โลกไอดอล : เด็กฝึกหัด ไม่ใช่แค่การซ้อมร้องหรือเต้น

2016 เป็นปีที่แฟนๆ K-Pop เริ่มหันมาให้ความสนใจกับคำว่าเด็กฝึกหัดมากขึ้น จากการได้รับชมรายดารออดิชั่น เซอร์ไววัลของเหล่าเด็กฝึกหัดอย่าง Produce 101 ที่ทำให้แฟนๆ K-Pop รู้ว่ามีเด็กฝึกหัดอีกมากมายที่กำลังรอโอกาสในการเดบิวท์
ภาพของเด็กฝึกหัดที่เราได้พบเห็นผ่านรายการต่างๆอาจจะเป็นความสวยงาม ความทุ่มเทและพยายามในการฝึกร้อง ฝึกเต้น เพื่อโอกาสในการเดบิวท์ แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีเรื่องราวและการเรียนรู้อีกมากมายในการเป็นเด็กฝึกหัด โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างอุปนิสัย และคาแรคเตอร์ของการเป็น ไอดอล
การสร้างอุปนิสัย และคาแรคเตอร์ของการเป็น ไอดอล
ตัวแทนของ DSP Entertainment ได้เปิดเผยว่าการพัฒนาบุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ ร่วมถึงอุปนิสัยต่างๆที่เหมาะสม โดยต้องเริ่มต้นสอนกันตั้งแต่วิธีการทักทาย การปฏิบัติตัวต่อหน้าผู้ชม และการวางตัวในรายการโทรทัศน์
GOT7 ทัก! ส่งคลิปทักทายอากาเซ่ไทย
▶ คลิกดูสัมภาษณ์พิเศษในขณะที่ทาง Starship Entertainment ได้สอนเรื่องการพูดในที่สาธารณะ และข้อห้ามในการพูดต่างๆโดยเฉพาะเรื่องคำหยาบคาย พร้อมกับคอร์สพิเศษที่เด็กฝึกหัดจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ รวมถึงการรับมือกับคำถามที่ไม่คาดคิด ก่อนการเดบิวท์
นอกจากนี้ค่ายยังต้องจัดให้มีที่ปรึกษา เพื่อคอยดูแลสภาพจิตใจของศิลปิน เพื่อให้ได้รับคำปรึกษาที่เหมาะสม
ทางด้าน JYP Entertainment จะให้ความสำคัญกับการศึกษาในโรงเรียน และเรื่องของศีลธรรม จริยธรรม โดยเด็กฝึกหัดของ JYP จะต้องไม่ขาดเรียนถ้าไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ โดยการฝึกซ้อมจะเกิดขึ้นหลังเวลาเรียน
[ad name=”1″]ความรู้เรื่อง สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
เป็นเรื่องราวในหมวคความรู้ที่ส่งผลอย่างมากต่อสาธารณะ รวมถึงการโปรโมทในต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมต่างกัน โดย KOCCA ได้เชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัย เพื่อมาให้ความรู้ในด้านนี้กับเหล่าไอดอลและเด็กฝึกหัด ซึ่งเริ่มเปิดคอร์สตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
โดยหลักสูตรจะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นทางประวัติศาสตร์ และความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรม โดยเฉพาะในประเทศที่มีความแตกต่างทางด้านศาสนา เช่นเดียวกับเรื่องเชื้อชาติ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และจำเป็นต้องระมัดระวัง
ในหลายๆครั้งที่การบกพร่องในความเข้าใจต่อ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเชื้อชาติ นำมาซึ่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ในขณะที่ ถ้าหากเข้าใจ และปฏิบัติได้ถูกต้อง ก็จะได้ผลตอบรับซึ่งนำมาสู่คำชมเชยต่างๆ
เวลา และกติกา คือเรื่องสำคัญของการเป็นเด็กฝึกหัด
หลายครั้งที่สถานีรถไฟย่านชองดัมดงจะมีเด็กวันรุ่นหน้าตาดี วิ่งออกจากสถานีอย่างเร่งรีบเสมอ จากผู้พบเห็นเล่าว่าเด็กหน้าตาดีส่วนใหญ่ที่เห็นในย่านนี้เป็นเด็กฝึกหัดของค่ายบันเทิงต่างๆทั้งนั้น
เนื่องจากเวลาการซ้อมในแต่ละวันมีจำกัด และยิ่งต้องฝึกซ้อมนานเท่าไหร่นั่นคือระยะเวลาที่ค่ายต้องลงทุนนานยิ่งขึ้น จึงทำให้ต้องมีกฎที่เข้มงวดต่างๆ เพื่อให้การฝึกซ้อมออกมาได้ผลดีที่สุด
อดีตเด็กฝึกหัด ที่ไม่ระบุชื่อได้เปิดเผยว่า “ถ้ามาซ้อมสาย หรือว่าทำผิดกฎในการซ้อม จะถูกลงโทษด้วยการ วิ่งพร้อมกับร้องเพลงไปรอบๆห้องซ้อม 10 รอบ หรือไม่ก็ร้องเพลงไปแล้วซิทอัพไป ในบางครั้งอาจจะต้องเขียนบันทึกความผิดเป็นจดหมาย แล้วจะไม่ได้กลับมาซ้อมอีกจนกว่าจะแก้ปัญหานั้นได้”
การดูแลรูปร่าง และเรื่องจุกจิกมากมายที่ต้องถูกควบคุม
อดีตเด็กฝึกหัดได้เล่าว่า “ในทุกๆเดือนจะมีการประเมินรูปร่าง การวัดเปอร์เซนท์ไขมัน เพื่อที่จะบอกว่าใครควรปรับปรุงในการดูแลตัวเอง แล้วบางครั้งการลงโทษหลายๆอย่าง ก็มีขึ้นเพื่อให้เราได้ออกกำลังกาย อย่างพวกวิดพื้น ซิทอัพ หรือวิ่ง”
“จะมีช่วงเวลาที่เทรนเนอร์ให้เรานั่งสมาธิหลับตาเป็นชั่วโมง พอลืมตาขึ้นมาก็ให้เราเขียนบันทึกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรต้องแก้ไขบ้าง”
“เทรนเนอร์จะสอนให้เล่นเครื่องดนตรีอย่างน้อยคนละหนึ่งชิ้น บางครั้งก็ฝึก Perfect Pitch ให้ ด้วยการกดโน๊ตมามั่วๆ แล้วถามว่ามันคือโน๊ตอะไร”
การเสียสละ เพื่อแลกกับความฝัน
เด็กฝึกหัดหลายคนต้องยอมเสียช่วงเวลาในวัยเด็กเพื่อฝึกซ้อมแลกกับความฝันในการเป็นดารา ศิลปิน
“ฉันอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อน ออกไปกินข้าวด้วยกัน ฉันคิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้วก็ร้องไห้อยู่บ่อยๆ บางครั้งฉันก็คุยเรื่องนี้กับที่ปรึกษาของค่าย เค้าก็แนะนำว่า ถ้าอยากที่จะทำตามใจอย่างนั้นคุณควรจะออกจากที่นี่ไป”
สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่เด็กฝึกหัดทุกคนที่จะทำความฝันได้สำเร็จ
“นานมาแล้วที่ฉันคิดว่าการเป็นนักร้อง คือหนทางเส้นเดียวของฉัน ฉันคงจะต้องตายถ้าไม่ได้เป็นนักร้อง แต่ตอนนี้ฉันก็เลือกที่จะออกมาจากตรงนั้นแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่เป็นอะไรที่ไม่เลือกเดินทางนั้น จริงๆแล้วอะไรๆมันก็ดีขึ้น แต่ถึงฉันจะออกมาแล้วแต่ก็ยังคงจำเรื่องราวในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัดได้อยู่”