Law of The Jungle: ทางการไทยเตรียมเอาผิดกรณี ‘หอยมือเสือ’ มีโทษทั้งจำและปรับ

ประเด็นของการร้องเรียนรายการ Law of The Jungle ที่เดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทย และได้จับหอยมือเสือที่เป็นสัตว์น้ำหายาก และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองขึ้นมาประกอบอาหาร ซึ่งล่าสุดทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้รับเรื่องร้องเรียนไว้พร้อมเตรียมเอาผิดทางกฎหมายต่อการถ่ายทำของรายการจากเกาหลี
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ทาง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง พิจารณาจากข้อมูลและหลักฐานเบื้องต้นแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่า
“กรณีนี้ถือว่ามีความผิดชัด เพราะหอยมือเสือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แม้แต่รายการอาหารที่เคยเกิดกรณีนำปลากระเบนนก ที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ก็ยังถูกท้วงติง ส่วนรายการนี้จะอ้างว่าซื้อมา หรือไม่รู้ว่าเป็นสัตว์คุ้มครองก็ฟังไม่ขึ้น เพราะควรต้องศึกษาข้อมูลก่อน”
🎙GYUBIN ปลื้มเมืองไทยขนาดไหน? ถึงกลับมาถ่าย MV เพลงใหม่ LIKE U 100 ที่กรุงเทพ
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษจากรายงานล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่าการถ่ายทำของรายการ Law of The Jungle ในประเทศไทย ได้ยื่นรายละเอียดเพื่อขออนุญาตต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช โดยมี บริษัทเดอะซิกซ์ เอลลิเมนท์ เป็นผู้ประสานงาน ขออนุญาตเข้าถ่ายทำรายการโทรทัศน์ในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม, เกาะแหวน และเกาะมุก ในวันที่ 29 มี.ค.และวันที่ 1 เม.ย. ถึง 3 เม.ย. ซึ่งเหตุการณ์ที่ร้องเรียนเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่อ่าวโล๊ะอุดัง หมู่ที่ 2 เกาะมุก จังหวัดตรัง ซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตถ่ายทำ
สำหรับโทษที่ระบุไว้จากการพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่ระบุให้หอยมือเสื่อเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง “ห้ามล่า ห้ามมี และห้ามซื้อขาย” ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งเปลือกของหอยมือเสือถือเป็นซากสัตว์ป่า
รายงานจากฝั่งเกาหลีก่อนหน้านี้ ทางตัวแทนจากรายการ Law of The Jungle ได้แจ้งกับสื่อในเกาหลีหลังเกิดประเด็นร้องเรียนขึ้นว่า
“การถ่ายทำของรายการได้รับอนุญาตจากทางการท้องถิ่น และระหว่างการถ่ายทำของรายการก็ได้รับการดูแลจากผู้ประสานงานท้องถิ่นตลอดการถ่ายทำ ซึ่งการถ่ายทำเป็นไปตามข้อกำหนดที่ถูกวางไว้ทั้งหมด และไม่มีส่วนใดของการทำงานที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย”