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา พอได้ลองเปิดดูเท่านั้นแหละ ติดซะอย่างงั้น เพราะแค่สัปดาห์แรก ก็ตัดจบแบบเอาซะอึ้ง ไม่ตามต่อก็ไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ

คลิกเพื่อชม: ซีรีส์ Secret Boutique พร้อมซับไทย

แม้ตัวเรื่องจะค่อนข้างไปทาง Melodrama แก้แค้น หักหลัง และกลโกง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวละครหลักมีความฉลาด สามารถขัดแข้งขัดขากันไปมา ได้อย่างไม่มีใครยอมใคร แม้เรื่องราวจะเป็นเรื่องไกลตัวและออกไปทางน้ำเน่าในบางจุด (เล่ามากไม่ได้ เพราะมันจะสปอยล์จุดสำคัญของเรื่อง และจุดที่เรื่องพลิกไปพลิกมา และพลิกไปพลิกมา อีกหลายๆตลบ) แต่ก็เป็นการนำเสนอเรื่องน้ำเน่าอย่างมีชั้นเชิง และวางปมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครไว้อย่างซับซ้อน (เรื่องนี้เอาผู้หญิงเก่งมาฟาดกัน แต่ไม่ได้ลงไม้ลงมือ แย่งผู้ชายหรืออะไรแบบนั้นนะคะ มันมีอะไรมากกว่าเรื่องรัก)

ใครที่ชอบเรื่องราวที่ซับซ้อนคาดเดายาก ทำให้ประหลาดใจ ตัวละครที่ฉลาดทันกัน ไม่สนใจเลิฟไลน์ ไม่มีตลกเฮฮา เน้นไปทางอารมณ์หม่นๆ ก็อยากแนะนำเรื่องนี้ให้ลองดูค่ะ

Children of Nobody (MBC)

อีกผลงานดีๆของคิมซอนอา ที่ออกอากาศคาบเกี่ยวมาตั้งแต่ปลายปี 2018 นำเสนอเรื่องราวความน่าเศร้าใจของสังคมเกาหลี ที่เด็กมากมายตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว จนเป็นทีี่มาของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวลึกลับ การปรากฏตัวของเด็กหญิงในชุดกระโปรงสีเขียวที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่มองเห็น

การผสมผสานอย่างลงตัวของความลึกลับ ระทึกขวัญ และเนื้อเรื่องเชิงสืบสวน ส่งให้บทละครเรื่องนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ได้เข้าชิงรางวัลบทยอดเยี่ยม และละครยอดเยี่ยม เวที Baeksang Arts Awards (เวทีระดับประเทศของวงการบันเทิงเกาหลี) ซึ่งแค่นี้ก็ถือเป็นการการันตีคุณภาพที่ไม่ควรมองข้าม ภาพที่นำเสนอก็ถือว่าโหดเกินกว่าซีรีส์ช่องหลักทั่วไป ทำให้บางตอนที่เลือดสาดมาก ทางช่องก็ถึงกับต้องปรับเรทผู้ชมจาก 15 (เกณฑ์ปกติของละครช่วง Primetime) เป็น 19 ในบางตอน ราวกับเป็นซีรีส์งานช่อง OCN ที่มาแฝงตัวออกอากาศในช่อง MBC ซะอย่างงั้น

คลิกเพื่อชม: ซีรีส์ Children of Nobody พร้อมซับไทย

ส่วนของตัวคดีในเรื่อง เป็นการสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่เป็นความร่วมมือ(?) ระหว่างนางเอกที่เป็นนักจิตวิทยา และพระเอกที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เรื่องนี้เลิฟไลน์บางเบานะคะ คิดซะว่าไม่มีเลิฟไลน์เลยก็ได้55) ส่วนบุคคลที่น่าสงสัยก็มีมากมาย ซึ่งก็รวมถึงตัวนางเอกเองด้วย

ใครที่เป็นแฟนซีรีส์สไตล์ของช่อง OCN แบบเข้มๆ ไม่มีเลิฟไลน์ เลือดสาด ระทึกขวัญ แนะนำว่าต้องลอง

The Light in Your Eyes (JTBC)

ซีรีส์อีกเรื่องที่ได้เข้าชิงหลายรางวัลในงาน Baeksang Arts Awards (ผู้กำกับ / บทยอดเยี่ยม / ละรครยอดเยี่ยม) และส่งให้คุณยายคิมฮเยจา ผู้รับบทนำของเรื่อง คว้ารางวัลแดซัง (รางวัลสูงสุด) ไปครอง จากการรับบทหญิงสาววัย 25 ในร่างหญิงชราวัย 80

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ คิมฮเยจา (รับบทโดย ฮันจีมิน ผลงาน : Familiar Wife / Hyde, Jekyll, Me) ซึ่งมีของวิเศษอยู่ชิ้้นหนึ่ง คือนาฬิกาที่เพียงหมุนย้อนก็สามารถย้อนเวลาได้ เธอพบมัน ณ ชายหาดแห่งหนึ่งตั้งแต่ยังเด็ก เธอใช้มันกับเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่สักพัก และพบว่าเธอเริ่มโตกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกันมากเกินไป จนเห็นได้ชัด เธอจึงสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้นาฬิกานั้นอีก

แต่ก็ดันเกิดเรื่องที่ทำให้เธอต้องใช้นาฬิกาหลังจากที่ไม่ได้ใช้มันเป็นเวลานาน พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ความคิดเดียวของเธอคือ เธอต้องย้อนเวลาและช่วยพ่อของเธอให้ได้ แต่มันกลับไม่ง่ายเลย เธอต้องหมุนย้อนนาฬิกาเป็นสิบๆครั้ง เพื่อย้อนกลับไปในเช้าวันนั้น หลังการพยายามอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายเธอก็ทำสำเร็จ เธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และพบว่าพ่อของเธอ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทุกคนในบ้านกลับแสดงสีหน้าประหลาด และนั่นทำให้เธอพบว่า เธอกลายเป็นนแก่อายุราวแปดสิบ (รับบทโดย คิมฮเยจา ผลงาน : Dear My Friends / Unkind Women) ในชั่วข้ามคืน

ชีวิตที่เปลี่ยนไปของฮเยจา ไม่เพียงเป็นสิ่งที่เธอต้องยอมรับ แต่นั่นคือสิ่งที่คนรอบตัวต้องยอมรับด้วย นอกจากความสับสนและการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เราได้เห็นการรับมือของ พ่อแม่ พี่ และเพื่อนของเธอ ความยากลำบากของการมีคนแก่คนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในครอบครัวอย่างกะทันหัน คนแก่ที่ไม่อาจทำงาน หาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ คนแก่ที่มีเพียงบิลค่ายา และค่ารักษาพยาบาลเป็นแพ็คเกจพ่วงติดตัว และไม่ใช่ว่าคนแก่จะไม่รู้ ฮเยจาทำให้เราเห็นว่า เมื่อคนแก่รู้ว่าพวกเขาเป็นภาระให้คนที่เขารักและรักเขา เขาคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร และพยายามจัดการมันอย่างไร

คลิกเพื่อชม: ซีรีส์ The Light In Your Eyes พร้อมซับไทย

นอกจากความสับสนของตัวละครที่ต้องใช้ชีวิตเปลี่ยนไปกับร่างกายที่เสื่อมลง และความสัมพันธ์รอบตัวที่เปลี่ยนแปลงตาม บอกเลยว่าเรื่องนี้ยังมีการหักมุมขั้นสุด ที่ไม่ควรนำมาสปอยล์ด้วย เขียนมากเดี๋ยวจะหลุดสปอยล์ เอาเป็นว่า เป็นเรื่องที่ดูแล้วได้ข้อคิดเยอะมาก เป็นซีรีส์ที่ความยาวเพียง 12 ตอน แต่ทำให้เราได้ฉุกใจคิดถึงอะไรหลายๆอย่าง และเห็นคุณค่าของผู้คนรอบตัวมากขึ้น

ถือเป็นอีกเรื่องที่มีครบรส ทั้งความฮา ความรัก มิตรภาพ ครอบครัว ดูแล้วเต็มตื้นด้วยความรู้สึก ได้แง่คิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต (ส่วนตัวเสียน้ำตาไปเยอะมากกับเรื่องนี้) เป็นบทละครที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาด

Be Melodramatic (JTBC)

ปิดท้ายด้วยเรื่องสุดท้าย ที่ไม่อยากให้พลาดมากที่สุด และคิดว่าน่าจะถูกมองข้ามมากที่สุด ซีรีส์ที่ดูง่าย แต่กลับมีอะไรมากกว่าที่เห็น…

Be Melodramatic เรื่องราวการอยู่ร่วมกันของเพื่อนสาว 3 คนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ห้อยพ่วงด้วยตัวละครน้องชายของหนึ่งในสามสาว และลูกชายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งในเรื่อง ด้วยความที่ตัวละครทั้งสามเป็นผู้หญิงในวัย 30+ และเป็นเพื่อนกันมานาน แม้จะมีความคล้ายกับ Share House เรื่องอื่น แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับการปรับตัว ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างกันเหมือน Age Of Youth แต่เป็นความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจกันและกัน ของเพื่อนที่เข้าใจตัวตนกันดีอยู่แล้ว ทำให้แม้ว่าเรื่องส่วนใหญ่จะดำเนินเรื่องแยกกันในการใช้ชีวิตนอกบ้าน(การทำงาน) ของแต่ละคน แต่เรากลับรู้สึกได้ทุกครั้งที่ตัวละครเข้าฉากร่วมกันว่า ทั้งสามสาวเป็นเพื่อนที่สนิท เข้ากัน และเป็นกำลังใจแก่กันอย่างแท้จริง

ถ้าให้เปรียบเรื่องนี้กับซีรีส์ที่เคยดูมาก่อน คงต้องบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้มีความคล้ายกับ Age Of Youth อยู่มาก ไม่ว่าจะในแง่ของการดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหญิงเป็นหลัก การนำเสนอแบบกึ่งๆ Slice of Life ขนานไปกับเส้นเรื่องหลัก การเล่าเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ กับคนนอกบ้าน ขนานไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมบ้าน แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องของคนวัยทำงาน ( Age Of Youth ตัวละครเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย) ที่นอกจากจะมีเรื่องงาน ยังมีเรื่องส่วนตัวเช่น การสูญเสียคนรัก หรือการทำหน้าที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำให้เมื่อเกิดอารมณ์การดึงดราม่า ก็ทำให้สะเทือนใจ และกระแทกต่อมน้ำตาได้ค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะส่วนตัวที่อยู่ในวัย 30+ เรื่องนี้ถือว่าดราม่าในระดับมากในหลายจุด แต่ถ้าถามว่าเครียดมั้ย ก็ต้องบอกว่าไม่เลย เพราะความดราม่านั้นถูกนำเสนอในอารมณ์ Comedy ที่ทำให้บางครั้งระหว่างน้ำตาเอ่อๆคลอๆ ก็ยังหลุดหัวเราะออกมาได้ แต่บางเรื่องก็จริงเหลือเกิน จริงจนบางทีก็เป็นมุกที่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะมันกระแทก “จึ๊กๆ” เข้าไปถึงใจ ด้วยประโยคจี๊ดๆ ที่บางอันฟังแล้วก็ตบเข่าฉาด เพราะรู้สึกว่ามันโคตรจะจริง (ดูเรื่องนี้ รับรองว่าคุณจะต้องเจอประโยคถูกใจ และอาจจะเก็บเอาไว้ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เลย)

แนวการเล่าเรื่องให้ความรู้สึกไปในเชิงของการดำเนินชีวิตของคนธรรมดา มีการผูกเรื่องราวของชีวิตแต่ละคนขนานกันไป แต่สุดท้ายก็จะขมวดเข้ามาสู่เรื่องเดียวกัน(ถ้าดูไม่จบตอนจะเหมือนเล่าสะเปะสะปะ ต้องดูจบตอนแล้วจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น) ถือว่าเป็นการสร้างบทที่มีความเป็นเอกลักษณ์และพิเศษมาก เราจะได้เห็นการหยิบเอาเรื่องธรรมดามานำเสนอ แต่ในเรื่องธรรมดานั้น ภายใต้ปัจจัยที่แตกต่าง และแนวคิดที่ต่างกันของแต่ละตัวละคร เราก็จะได้เรียนรู้ ตั้งคำถาม และหาคำตอบที่เหมาะกับตัวเราเองไปด้วยพร้อมๆกัน บอกเลยว่าเรื่องนี้ ดูเอาขำ เอาสบาย ก็เหมาะ แต่ถ้าสามารถดูแบบใช้ความคิด ให้เวลาได้อินกับเรื่องราว บอกเลยว่า คุณจะเจอบทละครที่เรียบง่าย แต่สวยงามอย่างที่ไม่มีให้เห็นบ่อยๆ

คลิกเพื่อชม: ซีรีส์ Be Melodramatic พร้อมซับไทย

เป็นอีกเรื่องที่เล่าเรื่องชีวิตในทุกแง่มุม ทั้งมิตรภาพ / ความรัก / การทำงาน / ครอบครัว ในแบบที่ไม่เคร่งเครียด บทจะฮาก็ฮาสุด แต่บทจะดราม่าก็เอาน้ำตาคลอ ซาบซึ้ง ฟีลกู้ด อิ่มเอม แม้จะมีตัวละครเยอะ แต่ทุกตัวต่างมีเสน่ห์เฉพาะตัว ชวนให้เราติดตามให้กำลังใจ เป็นเรื่องที่ดูไม่ยาก และดีมากๆ ของปี 2019

เป็นไงคะ จากที่แนะนำมีใครได้ดูเรื่องไหนไปแล้วบ้าง ถ้ายังไม่ได้ดูก็ไปตามเก็บกันได้นะคะ

ปีใหม่ 2020 แล้ว นอกจากอยากจะให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ก็ขอให้มีเวลาดูซีรีส์ผ่อนคลายให้สบายใจกันด้วยน้าาาา สวัสดีปีใหม่ค่ะ

อ่านต่อ

Ting KR Series Lover

มนุษย์ผู้ร่ำรวยเวลา เลยเอามาดูซีรีส์ เขียนรีวิวเป็นบางที และ ... เธอชื่อ “ติ่ง” จริงๆนะ

บทความเกี่ยวข้อง

Back to top button