การประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีโดยประธานาธิบดี สู่การโหวตยกเลิกโดยสภา – เกิดอะไรขึ้นกลางดึกในเกาหลี?
สถานการณ์การเมืองในเกาหลีใต้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลถึงวิกฤตทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อประชาธิปไตย แต่การตอบสนองของสภาและประชาชนทำให้การตัดสินใจนี้ถูกพลิกกลับอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
กฎอัยการศึกครั้งแรกในรอบ 44 ปี
การประกาศที่สร้างความตื่นตะลึง
ในช่วงค่ำวันที่ 3 ธันวาคม ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล ประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อจัดการกับ “กลุ่มต่อต้านรัฐ” ที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเกาหลีเหนือ โดยเขาระบุว่า “นี่เป็นมาตรการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อคุ้มครองรัฐธรรมนูญและเสรีภาพของประชาชน” แต่คำสั่งนี้นำมาซึ่งความกังวลและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากทุกภาคส่วน รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน
กองกำลังทหารเข้าสู่รัฐสภา
ไม่นานหลังจากประกาศกฎอัยการศึก ทหารหลายหน่วยถูกส่งไปยังอาคารรัฐสภาในกรุงโซล และพยายามปิดกั้นทางเข้าของสมาชิกรัฐสภาที่ต้องการประชุมฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าทหารบางส่วนพยายามเข้าสู่ห้องประชุมผ่านทางหน้าต่าง สร้างสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างมาก
ความฮาแบบ BABYMONSTER! วัดสกิลวาไรตี้กับ Knowing Brothes ดูได้ที่ Viu ▶ คลิก
การโหวตยกเลิกท่ามกลางแรงกดดัน
สส. ฝ่ากองกำลังทหารเพื่อทำหน้าที่
แม้ทางเข้าสภาจะถูกกองกำลังทหารและตำรวจปิดกั้น แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 190 คนก็สามารถเข้าไปยังอาคารได้สำเร็จเพื่อเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินในช่วงเวลาเที่ยงคืน ความเด็ดเดี่ยวของพวกเขานำไปสู่การโหวตยกเลิกกฎอัยการศึกโดยอาศัยเสียงข้างมากในรัฐธรรมนูญตามมาตรา 77 และ มาตรา 11 ของกฎหมายกฎอัยการศึก
ผลการโหวตที่เป็นเอกฉันท์
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง สภาลงมติยกเลิกกฎอัยการศึกด้วยคะแนนเสียง 190 ต่อ 0 จากสมาชิกที่เข้าร่วมทั้งหมด โดยไม่มีผู้ใดลงคะแนนคัดค้าน หลังการลงมติ โฆษกของรัฐสภาได้ประกาศว่า “คำสั่งกฎอัยการศึกถือเป็นโมฆะ” และเรียกร้องให้ทหารและตำรวจถอนตัวจากอาคารทันที
ปฏิกิริยาจากประชาชนและนักการเมือง
ประชาชนร่วมกดดัน
ประชาชนจำนวนมากรวมตัวประท้วงนอกอาคารรัฐสภา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดียุน นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าการประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติและประชาธิปไตยของประเทศ
การโต้ตอบของนักการเมือง
พรรคประชาธิปไตย (DP) ที่ควบคุมเสียงข้างมากในสภาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีปฏิบัติตามผลการลงมติ ขณะที่สมาชิกบางคนจากพรรคฝ่ายค้านเสนอว่าการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้อาจเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีถูกถอดถอน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของระบบประชาธิปไตยและความมุ่งมั่นของสมาชิกรัฐสภาในการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แม้ว่ากฎอัยการศึกจะถูกยกเลิกในเวลาอันรวดเร็ว แต่ความไม่พอใจจากประชาชนและแรงกดดันจากพรรคฝ่ายค้านอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต