รีวิว: Racket Boys – ดวลแร็กเก็ตท้าฝัน
Racket Boys คือมิตรภาพของเพื่อนวัยมัธยมที่เกิดขึ้นพร้อมกับเรื่องราวของแบดมินตันที่เต็มไปด้วย มิตรภาพ ความรัก และความฝัน แฝงไปด้วยความอบอุ่นในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในชนบทของเกาหลี
Racket Boys
라켓 소년단
เรื่องย่อ – synopsis
ยุนแฮคัง (รับบทโดย ทังจุนซัง ผลงาน : Move To Heaven / Crash Landing on You) นักกีฬาเบสบอลตัวเก่งของโรงเรียน จำใจต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะงานใหม่ของพ่อ คือการไปเป็นโค้ชทีมแบดมินตันในโรงเรียนเล็กๆในชนบทห่างไกล ทีมที่อาจจะโดนยุบ หากไม่สร้างผลงานอะไรบ้าง
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
แต่มันดันมีปัญหาตรงแค่จำนวนสมาชิกของทีมก็ไม่เพียงพอที่จะร่วมแข่งขันที่ไหน เพราะจะเข้าแข่งขันได้ ต้องมีนักกีฬาอย่างน้อย 4 คน แต่ทีมของโรงเรียนแห่งนี้ หันมองซ้ายขวา ก็ยังเจอกันแค่ 3 คน งานนี้โค้ชยุนฮยอนจอง (รับบทโดย คิมซังคยอง ผลงาน : Miss Lee / The Crowned Clown) เลยต้องขอร้องให้ลูกชายมาเป็นตัวเติมให้ทีมเต็ม แต่ “นี่ ยุนแฮคังนะ” มาเล่นๆได้ที่ไหน จากที่แค่มาเติมทีม กลายเป็นว่า จิตวิญญาณของการอยากเอาชนะเข้าสิง งานนี้ยังไงก็แพ้ไม่ได้!!!!
รีวิว – review
หลังจากที่ SBS ประสบความสำเร็จจากการส่งซีรีส์กีฬาอย่าง Hot Stove League ขึ้นรับรางวัล Best Drama จากเวที Baeksang Arts Awards 2020 ทางช่องก็ส่งซีรีส์แนวกีฬาเรื่องใหม่ตามมาติดๆ ในปีนี้ กับทีมเด็กๆ นักกีฬาแบดมินตัน โดยได้นักเขียนบทมือดี เจ้าของผลงาน Prison Playbook มารับหน้าที่บอกเล่าเรื่องราว การเติบโต และมิตรภาพ ของเด็กๆ นักกีฬาแบดมินตันจากโรงเรียนในเมืองชนบท
ตัวละครหลักของเรื่องคือเหล่าบรรดาน้องๆ วัยมัธยมต้น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการเข้าเป็นทีมเยาวชนทีมชาติ ซึ่งการเลือกช่วงวัยนี้ (ปกติละครที่เล่าเรื่องในโรงเรียนมักจะเล่าเรื่องวัยมัธยมปลาย) นอกจากจะทำให้เราได้เห็นภาพอย่างชัดเจนของชีวิตนักกีฬาที่ต้องเริ่มตั้งแต่ยังเด็ก ช่วงวัยนี้ยังเป็นวัยที่มีความสดใสมาก และเรื่องนี้ก็ไม่ได้ยัดเยียดดราม่าชีวิตลงมากจนหนักหน่วง แต่เรื่องราวที่เด็กๆต้องพบเจอในเรื่อง เป็นเรื่องราวที่เหมาะสมกับวัย อย่าเรื่องพ่อแม่ ที่อาจมีความไม่เข้าใจกันเพราะช่องว่างระหว่างวัย หรือการทะเลาะกันในกลุ่มเพื่อน ที่สามารถคุยเปิดใจ เคลียร์กันได้ไม่ยาก เป็นวัยที่ยังไม่ซับซ้อน ไม่ได้คิดอะไรหลายชั้น มีอะไรก็ยังแสดงออกกันตรงๆ น้อยใจกันบ้าง หงุดหงิดใส่กันบ้าง แต่ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้มีโทนเรื่องสดใส ดูแล้วได้ยิ้มกับความสุขง่ายๆแบบเด็กๆ
แต่อย่างไรคงไม่พ้นการแทรกเรื่องที่ทำให้เราต้องเสียน้ำตาไว้ในแต่ละตอน ตามแบบฉบับของนักเขียนบทจากเรื่อง Prison Playbook ผลงานก่อนหน้านี้ แม้เรื่องราวของเด็กๆ ในเรื่องนี้จะไม่ได้ซับซ้อนหรือยากต่อการคาดเดามากนัก รวมถึงไม่ได้มีบทที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจ แต่พอถึงจังหวะที่พอดิบพอดีก็อดไม่ได้ที่จะเสียน้ำตาทุกที (แม้จะรู้อยู่แล้วแท้ๆ) อาจเป็นเพราะทั้งบท จังหวะการนำเสนอ และการแสดงของทุกคน พอมาผนวกรวมกัน ก็เรียกน้ำตาได้ไม่ยาก
เรื่องราวถูกเล่าโดยมีฉากเป็นเมืองชนบท แม้จะมีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสบายตา แต่กลับไม่ได้นำเสนอความเป็นชนบทออกมาสวยหรูเกินจริง แต่เล่าผ่านมุมมองที่มีทั้งแง่ดี และความยากลำบบากของการอยู่ห่างไกล และไม่สะดวกสบายเท่าเมืองหลวง แต่อย่างไรซะ ตามสไตล์เรื่องแนว ฟีลกู้ด เราก็ยังได้เห็นเรื่องราวดีๆของชาวบ้าน ที่มีผู้คนหลายช่วงวัย อยู่ร่วมกัน และเติมเต็มโลกของกันและกัน เหมือนที่เด็กๆ เข้ามาเติมความสดใสให้ผู้สูงอายุในหมู่บ้าน และผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน ก็ช่วยเหลือเกื้อกูลดูแลกันและกัน
ในแง่ของโลกกีฬา นอกจากซีรีส์จะเล่าเรื่องการเติบโตของเด็กแต่ะคน ที่ได้เรียนรู้ไปด้วยกันระหว่างการใช้ชีวิตเป็นทีมในโรงเรียน ผ่านการฝึกซ้อม หรือการเดินทางไปแข่งขันในระดับต่างๆ เรายังได้เห็นขั้นตอนการแข่งขัน เรื่องราวภายในวงการ การทำงานของโคัช ระบบอาวุโส – เส้นสาย (ที่ถือเป็นหนึ่งปัญหาในสังคมนักกีฬา) เส้นทางของเยาวชนสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งถ้าใครเป็นนักกีฬาก็คงจะอินได้ไม่ยาก และคนที่เคยเล่นแบดมินตันมาก่อน ก็คงจะมีคันไม้คันมือ อยากหยิบเอาแร็คเก็ตมาโชว์วงสวิงกันบ้าง
นักแสดงนำของเรื่อง ถือเป็นกลุ่มนักแสดงรุ่นเด็กที่น่าจับตามอง มีทั้งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้วอย่าง คิมคังฮุน ที่เห็นหน้าบ่อยมากๆ จากการรับบทตัวละครวัยเด็กในหลายเรื่องเช่น Mouse / Mr. Sunshine หรือรับบทตัวละครเด็กที่มีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องอย่างบทลูกชายของนางเอกใน When The Camellia Blooms ใน Racket Boys น้องก็มาเป็นหนึ่งในทีมหลักในเรื่อง ในบทน้องเล็กที่ยังน่ารักน่าชังเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมี ทังจุนซัง ที่เพิ่งจะโด่งดังจากการรับบทเด็กพิเศษใน Move To Heaven ที่พลิกบทบาทมารับบทเด็กวัยกำลังกวน ที่ยียวน และน่าหมั่นไส้ แต่ก็อดหลงรักไม่ได้ ซอนซังยอน กับบทกัปตันทีมบ้าโซเชียล ที่ต้องอัพเดทเรื่องราวของเพื่อนๆลงในไอจี (ที่มีอยู่จริงๆ) อย่างสม่ำเสมอ ชเวฮยอนอุค ก็เป็นอีกคนที่คนดูอาจเคยเห็นน้องในบทเด็กร้ายกาจใน Taxi Driver แต่เรื่องนี้ บทของน้องน่ารักมากๆ นอกจากนี้ยังมีน้องๆ ทีมหญิง เด็กจากทีมคู่แข่งต่างโรงเรียน จากทีมต่างเมือง บอกเลยว่าคึกครื้นมากๆ
อีกเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดในช่วงนี้ ดูแล้วเหมือนเติมพลังงานดีๆ และความสดใสให้กับชีวิต ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ มีมุกโบ๊ะบ๊ะ ขำกับความใสๆของเด็กในเรื่อง ซึบซับความสุขที่เรียบง่ายของวัยเด็ก มีเรื่องราวซาบซึ้ง อบอุ่นหัวใจ ตามสไตล์ซีรีส์ฟีลกู้ด ที่สำคัญดูเรื่องอื่นอาจจะได้พบรักกับสามีคนใหม่ แต่ถ้าดู Racket Boys คุณจะได้ลูกใหม่ไปเป็นโขยง เพราะเด็กๆน่ารัก น่าเอ็นดูมากกกกก
